Categories
1ยอห์น

1ยอห์น 1

1 เราประกาศแก่ท่านถึงพระวาทะแห่งชีวิตซึ่งดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล ซึ่งเราได้ยิน ได้เห็นกับตา ได้พินิจดู และได้สัมผัสด้วยมือของเรา

2 ชีวิตนี้ได้ปรากฏขึ้นแล้ว เราได้เห็นและได้เป็นพยาน และเราประกาศให้ท่านทราบถึงชีวิตนิรันดร์นี้ซึ่งดำรงอยู่กับพระบิดาและได้ปรากฏแก่เรา

3 เราประกาศให้ท่านทราบถึงสิ่งที่เราได้เห็นและได้ยินเพื่อท่านจะได้ร่วมสามัคคีธรรมกับเราด้วย และการสามัคคีธรรมกับเราคือการสามัคคีธรรมกับพระบิดา และกับพระบุตรของพระองค์คือพระเยซูคริสต์

4 เราเขียนข้อความเหล่านี้มาเพื่อให้ความชื่นชมยินดีของเราทั้งหลายเต็มบริบูรณ์

ดำเนินในความสว่าง

5 นี่เป็นเรื่องราวซึ่งเราได้ยินจากพระองค์และประกาศแก่ท่าน คือพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง ในพระองค์ไม่มีความมืดเลย

6 ถ้าเราอ้างว่ามีสามัคคีธรรมกับพระองค์แต่ยังดำเนินในความมืด เราก็โกหกและไม่ได้ดำเนินชีวิตโดยความจริง

7 แต่ถ้าเราดำเนินในความสว่างเหมือนอย่างที่พระองค์ประทับในความสว่าง เราก็ร่วมสามัคคีธรรมกันและพระโลหิตของพระเยซูพระบุตรของพระองค์ก็ชำระเราพ้นจากบาปทั้งปวง

8 ถ้าเราอ้างว่าไม่มีบาป เราก็หลอกตัวเองและความจริงไม่ได้อยู่ในเราเลย

9 ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรมจะทรงอภัยบาปของเราและชำระเราให้พ้นจากความอธรรมทั้งสิ้น

10 ถ้าเราอ้างว่าไม่ได้ทำบาปก็เท่ากับหาว่าพระองค์เป็นผู้มุสา และพระดำรัสของพระองค์ไม่ได้อยู่ในชีวิตของเราเลย

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/1JN/1-8532201344c3a98cdf08715df5544020.mp3?version_id=179—

Categories
1ยอห์น

1ยอห์น 2

1 ลูกที่รักของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเขียนมาถึงท่านเช่นนี้เพื่อท่านจะไม่ทำบาป แต่ถ้าผู้ใดทำบาป เราก็มีพระองค์ผู้ทูลแก้ต่างต่อพระบิดาเพื่อเราทั้งหลาย คือพระเยซูคริสต์องค์ผู้ชอบธรรม

2 พระองค์ทรงเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเราทั้งหลายและไม่ใช่เพียงบาปของเราเท่านั้นแต่บาปของคนทั้งโลกด้วย

3 ถ้าเราเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ เราก็รู้แน่ว่าเรารู้จักพระองค์

4 ผู้ที่พูดว่า “เรารู้จักพระองค์” แต่ไม่ทำตามสิ่งที่ทรงบัญชา ผู้นั้นก็โกหกและความจริงไม่ได้อยู่ในเขาเลย

5 แต่ถ้าผู้ใดเชื่อฟังพระดำรัสของพระองค์ ความรักของพระเจ้าก็เต็มบริบูรณ์อยู่ในผู้นั้น ด้วยวิธีนี้เราจึงรู้ว่าเราอยู่ในพระองค์คือ

6 ผู้ใดอ้างว่าอยู่ในพระองค์ ผู้นั้นต้องดำเนินชีวิตอย่างที่พระเยซูได้ทรงดำเนิน

7 เพื่อนที่รัก ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนบัญญัติใหม่ถึงท่าน นี่เป็นบัญญัติเก่าซึ่งท่านมีมาตั้งแต่แรก บัญญัติเก่านี้คือเรื่องราวที่ท่านเคยได้ยินมาแล้ว

8 แต่จะว่าข้าพเจ้าเขียนบัญญัติใหม่ถึงท่านก็ได้ ท่านเห็นบัญญัตินี้เป็นจริงในพระองค์และในท่านเอง เพราะความมืดกำลังผ่านพ้นไปและความสว่างแท้กำลังส่องแสงอยู่แล้ว

