Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 11

อาหารที่เป็นมลทินและไม่เป็นมลทิน

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนดังนี้

2 “จงกล่าวแก่ชนอิสราเอลว่า ‘ในบรรดาสัตว์ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดิน สัตว์ที่เจ้ากินได้คือ

3 สัตว์ใดๆ ที่มีกีบแยกและเคี้ยวเอื้อง

4 “ ‘แต่เจ้าอย่ากินสัตว์ที่เคี้ยวเอื้องหรือมีกีบแยกเพียงอย่างเดียวเช่น อูฐ มันเคี้ยวเอื้องแต่ไม่มีกีบแยก นี่คือสัตว์ที่เป็นมลทินตามระเบียบพิธีสำหรับเจ้า

5 กระจงผาเคี้ยวเอื้องแต่ไม่มีกีบแยก จึงเป็นมลทินสำหรับเจ้า

6 กระต่าย แม้เคี้ยวเอื้องแต่ไม่มีกีบแยก นี่เป็นมลทินสำหรับเจ้า

7 และหมู แม้มีกีบแยกแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง นี่ก็เป็นมลทินสำหรับเจ้า

8 เจ้าอย่ากินเนื้อสัตว์เหล่านี้หรือแตะต้องซากของมัน เพราะเป็นสัตว์ที่เป็นมลทินสำหรับเจ้า

9 “ ‘เจ้ากินสัตว์น้ำจืดน้ำเค็มที่มีทั้งครีบและเกล็ดได้

10 แต่เจ้าพึงรังเกียจสัตว์น้ำที่ไม่มีทั้งครีบและเกล็ด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กๆ หรือสัตว์อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในน้ำ

11 มันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับเจ้า ดังนั้นอย่ากินเนื้อของมันหรือแม้แต่แตะต้องซากของมัน

12 สัตว์น้ำใดๆ ซึ่งไม่มีทั้งครีบและเกล็ดเป็นที่พึงรังเกียจสำหรับเจ้า

13 “ ‘เจ้าอย่ากินสัตว์ปีกที่น่ารังเกียจต่อไปนี้คือ นกอินทรี แร้ง แร้งดำ

14 เหยี่ยวแดง เหยี่ยวดำทุกชนิด

15 กาชนิดต่างๆ

16 นกเค้าใหญ่ นกเค้า นกนางนวล เหยี่ยวทุ่งทุกชนิด

17 นกฮูก นกกาน้ำ นกทึดทือ

18 นกแสก นกเค้าป่า นกออก

19 นกกระสา นกยางทุกชนิด นกกะรางหัวขวาน และค้างคาว

20 “ ‘เจ้าพึงรังเกียจแมลงบินได้ที่คลานสี่ขา

21 แต่มีแมลงซึ่งคลานสี่ขาบางพวกที่เจ้ากินได้ คือพวกที่ใช้ขากระโดด

22 เช่น ตั๊กแตนทุกชนิด จิ้งหรีด และจักจั่น เจ้ากินได้

23 แต่เจ้าพึงรังเกียจแมลงมีปีกอื่นๆ ที่มีสี่ขา

24 “ ‘ผู้ใดแตะต้องซากของมันจะเป็นมลทินจนถึงเย็น

25 ผู้ที่นำซากของมันไปทิ้งจะต้องซักเสื้อผ้าของตน และเขาจะเป็นมลทินไปจนถึงเย็นด้วย

26 “ ‘สัตว์ที่ไม่มีกีบแยกหรือไม่เคี้ยวเอื้องเป็นสัตว์ที่เป็นมลทินสำหรับเจ้า ผู้ใดแตะต้องซากสัตว์เหล่านี้ย่อมเป็นมลทิน

27 สัตว์สี่ขาทุกชนิดที่เดินด้วยอุ้งเท้าเป็นสัตว์ที่เป็นมลทินสำหรับเจ้า ผู้ใดแตะต้องซากของมันจะเป็นมลทินจนถึงเย็น

28 ผู้ใดนำซากของมันไปทิ้งจะต้องซักเสื้อผ้า และถือว่าเป็นมลทินไปจนถึงเย็น เพราะเป็นสัตว์ที่เป็นมลทินสำหรับเจ้า

29 “ ‘สัตว์ที่เลื้อยคลานต่อไปนี้เป็นสัตว์ที่เป็นมลทินสำหรับเจ้าได้แก่ อีเห็น หนู ตะกวดทุกชนิด

30 ตุ๊กแก จิ้งเหลน จิ้งจก แย้ กิ้งก่า

31 สัตว์เหล่านี้เป็นมลทินสำหรับเจ้า ผู้ใดแตะต้องซากของมันจะเป็นมลทินจนถึงเย็น

32 และหากซากของมันไปถูกสิ่งใด สิ่งนั้นจะเป็นมลทิน ไม่ว่าจะเป็นภาชนะไม้ เสื้อผ้า หนังสัตว์ หรือกระสอบ ให้นำสิ่งนั้นไปจุ่มน้ำ มันจะเป็นมลทินจนถึงเย็น และหลังจากนั้นมันจึงจะสะอาด

33 หากมันตกลงไปในหม้อดิน สิ่งที่อยู่ในหม้อนั้นก็เป็นมลทิน จงทุบหม้อใบนั้นทิ้ง

34 อาหารใดๆ ที่กินได้แต่มีน้ำจากหม้อนั้นก็เป็นมลทิน และของเหลวที่ดื่มได้จากหม้อนั้นก็เป็นมลทินด้วย

35 ซากสัตว์เหล่านี้ไปถูกสิ่งใดก็ตาม สิ่งนั้นย่อมเป็นมลทิน ไม่ว่าเตาอบหรือหม้อหุงต้มต้องทุบทิ้ง สิ่งเหล่านี้เป็นมลทินและเจ้าต้องถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นมลทิน

36 หากซากสัตว์ตกลงไปในน้ำพุหรือแหล่งน้ำ น้ำนั้นไม่เป็นมลทิน แต่ผู้ที่แตะต้องซากสัตว์จะเป็นมลทิน

37 หากซากสัตว์ไปถูกเมล็ดพืชที่จะหว่าน เมล็ดพืชเหล่านั้นไม่เป็นมลทิน

38 แต่หากเมล็ดนั้นแช่น้ำอยู่และซากสัตว์ตกลงไปถูกมัน เมล็ดนั้นเป็นมลทินสำหรับเจ้า

39 “ ‘หากสัตว์ซึ่งอนุญาตให้เจ้ากินได้นั้นตาย ผู้ใดแตะต้องซากของมันจะเป็นมลทินจนถึงเย็น

40 ผู้ใดที่กินเนื้อของมันหรือเอาซากออกไปทิ้ง ผู้นั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตนและเป็นมลทินจนถึงเย็น

41 “ ‘เจ้าพึงรังเกียจสัตว์ที่เลื้อยคลานทุกชนิด อย่ากินมันเลย

42 ห้ามเจ้ากินสัตว์เหล่านี้ทุกชนิด ไม่ว่าสัตว์ที่เลื้อยไปด้วยท้อง ที่คลานสี่ขา หรือที่มีขามากกว่านั้น พวกมันเป็นสัตว์น่ารังเกียจ

43 อย่าทำให้ตัวเองแปดเปื้อนด้วยสัตว์เหล่านี้โดยไปแตะต้องมัน หรือให้มันมาถูกต้องตัวเจ้า

44 เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า จงแยกตัวออกมาเพื่อเรา และรักษาตนเองให้บริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์ อย่าทำให้ตัวเองเป็นมลทินโดยแตะต้องสัตว์ที่เลื้อยคลานใดๆ

45 เราคือพระยาห์เวห์ผู้ที่นำเจ้าออกมาจากอียิปต์เพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า ดังนั้นจงบริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์

46 “ ‘ทั้งหมดนี้คือกฎระเบียบเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ สัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตว์ที่เลื้อยคลานทุกชนิด

47 เจ้าจะต้องแยกแยะระหว่างสิ่งที่สะอาดและสิ่งที่เป็นมลทิน สัตว์ที่เจ้ากินได้และที่ห้ามกิน’ ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/11-c27951f7f345bd9cc4bee264252b5671.mp3?version_id=179—

Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 12

การชำระตนหลังคลอด

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงกล่าวแก่ชนอิสราเอลดังนี้ ‘สตรีคนใดตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชาย ผู้เป็นแม่จะเป็นมลทินตามระเบียบพิธีเป็นเวลาเจ็ดวันเช่นเดียวกับที่เป็นมลทินระหว่างมีประจำเดือน

3 ในวันที่แปดให้ทารกชายนั้นเข้าสุหนัต

4 จากนั้นนางต้องคอย 33 วัน เพื่อชำระตนจากการหลั่งโลหิต นางจะต้องไม่แตะต้องสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์หรือเข้าไปในสถานนมัสการจนกว่าจะครบกำหนดการชำระของนาง

5 หากคลอดบุตรสาว นางจะเป็นมลทินอยู่สองสัปดาห์เช่นเดียวกับเมื่อมีประจำเดือน แล้วนางจะต้องรอ 66 วันเพื่อชำระตนเนื่องจากหลั่งโลหิต

6 “ ‘เมื่อสิ้นสุดระยะการชำระตนแล้ว ไม่ว่าจะคลอดบุตรเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย นางจะต้องนำลูกแกะอายุหนึ่งขวบหนึ่งตัวมาเป็นเครื่องเผาบูชา และนกพิราบรุ่นหรือนกเขาหนึ่งตัวมาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป นางจะนำมามอบแก่ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ

7 ปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อลบบาปของนาง แล้วนางจะพ้นมลทินตามระเบียบพิธีจากการที่โลหิตได้หลั่งไหล

“ ‘สิ่งเหล่านี้คือกฎระเบียบสำหรับสตรีที่คลอดบุตรไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

8 หากนางยากจนเกินกว่าจะถวายลูกแกะหนึ่งตัว ก็ให้นำนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัวมาแทน ตัวหนึ่งจะใช้เป็นเครื่องเผาบูชา ส่วนอีกตัวใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ปุโรหิตจะทำการลบบาปโดยวิธีนี้ให้นางและนางจะพ้นมลทิน’ ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/12-e43c1c7bd47130759c3236f210420363.mp3?version_id=179—

Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 13

กฎระเบียบเกี่ยวกับโรคติดต่อทางผิวหนัง

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า

2 “หากผู้ใดเกิดอาการบวมที่ผิวหนัง หรือเป็นผื่น หรือมีรอยด่าง ให้สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนังจะต้องนำผู้นั้นมาพบปุโรหิตอาโรนหรือบุตรชายคนหนึ่งคนใดของอาโรนที่เป็นปุโรหิต

3 ปุโรหิตจะต้องตรวจดูรอยโรคของผู้นั้น หากขนบนผิวหนังบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวและรอยโรคนี้ลามลึกกว่าผิวหนังลงไป แสดงว่าเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินตามระเบียบพิธี

4 แต่หากผิวหนังบริเวณนี้เป็นด่างแต่ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนในบริเวณดังกล่าวก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว ปุโรหิตจะต้องกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน

5 ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากบริเวณที่บวมดังกล่าวยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง ปุโรหิตก็จะกักตัวเขาไว้อีกเจ็ดวัน

6 ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากรอยโรคดีขึ้น ไม่ได้ลามลึกลงไป ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน เป็นเพียงผื่นธรรมดา ผู้นั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน แล้วเขาก็จะสะอาด

7 แต่หากผื่นนั้นเห่อลามไปหลังจากที่เขาให้ปุโรหิตตรวจดูหนหนึ่งแล้ว เขาจะต้องกลับมาหาปุโรหิตอีก

8 ปุโรหิตจะตรวจเขาใหม่ หากเห็นว่าผื่นนั้นเห่อลามตามผิวหนังก็จะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เขาเป็นโรคติดต่อ

9 “หากผู้ใดเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง ต้องนำเขาไปพบปุโรหิต

10 แล้วปุโรหิตจะตรวจผู้นั้น หากเขามีอาการบวมซีดที่ผิวหนัง ขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยบวมนั้นปริแตกเป็นแผล

11 เขาก็เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินโดยไม่ต้องกักตัวไว้ดูอาการอีก เพราะเขาเป็นมลทินแล้ว

12 “แต่หากปุโรหิตเห็นว่ารอยโรคนั้นกระจายไปทั่วตั้งแต่ศีรษะจดเท้า

13 ปุโรหิตต้องตรวจดูเขา หากรอยโรคนั้นปกคลุมไปทั้งตัว ให้ประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน เนื่องจากร่างกายของเขากลายเป็นด่างขาวไปทั้งตัว เขาจึงสะอาดไม่เป็นโรคติดต่อ

14 แต่เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายของเขามีแผล ผู้นั้นก็เป็นมลทิน

15 เมื่อปุโรหิตพบเห็นรอยแผลนั้น ให้ประกาศว่าเขาเป็นมลทิน รอยแผลนั้นไม่สะอาด ทำให้เขาเป็นโรคติดต่อ

16 หากรอยแผลนั้นตกสะเก็ด ให้เขากลับไปหาปุโรหิต

17 ปุโรหิตจะตรวจดูอีกครั้ง หากแผลนั้นหายแห้งดีแล้ว ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาหายจากโรคติดต่อ เขาสะอาดพ้นมลทิน

18 “หากผู้ใดเป็นฝีและหายแล้ว

19 แต่รอยฝีเกิดอาการบวมด่างหรือเปลี่ยนเป็นสีขาวอมชมพูเรื่อๆ ผู้นั้นต้องไปให้ปุโรหิตตรวจดู

20 หากอาการลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาว ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน โรคติดต่อทางผิวหนังได้ลามออกมาจากฝีนั้น

21 แต่เมื่อปุโรหิตตรวจดูแล้ว ขนบริเวณนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยโรคนั้นไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง อีกทั้งสีก็กำลังจางลง ให้ปุโรหิตกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน

22 หากโรคนั้นลามออกไปตามผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นโรคติดต่อ

23 แต่หากลักษณะของรอยโรคนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ลุกลามออกไป รอยนี้ก็เป็นเพียงแผลเป็นหลังจากเป็นฝี ปุโรหิตก็จะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน

24 “หากผู้ใดมีแผลไฟไหม้และแผลนี้กลายเป็นสีขาวหรือสีขาวอมชมพูเรื่อๆ

25 ให้ปุโรหิตตรวจดูรอยนั้น ถ้าขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวและอาการลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง โรคติดต่อได้ลามจากรอยไหม้นั้นแล้ว ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง

26 หากปุโรหิตตรวจดูพบว่าขนบริเวณนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว และรอยแผลนั้นก็ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง อีกทั้งสีก็กำลังจางลง ให้ปุโรหิตกักตัวเขาไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน

27 ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจผู้นั้นอีกครั้ง หากแผลนั้นลุกลามออกไป ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง

28 หากลักษณะของแผลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ได้ลุกลามออกไป แต่กำลังจางลง รอยนี้ก็เป็นเพียงรอยบวมหรือแผลเป็นจากไฟไหม้ ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน

29 “หากชายหรือหญิงคนใดมีแผลที่ศีรษะหรือคาง

30 ให้ปุโรหิตตรวจดูแผลนั้น หากแผลลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และขนบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและบางลง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เป็นแผลคัน เป็นโรคติดต่อที่ศีรษะหรือคาง

31 แต่หากปุโรหิตตรวจพบว่าแผลคันนั้นไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง และไม่มีขนสีดำในบริเวณนั้น ให้กักคนนั้นไว้ดูอาการเป็นเวลาเจ็ดวัน

32 ในวันที่เจ็ดให้ปุโรหิตตรวจดูผู้นั้น หากแผลคันไม่ได้ลามไปและไม่ได้มีขนสีเหลืองขึ้นมา อีกทั้งแผลนี้ก็ไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง

33 จะต้องโกนขนบริเวณรอบๆ แผลนั้นออก และปุโรหิตจะกักตัวเขาไว้อีกเจ็ดวัน

34 ในวันที่เจ็ดให้ปุโรหิตตรวจผู้นั้นอีก หากแผลคันนี้ไม่ได้ลามไปและไม่ได้ลามลึกลงไปใต้ผิวหนัง ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาสะอาด เขาต้องซักเสื้อผ้าและถือว่าเขาปราศจากมลทิน

35 แต่ถ้าแผลคันนั้นลามออกไปหลังจากประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทินแล้ว

36 ปุโรหิตจะตรวจอีกครั้ง หากแผลคันนั้นลามออกไปก็ประกาศว่าเขาเป็นมลทินโดยไม่ต้องรอดูว่ามีขนสีเหลืองหรือไม่

37 แต่หากปุโรหิตเห็นว่าแผลนั้นไม่ลามออกไปและมีขนสีดำขึ้นบริเวณนั้น แผลคันนั้นก็หายแล้ว เขาก็ไม่เป็นมลทิน และปุโรหิตจะประกาศว่าเขาสะอาด ไม่เป็นมลทิน