9 ผู้ใดที่อ้างว่าอยู่ในความสว่างแต่เกลียดชังพี่น้องของตนก็ยังอยู่ในความมืด

10 ผู้ที่รักพี่น้องของตนก็อยู่ในความสว่าง และไม่มีอะไรในผู้นั้นที่ทำให้ตัวเขาสะดุด

11 แต่ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็อยู่ในความมืดและเดินวนเวียนในความมืด เขาไม่รู้ว่าตนกำลังไปไหนเพราะความมืดทำให้เขาตาบอด

12 ลูกที่รัก ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านทั้งหลาย

เพราะบาปของท่านได้รับการอภัยแล้วเนื่องด้วยพระนามของพระองค์

13 บิดาทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน

เพราะท่านได้รู้จักพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล

หนุ่มสาวทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน

เพราะท่านได้ชนะมารร้ายนั้น

14 ลูกที่รัก ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านทั้งหลาย

เพราะท่านได้รู้จักพระบิดา

บิดาทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน

เพราะท่านได้รู้จักพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล

หนุ่มสาวทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน

เพราะท่านเข้มแข็ง

และพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในท่าน

และท่านได้ชนะมารร้ายนั้น

อย่ารักโลก

15 อย่ารักโลกหรือสิ่งใดๆ ในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักของพระบิดาก็ไม่ได้อยู่ในผู้นั้น

16 เพราะทุกสิ่งในโลกไม่ว่าจะเป็นตัณหาของเนื้อหนัง ตัณหาของตา และความทะนงในสิ่งที่ตนมีหรือทำ ไม่ได้มาจากพระบิดาแต่มาจากโลก

17 โลกกับความปรารถนาต่างๆ ของโลกก็ล่วงไป แต่ผู้ที่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าดำรงอยู่ตลอดกาล

เตือนให้ระวังปฏิปักษ์ของพระคริสต์

18 ลูกที่รัก บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้วและตามที่ท่านได้ยินมาว่าปฏิปักษ์ของพระคริสต์กำลังมานั้น แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ปฏิปักษ์พระคริสต์ก็มีมามากมายแล้ว ด้วยเหตุนี้เราจึงรู้ว่านี่คือวาระสุดท้าย

19 พวกเขาออกไปจากพวกเรา แต่ที่จริงแล้วเขาไม่ใช่พวกเรา เพราะถ้าใช่เขาก็คงอยู่กับเราต่อไป แต่การที่เขาจากไปแสดงว่าในพวกเขาไม่มีสักคนเดียวที่เป็นพวกเรา

20 แต่ท่านทั้งหลายได้รับการเจิมจากองค์บริสุทธิ์แล้ว และพวกท่านทุกคนก็รู้ความจริง

21 ที่ข้าพเจ้าเขียนมานี้ไม่ใช่เพราะท่านไม่รู้ความจริง แต่เพราะท่านรู้และเพราะไม่มีความเท็จใดๆ มาจากความจริง

22 ใครเล่าคือคนโกหก? ก็คือคนที่ไม่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์ คนเช่นนี้แหละคือปฏิปักษ์ของพระคริสต์ เขาปฏิเสธพระบิดาและพระบุตร

23 ผู้ใดปฏิเสธพระบุตรก็ไม่มีพระบิดา ผู้ใดรับพระบุตรก็มีพระบิดาด้วย

24 จงให้สิ่งที่ท่านได้ยินมาตั้งแต่แรกดำรงอยู่ในท่าน หากสิ่งนี้ดำรงอยู่ในท่าน ท่านก็จะดำรงอยู่ในพระบุตรและในพระบิดาด้วย

25 และนี่คือสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้กับเรา คือชีวิตนิรันดร์นั่นเอง

26 ข้าพเจ้าเขียนข้อความเหล่านี้มาถึงท่านเกี่ยวกับบรรดาผู้พยายามชักจูงให้ท่านหลงผิด

27 ส่วนท่านทั้งหลาย การเจิมที่ท่านได้รับจากพระองค์ก็ดำรงอยู่ในท่าน จึงไม่จำเป็นต้องมีใครสอนท่าน แต่เพราะการเจิมของพระองค์สอนท่านทุกสิ่ง และเพราะการเจิมนั้นจริงแท้ไม่ปลอมแปลง จงดำรงอยู่ในพระองค์ตามที่การเจิมได้สอนท่านไว้แล้ว