38 “หากชายหรือหญิงคนใดมีรอยด่างขาวขึ้นที่ผิวหนัง

39 ให้ปุโรหิตตรวจดู หากรอยเหล่านี้คล้ำลง รอยที่ขึ้นบนผิวหนังประเภทนี้ก็เป็นเพียงผื่นที่ไม่เป็นอันตราย เขาก็ไม่เป็นมลทิน

40 “หากชายคนใดผมร่วงจนหัวล้านเลี่ยน เขาก็ไม่เป็นมลทิน

41 หากผมบริเวณหน้าผากร่วงจนเถิก เขาก็ไม่เป็นมลทิน

42 แต่ถ้าบริเวณที่ล้านนั้นมีรอยแดงเรื่อๆ ก็เป็นโรคติดต่อที่ศีรษะหรือหน้าผาก

43 ปุโรหิตจะตรวจดู หากมีแผลบวมแดงเรื่อๆ ที่ศีรษะหรือหน้าผากคล้ายโรคติดต่อทางผิวหนัง

44 ชายผู้นี้ก็เป็นโรคติดต่อและเป็นมลทิน ปุโรหิตจะประกาศว่าเขาเป็นมลทินเพราะแผลบนศีรษะของเขา

45 “ผู้ใดถูกตรวจพบว่าเป็นโรคติดต่อ ผู้นั้นต้องสวมเสื้อผ้าฉีกขาด ปล่อยผมรุงรังปิดส่วนล่างของใบหน้าและร้องว่า ‘เป็นมลทิน! เป็นมลทิน!’

46 ตราบใดที่เขายังเป็นโรคติดต่อ เขาก็เป็นมลทิน และเขาต้องอยู่ตามลำพังนอกค่าย

กฎระเบียบเกี่ยวกับเชื้อรา

47 “หากสงสัยว่ามีราขึ้นที่เสื้อผ้าขนสัตว์หรือผ้าลินิน

48 หรือที่สิ่งถักทอจากลินิน หรือจากขนสัตว์ หรือที่แผ่นหนัง หรือเครื่องใช้ที่ทำจากหนัง

49 และมีจุดเขียวหรือแดงที่ของนั้น เครื่องใช้เหล่านั้นก็ขึ้นรา จะต้องนำมาให้ปุโรหิตดู

50 ปุโรหิตจะตรวจดูเชื้อรา และแยกเครื่องใช้เหล่านี้ไว้เจ็ดวัน

51 ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะตรวจดูอีกครั้ง ถ้าเชื้อรานั้นลามออกไปก็แสดงว่ารานี้มีพิษ ของสิ่งนั้นก็เป็นมลทิน

52 ต้องเผาทิ้งเนื่องจากมีราที่เป็นพิษ

53 “แต่ถ้าปุโรหิตตรวจดูเครื่องใช้เหล่านั้นแล้วพบว่าราไม่ได้ลามออกไป

54 ต้องนำสิ่งเหล่านั้นไปซักล้าง แล้วแยกออกจากเครื่องใช้อื่นๆ ไว้เจ็ดวัน

55 หลังจากนั้นปุโรหิตต้องตรวจดูเครื่องใช้เหล่านี้อีก หากพบว่ายังมีราติดอยู่แม้จะไม่ได้ลามออกไปก็ให้ถือว่าเป็นมลทิน ต้องเผาทิ้ง ไม่ว่ารานั้นจะอยู่ด้านใดด้านหนึ่งบนของสิ่งนั้น

56 แต่หลังจากซักล้างแล้ว หากปุโรหิตตรวจพบว่าราในเครื่องใช้เหล่านี้จางลง ให้ตัดส่วนที่ขึ้นราทิ้ง

57 หากมีราปรากฏขึ้นอีกและลุกลามออกไป ให้เผาเครื่องใช้เหล่านี้

58 แต่หากซักล้างแล้วไม่ปรากฏร่องรอย ก็ให้นำไปซักอีกครั้ง จึงจะถือว่าสิ่งนั้นสะอาด”

59 ทั้งหมดนี้คือกฎระเบียบเกี่ยวกับเชื้อราในเสื้อผ้า สิ่งถักทอ หรือสิ่งที่ทำจากหนัง บอกให้รู้ว่าเป็นมลทินหรือไม่

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/13-0c79c10e24466689d988c07f622d942a.mp3?version_id=179—

Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 14

การชำระมลทินเมื่อหายจากโรคติดต่อทางผิวหนัง

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “ต่อไปนี้เป็นระเบียบสำหรับผู้ที่หายจากโรคติดต่อทางผิวหนัง เมื่อเขามาหาปุโรหิตและรับการชำระให้สะอาดตามระเบียบพิธี

3 ปุโรหิตจะออกไปนอกค่ายพักเพื่อตรวจดูคนนั้น หากเห็นว่าหายโรคแล้ว

4 ปุโรหิตจะสั่งให้นำนกสองตัวที่ไม่เป็นมลทินและยังมีชีวิต ไม้สนซีดาร์ ด้ายแดง และกิ่งหุสบ สำหรับใช้ในพิธีชำระคนนั้นให้สะอาด

5 ปุโรหิตจะสั่งให้ฆ่านกตัวหนึ่งเหนือน้ำสะอาดที่อยู่ในภาชนะดินเผา

6 นำนกอีกตัวหนึ่งซึ่งยังมีชีวิตพร้อมกับไม้สนซีดาร์ ด้ายแดง และกิ่งหุสบจุ่มลงในเลือดของนกที่ถูกฆ่าเหนือน้ำสะอาด

7 จากนั้นปุโรหิตจะพรมเลือดที่ตัวคนนั้นเจ็ดครั้ง แล้วประกาศว่าเขาไม่เป็นมลทิน และปล่อยนกที่มีชีวิตตัวนั้นไปในที่กลางแจ้ง

8 “คนที่ได้รับการชำระให้สะอาดนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน โกนผม และอาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาดตามระเบียบพิธี หลังจากนั้นให้เขากลับมาอาศัยอยู่ในค่ายพักอีกครั้ง แต่จะต้องอยู่นอกเต็นท์ของตนเป็นเวลาเจ็ดวัน

9 ในวันที่เจ็ดเขาจะโกนผม หนวด เครา และคิ้ว ซักเสื้อผ้า อาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาด

10 “ในวันที่แปด เขาต้องนำลูกแกะตัวผู้สองตัวซึ่งไม่มีตำหนิ และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งขวบไม่มีตำหนิหนึ่งตัว แป้งโม่ละเอียดประมาณ 6.5 ลิตรเคล้าน้ำมันสำหรับเป็นเครื่องธัญบูชา และน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตร

11 ปุโรหิตผู้ทำหน้าที่ตรวจโรคจะนำคนนั้นพร้อมด้วยเครื่องบูชาของเขาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ

12 “จากนั้นปุโรหิตจะถวายแกะผู้ตัวหนึ่งและน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตรเป็นเครื่องบูชาลบความผิดโดยยื่นถวายต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย

13 ปุโรหิตจะฆ่าแกะตัวนั้นในที่บริสุทธิ์ตรงบริเวณที่ฆ่าเครื่องบูชาไถ่บาปและเครื่องเผาบูชา เครื่องบูชาลบความผิดนี้เป็นของปุโรหิตเช่นเดียวกับเครื่องบูชาไถ่บาป เป็นของที่บริสุทธิ์ที่สุด

14 ปุโรหิตจะเอาเลือดของเครื่องบูชาลบความผิดแตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนที่จะได้รับการชำระ

15 จากนั้นปุโรหิตจะรินน้ำมันลงในอุ้งมือซ้าย

16 เอานิ้วชี้ขวาจุ่มน้ำมันนั้นพรมต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเจ็ดครั้ง

17 ปุโรหิตจะใช้น้ำมันที่เหลืออยู่บางส่วนแตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนนั้น ซ้ำบนรอยเลือดของเครื่องบูชาลบความผิด

18 แล้วเอาน้ำมันที่เหลือในฝ่ามือทาศีรษะของคนที่จะได้รับการชำระ และลบบาปให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

19 “แล้วปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาไถ่บาป และลบบาปให้คนที่จะได้รับการชำระนั้นให้พ้นจากมลทินของเขา หลังจากนั้นปุโรหิตจะฆ่าสัตว์สำหรับเครื่องเผาบูชา

20 นำไปถวายพร้อมกับเครื่องธัญบูชาบนแท่นบูชาเป็นการลบบาปให้ผู้นั้น และเขาก็จะสะอาด

21 “หากเขายากจนเกินกว่าจะนำแกะสองตัวมาถวาย ก็ให้เขานำลูกแกะตัวผู้มาเพียงตัวเดียวเป็นเครื่องบูชาลบความผิดเพื่อยื่นถวายเป็นการลบบาปให้เขา โดยถวายพร้อมกับแป้งละเอียดประมาณ 2 ลิตรเคล้ากับน้ำมันเป็นเครื่องธัญบูชา และน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตร

22 และนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัวแล้วแต่จะหานกชนิดใดได้ ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา

23 “ในวันที่แปดเขาต้องนำสิ่งเหล่านี้มาให้ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อการชำระ

24 ปุโรหิตจะเอาแกะสำหรับเครื่องบูชาลบความผิดกับน้ำมันประมาณ 0.3 ลิตรมาเป็นเครื่องบูชายื่นถวายต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

25 แล้วฆ่าลูกแกะนั้นเป็นเครื่องบูชาลบความผิด เอาเลือดแตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา กับนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนนั้น

26 ปุโรหิตจะเทน้ำมันใส่อุ้งมือซ้าย

27 และเอานิ้วชี้ขวาจุ่มน้ำมันนั้นพรมเจ็ดครั้งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

28 จากนั้นจะเอาน้ำมันนี้แตะที่ติ่งหูขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของคนนั้น ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เขาแตะเลือดของเครื่องบูชาลบความผิด

29 น้ำมันที่เหลืออยู่ในอุ้งมือจะใช้ทาบนศีรษะของคนที่ได้รับการชำระ เป็นการลบบาปให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

30 จากนั้นเขาจะถวายนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัว แล้วแต่จะหานกชนิดใดได้

31 ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ส่วนอีกตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชาถวายควบคู่กับเครื่องธัญบูชา ปุโรหิตจะลบบาปให้ผู้นั้นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยวิธีนี้”

32 ทั้งหมดนี้คือกฎระเบียบเกี่ยวกับผู้ที่หายจากโรคติดต่อทางผิวหนังซึ่งไม่สามารถนำเครื่องบูชาตามปกติมาเพื่อใช้ในพิธีชำระนี้ได้

การชำระจากเชื้อรา

33 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า

34 “เมื่อเจ้าทั้งหลายไปถึงดินแดนคานาอันซึ่งเราจะยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า และเราให้มีเชื้อราแพร่กระจายในบ้านหลังใดหลังหนึ่งในดินแดนนั้น

35 เจ้าของบ้านซึ่งพบเชื้อราในบ้านของตนต้องไปแจ้งปุโรหิตว่า ‘ข้าพเจ้าได้เห็นบางสิ่งที่ดูเหมือนเชื้อราในบ้านของข้าพเจ้า’

36 ปุโรหิตจะให้ขนของออกจากบ้านให้หมดก่อนเข้าตรวจ เพื่อทุกสิ่งในบ้านจะไม่ต้องถูกประกาศว่าเป็นมลทิน จากนั้นปุโรหิตจะเข้าไปตรวจดูในบ้าน

37 หากพบริ้วรอยเขียวหรือแดงที่ผนังบ้านซึ่งดูกินลึกลงไปในพื้นผนังบ้าน

38 ปุโรหิตจะปิดบ้านไว้เป็นเวลาเจ็ดวัน

39 ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะกลับมาตรวจดูอีกครั้ง หากเชื้อราได้แพร่ขยายออกไปบนผนัง

40 ปุโรหิตจะสั่งให้รื้อหินส่วนที่ติดเชื้อออก และเอาไปทิ้งยังที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง

41 และสั่งให้ขัดถูผนังภายในบ้านให้ทั่วทุกซอกทุกมุม เศษผงเศษขยะก็ให้นำไปทิ้งยังที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง

42 แล้วให้เขาเอาหินก้อนอื่นมาแทนส่วนที่รื้อออกไป เอาปูนโบกผนังเสียใหม่

43 “แต่หากภายหลังมีเชื้อรากลับมาปรากฏในบ้านนั้นอีก

44 ปุโรหิตจะมาตรวจดูอีก และถ้าเชื้อราได้แพร่ขยายภายในบ้านหลังนั้น เชื้อรานั้นเป็นพิษ บ้านหลังนั้นเป็นมลทิน

45 ต้องรื้อบ้านหลังนั้นทิ้ง แล้วขนหิน ไม้ และปูนออกไปทิ้งยังที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง

46 “ผู้ที่เข้าไปในบ้านขณะที่ยังปิดอยู่ จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

47 ผู้ที่นอนหรือกินอาหารในบ้านนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตน

48 แต่เมื่อปุโรหิตกลับมาตรวจดูและเชื้อรานั้นไม่ได้แพร่ขยายไปหลังจากโบกปูนใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็จะประกาศว่าบ้านหลังนั้นสะอาดเพราะเชื้อราได้หายไปแล้ว

49 ปุโรหิตจะประกอบพิธีชำระบ้านหลังนั้นโดยใช้นกสองตัว ไม้สนซีดาร์ ด้ายแดง และกิ่งหุสบ

50 เขาจะฆ่านกตัวหนึ่งเหนือน้ำสะอาดที่อยู่ในภาชนะดินเผา

51 แล้วจุ่มไม้สนซีดาร์ กิ่งหุสบ ด้ายแดง และนกอีกตัวซึ่งยังมีชีวิตลงในเลือดของนกที่ถูกฆ่าเหนือน้ำสะอาด เอาเลือดพรมที่ตัวบ้านเจ็ดครั้ง

52 ปุโรหิตจะชำระบ้านหลังนั้นด้วยเลือดของนก น้ำสะอาด นกที่มีชีวิต ไม้สนซีดาร์ กิ่งหุสบ และด้ายแดง

53 แล้วปุโรหิตจะปล่อยนกที่ยังมีชีวิตไปในที่กลางแจ้งนอกเมือง ปุโรหิตจะลบมลทินของบ้านด้วยวิธีนี้ และบ้านนั้นก็จะสะอาด”

54 ทั้งหมดนี้เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับโรคติดต่อทางผิวหนังชนิดต่างๆ สำหรับโรคคัน

55 สำหรับเชื้อราบนเสื้อผ้าหรือในบ้าน

56 และสำหรับรอยบวม ผื่น หรือตุ่มใส

57 เพื่อตัดสินว่าสิ่งใดสะอาดหรือเป็นมลทิน นี่คือกฎระเบียบสำหรับโรคติดต่อทางผิวหนังและเชื้อรา

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/14-27cc917dd35bc449289bcdb470768883.mp3?version_id=179—

Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 15

สิ่งมลทินที่หลั่งออกจากร่างกาย

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสสกับอาโรนว่า

2 “จงแจ้งประชากรอิสราเอลว่า ‘ชายใดมีสิ่งที่หลั่งออกมาจากร่างกาย สิ่งที่หลั่งออกมานั้นเป็นมลทิน

3 ไม่ว่าสิ่งนั้นจะไหลออกมาหรือคั่งอยู่ก็ตามก็ทำให้เขาเป็นมลทิน สิ่งที่หลั่งออกจะทำให้เขาเป็นมลทินในกรณีต่อไปนี้คือ

4 “ ‘ชายใดมีสิ่งที่หลั่งออกมา นอนที่เตียงใดหรือนั่งบนสิ่งใด สิ่งนั้นพลอยเป็นมลทินไปด้วย

5 ใครก็ตามที่แตะต้องเตียงของเขาจะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ เขาจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น

6 ใครก็ตามนั่งบนที่นั่งของชายที่มีสิ่งที่หลั่งออก ผู้นั้นต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

7 “ ‘ใครก็ตามที่สัมผัสชายผู้มีสิ่งที่หลั่งออก จะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

8 “ ‘หากชายผู้มีสิ่งที่หลั่งออกถ่มน้ำลายไปถูกคนที่สะอาด คนนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

9 “ ‘เขานั่งบนอานใดๆ อานนั้นก็เป็นมลทิน

10 ผู้ใดแตะต้องสิ่งที่เขานั่งทับ จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น ผู้ใดหยิบฉวยสิ่งเหล่านั้น จะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

11 “ ‘หากชายผู้มีสิ่งที่หลั่งออกถูกเนื้อต้องตัวผู้ใดโดยไม่ได้ล้างมือก่อน ผู้นั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และเขาเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

12 “ ‘ถ้าผู้เป็นมลทินไปแตะต้องภาชนะดินเผา จะต้องทุบภาชนะนั้นทิ้ง ส่วนภาชนะไม้จะต้องล้างน้ำทุกใบ

13 “ ‘เมื่อเขาปลอดจากสิ่งที่หลั่งออก ให้เขาคอยอยู่เจ็ดวัน เป็นการชำระตนให้สะอาดตามระเบียบพิธี เขาต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำด้วยน้ำสะอาด แล้วเขาจะสะอาด