บุตรของพระเจ้า

28 และบัดนี้ลูกที่รัก จงดำรงอยู่ในพระองค์สืบไปเพื่อว่าเมื่อพระองค์ทรงปรากฏ เราทั้งหลายจะมั่นใจและไม่ละอายต่อหน้าพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จมา

29 หากท่านรู้ว่าพระองค์ทรงชอบธรรม ท่านย่อมรู้ว่าทุกคนที่ทำสิ่งที่ถูกต้องได้บังเกิดจากพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/1JN/2-c19ea1f54f0f15c1575b945b105eb9da.mp3?version_id=179—

Categories
1ยอห์น

1ยอห์น 3

1 ความรักที่พระบิดาทรงมีต่อเราทั้งหลายนั้นใหญ่หลวงปานใดในการที่เราได้ชื่อว่าบุตรของพระเจ้า! และเราก็เป็นเช่นนั้น! เหตุที่โลกไม่รู้จักเราก็เพราะโลกไม่รู้จักพระองค์

2 เพื่อนที่รัก บัดนี้เราเป็นลูกของพระเจ้า ภายหน้าเราจะเป็นอย่างไรเรายังไม่อาจรู้ได้ แต่เรารู้ว่าเมื่อพระองค์ทรงปรากฏเราจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น

3 ทุกคนที่มีความหวังในพระองค์เช่นนี้ย่อมชำระตนเองให้บริสุทธิ์เหมือนที่พระองค์ทรงบริสุทธิ์

4 ทุกคนที่ทำบาปย่อมละเมิดบทบัญญัติ อันที่จริงบาปก็คือการละเมิดบทบัญญัติ

5 แต่ท่านทั้งหลายรู้ว่าพระองค์ได้มาเพื่อขจัดบาปของเราและในพระองค์ไม่มีบาป

6 ไม่มีใครที่อยู่ในพระองค์แล้วยังทำบาปต่อไป คนที่ทำบาปต่อไปก็ยังไม่ได้เห็นและไม่ได้รู้จักพระองค์

7 ลูกที่รัก อย่าปล่อยให้ใครมาชักจูงท่านให้หลงผิด ผู้ที่ทำสิ่งที่ถูกต้องก็เป็นคนชอบธรรมเหมือนที่พระองค์ทรงชอบธรรม

8 ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมารเพราะมารทำบาปมาตั้งแต่ปฐมกาล เหตุที่พระบุตรของพระเจ้าเสด็จมาก็คือเพื่อทำลายกิจการของมาร

9 ไม่มีใครที่เกิดจากพระเจ้าแล้วยังคงทำบาปต่อไป เพราะเมล็ดพันธุ์ของพระเจ้าดำรงอยู่ในเขา เขาไม่อาจทำบาปต่อไปเพราะเขาได้บังเกิดจากพระเจ้า

10 เช่นนี้แหละเราจึงรู้ว่าใครเป็นบุตรของพระเจ้าและใครเป็นบุตรของมาร กล่าวคือผู้ใดไม่ทำสิ่งที่ถูกต้อง ผู้ใดไม่รักพี่น้องของตน ผู้นั้นไม่ใช่บุตรของพระเจ้า

รักซึ่งกันและกัน

11 นี่เป็นข้อความที่ท่านทั้งหลายได้ยินมาตั้งแต่แรกคือ เราควรรักซึ่งกันและกัน

12 อย่าเป็นเหมือนคาอินผู้เป็นฝ่ายมารและฆ่าน้องชายของตน ทำไมเขาจึงฆ่าน้อง? ก็เพราะการกระทำของตนชั่วร้ายและการกระทำของน้องชอบธรรม

13 พี่น้องทั้งหลาย อย่าแปลกใจถ้าโลกนี้เกลียดชังท่าน

14 เรารู้ว่าเราผ่านพ้นความตายเข้าสู่ชีวิตเพราะเรารักพี่น้องของเรา ผู้ใดไม่รักผู้นั้นยังคงอยู่ในความตาย

15 ผู้ใดเกลียดชังพี่น้องของตนผู้นั้นเป็นฆาตกร ท่านทั้งหลายรู้ว่าไม่มีฆาตกรคนไหนมีชีวิตนิรันดร์ในพระองค์

16 เช่นนี้เราจึงรู้ว่าความรักคืออะไร คือที่พระเยซูคริสต์ทรงสละพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อเราและเราควรสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง

17 ถ้าผู้ใดมีทรัพย์สิ่งของ และเห็นพี่น้องของตนขัดสนแต่ยังไม่สงสารเขา ความรักของพระเจ้าจะอยู่ในผู้นั้นได้อย่างไร?