14 ในวันที่แปดเขาต้องนำนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัวมาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ แล้วมอบนกให้แก่ปุโรหิต

15 ปุโรหิตจะถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา ปุโรหิตจะลบบาปให้ชายผู้นั้นที่มีสิ่งที่หลั่งออกด้วยวิธีนี้ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

16 “ ‘เมื่อชายคนใดหลั่งน้ำอสุจิ เขาจะต้องชำระทั้งร่างกายด้วยน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น

17 ผ้าหรือหนังซึ่งเปื้อนน้ำอสุจิจะต้องนำไปซักล้างด้วยน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น

18 เมื่อชายหญิงหลับนอนกันและมีการหลั่งน้ำอสุจิ ทั้งคู่จะต้องอาบน้ำและเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

19 “ ‘เมื่อผู้หญิงมีประจำเดือน จะอยู่ในระยะเป็นมลทินตลอดเจ็ดวัน ผู้ใดถูกเนื้อต้องตัวนาง จะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น

20 “ ‘ที่ซึ่งนางนอนหรือนั่งในช่วงที่นางมีประจำเดือนจะเป็นมลทิน

21 ผู้ใดแตะต้องเตียงของนาง ต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

22 ผู้ใดแตะต้องสิ่งที่นางนั่งทับ ต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

23 ไม่ว่าจะเป็นเตียงหรือสิ่งที่นางนั่งทับ เมื่อผู้ใดไปแตะต้องสิ่งนั้น เขาจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น

24 “ ‘ชายใดหลับนอนกับนางและสัมผัสประจำเดือนของนาง เขาจะเป็นมลทินไปเจ็ดวัน และเขานอนที่เตียงใด เตียงนั้นจะเป็นมลทิน

25 “ ‘เมื่อผู้หญิงคนใดที่มีเลือดไหลออกเป็นเวลาหลายวัน นอกเหนือจากที่เป็นประจำเดือนปกติ หรือมีประจำเดือนหลายวันเกินกำหนด นางจะเป็นมลทินตราบเท่าที่นางมีเลือดไหลออกเหมือนอย่างวันที่นางมีประจำเดือน

26 ในช่วงนั้นนางนอนที่ใด ที่นั่นก็เป็นมลทินเช่นเดียวกับเวลาที่นางมีประจำเดือนตามปกติ ทุกอย่างที่นางนั่งทับจะเป็นมลทินเช่นเดียวกัน

27 ผู้ใดแตะต้องเตียงของนางหรือสิ่งที่นางนั่งทับจะเป็นมลทิน จะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น

28 “ ‘เมื่อนางได้รับการชำระจากสิ่งที่หลั่งออกมาแล้ว นางต้องนับต่อไปอีกเจ็ดวัน หลังจากนั้นนางจะสะอาดตามระเบียบพิธี

29 ในวันที่แปดนางจะต้องนำนกเขาหรือนกพิราบรุ่นสองตัวมามอบแก่ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ

30 ปุโรหิตจะถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา ปุโรหิตจะลบบาปให้นางโดยวิธีนี้ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเนื่องด้วยสิ่งที่หลั่งออกที่เป็นมลทินของนาง

31 “ ‘เจ้าจะต้องแยกชนอิสราเอลทั้งหลายออกจากสิ่งที่ทำให้เขาเป็นมลทิน เพื่อเขาจะไม่ตายด้วยมลทินของเขาที่ทำให้ที่ประทับของเราซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเขานั้นเป็นมลทิน’ ”

32 ทั้งหมดนี้คือกฎระเบียบสำหรับผู้ชายที่เป็นมลทินเนื่องจากสิ่งที่หลั่งออกหรือหลั่งอสุจิ

33 และสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน และสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิงที่มีสิ่งที่หลั่งออก และสำหรับผู้ชายที่หลับนอนกับผู้หญิงที่เป็นมลทินตามระเบียบพิธี

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/15-110cebf06b42c694af3c0d56b41aaee8.mp3?version_id=179—

Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 16

วันลบบาป

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสหลังจากที่บุตรชายสองคนของอาโรนสิ้นชีวิตเมื่อพวกเขาเข้ามาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า

2 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงเตือนอาโรนพี่ชายของเจ้าไม่ให้เข้าไปในอภิสุทธิสถานหลังม่านซึ่งอยู่เบื้องหน้าพระที่นั่งกรุณาที่อยู่บนหีบพันธสัญญาตามอำเภอใจ มิฉะนั้นเขาจะต้องตาย เพราะเราจะปรากฏในกลุ่มเมฆเหนือพระที่นั่งกรุณา

3 “ต่อไปนี้เป็นข้อปฏิบัติในการที่อาโรนจะเข้าไปยังบริเวณสถานนมัสการ เขาจะต้องนำวัวหนุ่มสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและแกะผู้สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาไป

4 เขาต้องสวมเสื้อตัวในอันบริสุทธิ์ที่ทำด้วยผ้าลินินกับเครื่องแต่งกายชั้นในผ้าลินินที่ติดกับร่างกายของเขา คาดสายคาดเอวลินิน และโพกศีรษะด้วยผ้าลินิน นี่เป็นเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ ดังนั้นเขาต้องอาบน้ำก่อนที่จะสวมใส่

5 ให้เขารับแพะผู้สองตัวสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และแกะผู้หนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาจากชุมชนอิสราเอล

6 “ให้อาโรนถวายวัวหนุ่มหนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป เพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว

7 จากนั้นจะนำแพะสองตัวมาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ

8 เขาจะต้องจับฉลากสำหรับแพะทั้งสองนั้น ฉลากอันหนึ่งสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าและอีกอันหนึ่งสำหรับแพะรับบาป

9 อาโรนจะถวายแพะตัวที่ใช้ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป

10 แต่แพะที่ได้รับเลือกโดยฉลากให้เป็นแพะรับบาปจะถูกนำมาถวายทั้งที่ยังมีชีวิตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นการลบบาป โดยส่งมันเข้าไปในถิ่นกันดารเป็นแพะรับบาป

11 “อาโรนจะนำวัวหนุ่มมาฆ่าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว

12 เขาจะเอากระถางไฟบรรจุถ่านคุโชนจากแท่นบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและกอบผงเครื่องหอมซึ่งบดละเอียดสองกำมือนำเข้าไปหลังม่าน

13 เขาจะโรยเครื่องหอมบนไฟต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ควันเครื่องหอมปกคลุมทั่วพระที่นั่งกรุณาเหนือหีบพันธสัญญา เพื่อว่าเขาจะไม่ตาย

14 เขาจะนำเลือดบางส่วนของวัวหนุ่มเข้าไปและใช้นิ้วพรมบนด้านหน้าของพระที่นั่งกรุณาเจ็ดครั้ง

15 “แล้วอาโรนจะฆ่าแพะเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับประชากร และนำเลือดของมันเข้าไปหลังม่าน แล้วทำเช่นเดียวกับที่ทำกับเลือดวัวผู้คือ เขาจะพรมเลือดนั้นที่ข้างบนและข้างหน้าของพระที่นั่งกรุณา

16 เขาจะลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถานด้วยวิธีนี้เพราะมลทินและการกบฏของชาวอิสราเอล ไม่ว่าบาปของเขาจะเป็นอะไร เขาจะต้องทำอย่างเดียวกันนี้สำหรับเต็นท์นัดพบซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา ซึ่งแวดล้อมด้วยมลทินของพวกเขา

17 ห้ามผู้ใดอยู่ในเต็นท์นัดพบขณะที่อาโรนเข้าไปทำการลบบาปในอภิสุทธิสถาน จนกว่าเขาจะออกมาอีกครั้งหลังจากลบบาปให้ตนเอง ให้ครอบครัวและชุมชนอิสราเอลทั้งหมดแล้ว

18 “จากนั้นอาโรนจะไปยังแท่นบูชา คือต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำการลบบาปสำหรับแท่นนั้น เขาจะเอาเลือดวัวผู้และเลือดแพะบางส่วนทาที่เชิงงอนของแท่น

19 แล้วเอานิ้วจุ่มเลือดพรมบนแท่นบูชาเจ็ดครั้ง เป็นการชำระแท่นนั้นให้บริสุทธิ์พ้นจากมลทินของชนอิสราเอล

20 “เมื่ออาโรนลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถาน เต็นท์นัดพบ และแท่นบูชาเสร็จแล้ว เขาจะนำแพะที่มีชีวิตตัวนั้นมา

21 วางมือทั้งสองบนหัวแพะ สารภาพความชั่วร้ายและการละเมิดฝ่าฝืนของชนอิสราเอล ปลดเปลื้องบาปทั้งหมดลงบนแพะ แล้วมอบหมายให้ชายคนหนึ่งจูงแพะเข้าไปในถิ่นกันดาร

22 แพะตัวนั้นจะแบกรับบาปทั้งหมดของเหล่าประชากรเข้าสู่ที่เปลี่ยว ชายผู้นั้นจะปล่อยมันไว้ในถิ่นกันดาร

23 “จากนั้นให้อาโรนเข้าไปในเต็นท์นัดพบ ถอดชุดผ้าลินินซึ่งใช้สวมเข้าไปในอภิสุทธิสถานนั้นวางไว้ในเต็นท์นัดพบ

24 แล้วอาบน้ำชำระกายในที่บริสุทธิ์ สวมเสื้อผ้าชุดปกติ แล้วออกไปถวายเครื่องเผาบูชาสำหรับตนเองและเครื่องเผาบูชาสำหรับประชากร เพื่อลบบาปให้ตนเองและประชากร

25 เขาจะเผาไขมันของเครื่องบูชาไถ่บาปบนแท่นบูชาด้วย

26 “ชายคนที่จูงแพะเข้าไปปล่อยในถิ่นกันดารเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ ซักเสื้อผ้า แล้วกลับเข้ามาในค่ายพัก

27 วัวหนุ่มและแพะซึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ซึ่งอาโรนนำเลือดของมันเข้าไปในอภิสุทธิสถานเพื่อทำการลบบาป จะถูกนำไปเผาให้หมดนอกค่ายพัก รวมทั้งหนัง เนื้อ และไส้

28 แล้วผู้ทำหน้าที่เผาต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และค่อยกลับมาที่ค่ายพัก

29 “ต่อไปนี้เป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าคือ ห้ามเจ้าทำกิจธุระในวันที่สิบเดือนที่เจ็ด แต่จงบังคับตนไม่ว่าจะเป็นคนอิสราเอลโดยกำเนิดหรือเป็นคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้า

30 เพราะในวันนี้จะมีการลบบาปสำหรับเจ้า เพื่อชำระเจ้าให้สะอาด แล้วเจ้าจะสะอาดพ้นจากบาปทั้งสิ้นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

31 เป็นสะบาโตแห่งการหยุดพัก เจ้าต้องบังคับตน ถือเป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ

32 ปุโรหิตซึ่งได้รับการเจิมและสถาปนาให้เป็นมหาปุโรหิตสืบทอดจากบิดาจะเป็นผู้ลบบาป เขาจะต้องสวมชุดบริสุทธิ์ที่ทำจากผ้าลินิน

33 และลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถาน เต็นท์นัดพบ และแท่นบูชา สำหรับปุโรหิตและประชากรทั้งปวงในชุมชน

34 “นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าทั้งหลายสืบไปคือ ให้ลบบาปทั้งสิ้นสำหรับประชากรอิสราเอลปีละครั้ง”

และเขาก็ทำตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/16-64ec4d89f1a0487004b4049516f1de38.mp3?version_id=179—

Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 17

ห้ามกินเลือด

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงกล่าวแก่อาโรนกับบรรดาบุตรชายและปวงชนอิสราเอลว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาไว้ดังนี้ว่า

3 ชาวอิสราเอลคนใดถวายวัวลูกแกะหรือแพะในค่ายหรือนอกค่าย

4 แทนที่จะนำมาที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ เพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าหน้าพลับพลาขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ถือว่าชายคนนั้นได้ทำผิดในเรื่องทำให้โลหิตตก และจะถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา

5 กฎข้อนี้มีไว้เพื่อให้ชนอิสราเอลเลิกถวายเครื่องบูชากลางแจ้ง พวกเขาต้องนำมาให้ปุโรหิต นั่นคือนำมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ แล้วเผาถวายเป็นเครื่องสันติบูชา

6 ปุโรหิตจะพรมเลือดบนแท่นบูชาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ และเผาไขมันเป็นกลิ่นหอมซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย

7 ประชากรจะได้เลิกถวายเครื่องบูชาแก่เทวรูปแพะอันเป็นการทำตัวแพศยา นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าทั้งหลายสืบไปทุกชั่วอายุ’

8 “จงกล่าวแก่พวกเขาว่า ‘เราขอย้ำว่าผู้ใดก็ตามไม่ว่าชาวอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเขาที่ถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องบูชาในที่อื่น

9 และไม่ได้นำมาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา

10 “ ‘เราจะเป็นปฏิปักษ์กับทุกคนที่กินเลือดทุกชนิด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเขา เราจะตัดคนนั้นออกจากหมู่ประชากรของเขา

11 เพราะชีวิตของสิ่งมีชีวิตอยู่ในเลือด และเราได้ให้เลือดแก่เจ้าเพื่อลบบาปสำหรับตัวเจ้าบนแท่นบูชา เลือดนั้นเองที่ได้ลบบาปสำหรับชีวิตของคนๆ หนึ่ง

12 ฉะนั้นเราจึงสั่งชาวอิสราเอลว่า “พวกเจ้าและคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้าจะต้องไม่กินเลือด”

13 “ ‘ใครก็ตาม ไม่ว่าชาวอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้าที่ล่าสัตว์ แล้วฆ่าสัตว์หรือนกที่อนุญาตให้เป็นอาหารได้ จะต้องรินเลือดออกมาแล้วเอาดินกลบ

14 เพราะชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกอย่างคือเลือด นั่นเป็นเหตุที่เราพูดกับชาวอิสราเอลว่า “เจ้าจะต้องไม่กินเลือดของสิ่งมีชีวิตใดๆ เพราะชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดคือเลือดของมัน ผู้ใดกินเลือดจะต้องถูกตัดออก”

15 “ ‘ผู้ใดไม่ว่าคนอิสราเอลโดยกำเนิดหรือคนต่างด้าว ซึ่งกินซากของสัตว์ใดที่ตายเองหรือถูกสัตว์ร้ายฆ่าตาย จะต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเป็นมลทินตามระเบียบพิธีจนถึงเวลาเย็น แล้วเขาจึงจะสะอาด

16 แต่หากเขาไม่อาบน้ำและซักเสื้อผ้า เขาจะต้องรับผิดชอบ’ ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/17-c0dee26997acc0ed459619fe02b8a09b.mp3?version_id=179—

Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 18

ความสัมพันธ์ทางเพศที่ผิดธรรมบัญญัติ

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “ให้แจ้งชนอิสราเอลว่า ‘เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

3 เจ้าอย่าประพฤติตนตามอย่างชาวอียิปต์ซึ่งเจ้าทั้งหลายเคยอาศัยอยู่ด้วย และเจ้าอย่าทำอย่างชาวคานาอันในดินแดนซึ่งเรากำลังจะพาพวกเจ้าไป อย่าทำตามอย่างพวกเขา

4 จงเชื่อฟังบทบัญญัติของเราและใส่ใจทำตามกฎหมายของเรา เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

5 จงทำตามกฎหมายและบทบัญญัติของเรา เพราะผู้ใดที่เชื่อฟังจะมีชีวิตอยู่โดยสิ่งเหล่านี้ เราคือพระยาห์เวห์

6 “ ‘อย่าให้ผู้ใดในพวกเจ้าเข้าหาและมีเพศสัมพันธ์กับญาติสนิท เราคือพระยาห์เวห์

7 “ ‘อย่าทำให้บิดาอับอายขายหน้าโดยมีเพศสัมพันธ์กับมารดาของเจ้า นางเป็นมารดาของเจ้า อย่ามีเพศสัมพันธ์กับนาง

8 “ ‘อย่าทำให้บิดาอับอายขายหน้าโดยมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของบิดา

9 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวน้องสาวของเจ้า ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวของบิดาหรือของมารดาเจ้า ไม่ว่าเกิดในบ้านเดียวกันหรือเกิดคนละที่

10 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับหลานสาวของเจ้าซึ่งทำให้ตัวเจ้าเองอับอายขายหน้า

11 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับลูกสาวของภรรยาของบิดาซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของบิดาเจ้า เพราะนางคือพี่น้องของเจ้า

12 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับป้าหรืออาเพราะเป็นญาติสนิทของบิดาเจ้า

13 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับป้าหรือน้าเพราะเป็นญาติสนิทของมารดาเจ้า

14 “ ‘อย่าทำให้พี่ชายหรือน้องชายของบิดาเจ้าอับอายขายหน้า โดยมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของเขา เพราะนางเป็นป้าสะใภ้หรืออาสะใภ้ของเจ้า

15 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับบุตรสะใภ้ของเจ้า นางเป็นภรรยาของบุตรชายของเจ้า อย่ามีเพศสัมพันธ์กับนาง

16 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของพี่ชายหรือของน้องชายเจ้าเพราะนั่นทำให้พี่น้องของเจ้าอับอายขายหน้า

17 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับหญิงคนใดและกับลูกสาวของนาง และอย่ามีเพศสัมพันธ์กับหลานสาวของนาง เพราะหญิงเหล่านั้นเป็นญาติสนิทของนาง การทำเช่นนั้นเป็นความชั่ว

18 “ ‘อย่าเอาพี่สาวหรือน้องสาวของภรรยาของเจ้ามาเป็นคู่แข่งของนาง อย่ามีเพศสัมพันธ์กับพี่น้องของภรรยา ขณะที่ภรรยายังมีชีวิตอยู่

19 “ ‘อย่าเข้าหาเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่กำลังมีประจำเดือน

20 “ ‘อย่ามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของเพื่อนบ้าน อันเป็นการสร้างมลทินแก่ตัวเองร่วมกับนาง

21 “ ‘อย่าเอาลูกหลานลุยไฟเซ่นบูชาพระโมเลค อย่าหมิ่นประมาทพระนามพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

22 “ ‘อย่าสมสู่รักร่วมเพศอันเป็นสิ่งน่ารังเกียจเดียดฉันท์

23 “ ‘อย่าสมสู่กับสัตว์ทำให้ตัวเองเป็นมลทิน ผู้หญิงก็ห้ามทอดกายให้สัตว์สมสู่ด้วย นั่นเป็นความวิปริต

24 “ ‘อย่าทำตัวให้มีมลทินด้วยเหตุใดๆ ในข้อเหล่านี้ ซึ่งเป็นการกระทำของชนชาติต่างๆ ซึ่งเรากำลังจะขับไล่ออกไปให้พ้นหน้าเจ้า

25 ทั่วดินแดนนั้นแปดเปื้อนมลทิน เราจึงลงโทษบาปของเขาเหล่านั้นและแผ่นดินกำลังสำรอกผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นออกมา

26 แต่เจ้าต้องถือรักษากฎหมายและบทบัญญัติของเรา ทั้งชนอิสราเอลโดยกำเนิดและคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้า จะต้องไม่ทำสิ่งที่น่ารังเกียจเหล่านี้

27 เพราะประชาชนในดินแดนตรงหน้าเจ้าได้ทำสิ่งเหล่านี้ แผ่นดินนั้นจึงเป็นมลทิน

28 และหากเจ้าทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน แผ่นดินนั้นก็จะสำรอกพวกเจ้าออกมา เหมือนที่ได้สำรอกชนชาติต่างๆ ออกมาก่อนหน้าเจ้า

29 “ ‘ทุกคนที่ทำสิ่งน่ารังเกียจอย่างใดอย่างหนึ่งเหล่านี้ จะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา

30 ฉะนั้นจงปฏิบัติตามข้อกำหนดของเรา อย่าดำเนินตามเยี่ยงอย่างอันน่ารังเกียจเหล่านี้ ซึ่งทำกันอยู่ก่อนหน้าพวกเจ้าเข้ามา อย่าทำตัวแปดเปื้อนไปกับพวกเขา เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’ ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/18-446a960d69ca0f64ab5525bec5d59d36.mp3?version_id=179—

Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 19

บทบัญญัติต่าง ๆ

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงแจ้งชุมชนอิสราเอลทั้งหมดว่า ‘เจ้าทั้งหลายจงบริสุทธิ์เพราะเราคือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์

3 “ ‘เจ้าทุกคนจะต้องเคารพบิดามารดา และถือรักษาสะบาโตของเรา เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

4 “ ‘อย่าหันไปหาหรือกราบไหว้รูปเคารพ หรือหล่อโลหะเป็นพระสำหรับเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

5 “ ‘เมื่อเจ้าถวายเครื่องสันติบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจงทำอย่างถูกต้องเพื่อจะเป็นที่ยอมรับแทนตัวเจ้า

6 จงกินในวันที่ถวายนั้นหรือในวันรุ่งขึ้น ส่วนใดที่เหลือค้างถึงวันที่สามต้องเผาทิ้ง

7 ถ้านำมากินในวันที่สามก็เป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ และเราจะไม่ยอมรับ

8 ใครก็ตามที่กินจะต้องรับผิดชอบ เพราะเขาได้ทำให้สิ่งที่บริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นมลทิน บุคคลนั้นจะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา

9 “ ‘เมื่อเจ้าเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหาร อย่าเก็บเกี่ยวจนถึงขอบนา และอย่าเก็บเมล็ดข้าวซึ่งตกเกลื่อนตามพื้นดิน

10 อย่าเก็บผลองุ่นซ้ำเป็นรอบสอง หรือเก็บที่หล่นอยู่ตามพื้น จงปล่อยไว้เป็นส่วนของคนยากจนและคนต่างด้าว เพราะเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

11 “ ‘อย่าลักขโมย

“ ‘อย่าโกหก

“ ‘อย่าหลอกลวงซึ่งกันและกัน

12 “ ‘อย่าสาบานเท็จโดยอ้างนามของเรา นั่นเป็นการลบหลู่พระนามพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

13 “ ‘อย่าปล้นชิงหรือเอารัดเอาเปรียบเพื่อนบ้าน

“ ‘อย่าหน่วงเหนี่ยวค่าแรงลูกจ้างไว้จนถึงรุ่งเช้า

14 “ ‘อย่าแช่งด่าคนหูหนวก หรือกลั่นแกล้งคนตาบอดให้เดินสะดุด แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

15 “ ‘อย่าบิดเบือนความยุติธรรม อย่าลำเอียงเข้าข้างคนจนหรือคนใหญ่คนโต แต่จงตัดสินความอย่างเที่ยงธรรม

16 “ ‘อย่าเที่ยวซุบซิบนินทาว่าร้ายในหมู่ประชากรของเจ้า

“ ‘อย่ามุ่งร้ายหมายขวัญเพื่อนบ้าน เราคือพระยาห์เวห์

17 “ ‘อย่ามีใจเกลียดชังพี่น้องของเจ้า จงตักเตือนเพื่อนบ้านอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเจ้าจะไม่ต้องมีส่วนร่วมในความผิดของเขา

18 “ ‘อย่าหาทางแก้แค้นหรืออาฆาตจองเวรคนใดในหมู่ประชากรของเจ้า แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือพระยาห์เวห์

19 “ ‘จงรักษากฎหมายของเรา

“ ‘อย่าผสมพันธุ์สัตว์ต่างชนิดกัน

“ ‘อย่าหว่านเมล็ดพืชต่างพันธุ์ปนเปกันในที่ดินของเจ้า

“ ‘อย่าสวมเสื้อผ้าที่ทอจากวัสดุต่างชนิดกัน

20 “ ‘ชายใดหลับนอนกับทาสหญิงซึ่งหมั้นหมายกับชายอีกคนหนึ่ง แต่ทาสหญิงคนนั้นยังไม่ได้ถูกไถ่ไว้หรือยังไม่ได้รับอิสรภาพ ชายหญิงคู่นั้นจะต้องถูกลงโทษตามสมควร แต่ทั้งคู่ไม่มีโทษถึงตาย เพราะทาสหญิงนั้นยังไม่เป็นไท

21 อย่างไรก็ตามชายคนนั้นต้องนำแกะผู้มาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาลบความผิดที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ

22 ปุโรหิตจะใช้แกะผู้ของเครื่องบูชาลบความผิดทำการลบบาปให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับบาปที่เขาได้ทำ และบาปของเขาจะได้รับการอภัย

23 “ ‘เมื่อเจ้าเข้าไปยังดินแดนนั้นแล้ว และได้ปลูกไม้ผลชนิดใดก็ตาม จงถือว่าผลของมันเป็นของต้องห้ามอย่ากินผลไม้ที่เกิดในสามปีแรกเพราะถือเป็นของต้องห้าม

24 ในปีที่สี่ ผลของมันทั้งหมดจะบริสุทธิ์ เป็นเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

25 แต่เจ้าจะกินผลของมันได้ในปีที่ห้า ด้วยวิธีนี้พืชพันธุ์ของเจ้าจะเพิ่มพูน เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

26 “ ‘อย่ากินเนื้อซึ่งยังมีเลือดค้างอยู่

“ ‘อย่าทำนายโชคชะตาราศี หรือเป็นพ่อมดหมอผี

27 “ ‘อย่าถอนไรผมหรือขริบเคราของเจ้า

28 “ ‘อย่าเชือดเนื้อตัวเองเพื่อไว้อาลัยคนตาย หรือสักเครื่องหมายใดๆ บนกายของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

29 “ ‘อย่าทำให้บุตรสาวของเจ้าเสื่อมเสียโดยให้นางเป็นโสเภณี มิฉะนั้นแผ่นดินจะกลายเป็นถิ่นค้าประเวณี และเต็มไปด้วยความชั่วร้าย

30 “ ‘จงถือรักษาสะบาโตของเรา และเคารพสถานนมัสการของเรา เราคือพระยาห์เวห์

31 “ ‘อย่าหันไปหาคนทรงหรือหมอผี เพราะพวกเขาจะทำให้เจ้าเป็นมลทิน เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

32 “ ‘เจ้าจงให้เกียรติและแสดงความเคารพนับถือต่อผู้อาวุโส และจงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์

33 “ ‘อย่าเอารัดเอาเปรียบคนต่างด้าวในดินแดนของเจ้า อย่าทำไม่ดีกับเขา

34 เจ้าต้องปฏิบัติต่อเขาเช่นเดียวกับคนอิสราเอลโดยกำเนิด จงรักพวกเขาเหมือนรักตนเอง เพราะเจ้าเองเคยเป็นคนต่างด้าวในประเทศอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

35 “ ‘อย่าใช้มาตรอันไม่เที่ยงตรงในการชั่ง ตวง วัด

36 จงใช้มาตรอันเที่ยงตรงในการชั่ง ตวง วัด ทั้งเอฟาห์และฮินที่เที่ยงตรงเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์

37 “ ‘จงถือรักษาและปฏิบัติตามกฎหมายและบทบัญญัติทั้งสิ้นของเรา เราคือพระยาห์เวห์’ ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/19-ec2bf0635310de9b467b41a4e6632d8c.mp3?version_id=179—

Categories
เลวีนิติ

เลวีนิติ 20

โทษทัณฑ์ของบาป

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า

2 “จงกล่าวแก่ชนอิสราเอลว่า ‘ผู้ใดก็ตามไม่ว่าชาวอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งมาอาศัยอยู่กับพวกเขา ที่ยกลูกหลานของตนให้พระโมเลคจะต้องตาย ประชากรในชุมชนจะเอาหินขว้างเขา

3 เราเองจะเป็นปฏิปักษ์กับคนนั้น และตัดเขาออกจากหมู่ประชากรของเขา เพราะการที่เขายกลูกให้พระโมเลคก็ทำให้สถานนมัสการของเราเป็นมลทินและลบหลู่นามอันบริสุทธิ์ของเรา

4 และหากประชากรในชุมชนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่ยอมประหารคนนั้นที่ยกลูกให้พระโมเลค

5 เราจะเป็นศัตรูกับคนนั้นและครอบครัวของเขา และจะตัดเขากับทุกคนที่ทำตามเขาที่ขายตัวให้พระโมเลคออกจากหมู่ประชากรของเขา

6 “ ‘เราจะเป็นศัตรูกับผู้ที่หันไปหาคนทรงและหมอผี ทำตัวแพศยาโดยการติดตามคนเหล่านี้ และเราจะตัดคนนั้นออกจากหมู่ประชากรของเขา

7 “ ‘จงชำระตัวและจงบริสุทธิ์ เพราะเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

8 จงรักษาและปฏิบัติตามกฎหมายของเรา เราคือพระยาห์เวห์ผู้ทำให้เจ้าบริสุทธิ์

9 “ ‘ผู้ใดแช่งด่าบิดามารดาของตนจะต้องมีโทษถึงตาย เขาได้แช่งด่าบิดามารดาของเขาเอง ที่เขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของเขาเอง

10 “ ‘ผู้ใดเป็นชู้กับภรรยาของคนอื่น คือกับภรรยาของเพื่อนบ้าน ทั้งชายและหญิงที่เป็นชู้กันจะต้องถูกประหาร

11 “ ‘ผู้ใดหลับนอนกับภรรยาของบิดา ก็ทำให้บิดาของตนอับอายขายหน้า ทั้งชายและหญิงคู่นั้นจะต้องตาย ที่พวกเขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของพวกเขาเอง

12 “ ‘ผู้ใดหลับนอนกับบุตรสะใภ้ของตน ทั้งคู่ต้องถูกประหารเพราะได้ทำสิ่งที่วิปริต ที่พวกเขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของพวกเขาเอง

13 “ ‘ผู้ใดสมสู่รักร่วมเพศ พวกเขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ จะต้องประหารทั้งคู่ ที่พวกเขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของพวกเขาเอง

14 “ ‘ผู้ใดแต่งงานกับทั้งหญิงสาวและแม่ของนาง นั่นเป็นความชั่วช้า ทั้งสามคนจะต้องถูกเผา เพื่อไม่ให้มีความชั่วร้ายท่ามกลางพวกเจ้า

15 “ ‘ชายใดสมสู่กับสัตว์ จงประหารทั้งคนและสัตว์

16 “ ‘หญิงใดสมสู่กับสัตว์ จงประหารทั้งคนและสัตว์ ที่เขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของเขาเอง

17 “ ‘ชายใดแต่งงานและมีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาวของตน แม้จะต่างบิดาหรือต่างมารดา ก็เป็นการกระทำอันน่าละอาย ทั้งสองคนจะต้องถูกตัดออกไปต่อหน้าต่อตาหมู่ประชากรของพวกเขา เขาทำให้พี่สาวน้องสาวต้องอับอายขายหน้าและเขาจะต้องรับผิดชอบ

18 “ ‘ชายใดหลับนอนและมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่กำลังมีประจำเดือน ทั้งคู่จะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของพวกเขา เพราะเขาได้เปิดเผยแหล่งโลหิตของนาง และนางก็ได้เปิดเผยด้วย

19 “ ‘ชายใดมีเพศสัมพันธ์กับป้า น้า หรืออาของตน ก็ทำให้ญาติสนิทอับอายขายหน้า ทั้งคู่จะต้องรับผิดชอบ

20 “ ‘ชายใดหลับนอนกับป้าสะใภ้ น้าสะใภ้ หรืออาสะใภ้ ก็ทำให้ลุง น้า หรืออาอับอายขายหน้า พวกเขาจะต้องรับผิดชอบและตายโดยปราศจากผู้สืบสกุล

21 “ ‘ชายใดแต่งงานกับพี่สะใภ้หรือน้องสะใภ้ของตน เป็นการกระทำอันไม่บริสุทธิ์ เขาทำให้พี่ชายน้องชายต้องอับอายขายหน้า คนทั้งคู่จะไม่มีบุตรสืบสกุล

22 “ ‘จงถือรักษาและปฏิบัติตามกฎหมายและบทบัญญัติทั้งสิ้นของเรา เพื่อดินแดนที่เรากำลังจะนำเจ้าทั้งหลายเข้าไปอาศัยจะไม่สำรอกพวกเจ้าออกมา

23 เจ้าอย่าได้ดำเนินตามขนบธรรมเนียมของประชาชาติทั้งหลายที่เรากำลังจะขับไล่ออกไปต่อหน้าเจ้า เพราะพวกเขาทำสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ เราจึงชิงชังพวกเขา

24 แต่เราพูดกับเจ้าว่า “เจ้าจะครอบครองดินแดนของพวกเขา เราจะให้ดินแดนนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า เป็นดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง” เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าผู้แยกเจ้าออกจากชนชาติเหล่านั้น

25 “ ‘ฉะนั้นเจ้าต้องแยกแยะระหว่างสัตว์และนกที่เป็นมลทินและไม่เป็นมลทิน อย่าปล่อยตัวแปดเปื้อนมลทินด้วยสัตว์ นก สัตว์ที่เลื้อยคลาน ซึ่งเราได้สั่งห้ามเจ้าแล้ว

26 เจ้าต้องบริสุทธิ์สำหรับเราเพราะเราผู้เป็นพระยาห์เวห์เป็นผู้บริสุทธิ์ และได้แยกเจ้าออกจากชาติอื่นๆ ทั้งปวง เพื่อเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา

27 “ ‘คนทรงทั้งหญิงและชายหรือพ่อมดหมอผีท่ามกลางพวกเจ้าจะต้องตาย เจ้าจะต้องเอาหินขว้างพวกเขา ที่พวกเขาต้องตายนั้นก็เพราะความผิดของพวกเขาเอง’ ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/LEV/20-515204da80a2e41984b4944983be5b81.mp3?version_id=179—