18 ลูกที่รัก อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่ให้เรารักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง

19 ดังนี้แหละเราจึงรู้ว่าเราอยู่ฝ่ายความจริงและทำให้ใจเราสงบต่อหน้าพระเจ้า

20 แม้ในยามที่ใจของเรากล่าวโทษตนเอง เพราะพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่าใจของเราและพระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง

21 เพื่อนที่รัก ถ้าใจของเราไม่กล่าวโทษตัวเอง เราก็มั่นใจต่อหน้าพระเจ้า

22 และได้รับทุกสิ่งที่เราทูลขอจากพระองค์ เพราะเราเชื่อฟังพระบัญชาและทำสิ่งที่พระองค์พอพระทัย

23 พระบัญชาของพระองค์คือ ให้เชื่อในพระนามพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ และรักซึ่งกันและกันตามที่ทรงบัญชาเราไว้

24 ผู้ใดเชื่อฟังพระบัญชา ผู้นั้นก็อยู่ในพระองค์และพระองค์ทรงอยู่ในผู้นั้น เช่นนี้เราจึงรู้ว่าพระองค์ทรงอยู่ในเรา คือเรารู้โดยพระวิญญาณที่พระองค์ได้ประทานแก่เรา

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/1JN/3-4b7dcc7d98c6d7036883bc96060933f5.mp3?version_id=179—

Categories
1ยอห์น

1ยอห์น 4

ทดสอบวิญญาณต่างๆ

1 เพื่อนที่รัก อย่าเชื่อหมดทุกวิญญาณ แต่จงทดสอบดูว่าวิญญาณนั้นๆ มาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะมีผู้พยากรณ์เท็จมากมายเข้ามาในโลก

2 นี่คือวิธีที่จะทำให้ท่านรู้ว่าเป็นพระวิญญาณของพระเจ้า คือทุกวิญญาณที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ก็มาจากพระเจ้า

3 แต่ทุกวิญญาณที่ไม่ยอมรับพระเยซูก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่เป็นวิญญาณแห่งปฏิปักษ์ของพระคริสต์ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมาและบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว

4 ลูกที่รัก ท่านมาจากพระเจ้าและได้ชนะคนพวกนั้น เพราะพระองค์ผู้ทรงอยู่ในท่านยิ่งใหญ่กว่าผู้นั้นซึ่งอยู่ในโลก

5 คนพวกนั้นมาจากโลกจึงพูดตามมุมมองของโลกและโลกก็ฟังเขา

6 ส่วนเรามาจากพระเจ้า ผู้ใดรู้จักพระเจ้าย่อมฟังเรา แต่ผู้ที่ไม่ได้มาจากพระเจ้าย่อมไม่ฟังเรา เช่นนี้เราจึงรู้ว่าเป็นพระวิญญาณแห่งความจริงหรือวิญญาณแห่งความเท็จ

ความรักของพระเจ้ากับความรักของเรา

7 เพื่อนที่รักทั้งหลาย ให้เรารักซึ่งกันและกันเพราะความรักมาจากพระเจ้า ทุกคนที่รักก็ได้บังเกิดจากพระเจ้าและรู้จักพระเจ้า

8 ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้าเพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก

9 นี่คือวิธีที่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์ท่ามกลางเราทั้งหลาย คือพระองค์ทรงส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลกเพื่อเราจะได้มีชีวิตโดยทางพระบุตรนั้น

10 นี่คือความรัก ไม่ใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระเจ้าทรงรักเราและทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา

11 เพื่อนที่รัก ในเมื่อพระเจ้าทรงรักเราเช่นนั้น เราก็ควรรักซึ่งกันและกัน

12 ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่ถ้าเรารักซึ่งกันและกัน พระเจ้าก็ทรงอยู่ในเราและความรักของพระองค์ก็เต็มบริบูรณ์ในเรา

13 เรารู้ว่าเราอยู่ในพระองค์และพระองค์ทรงอยู่ในเรา เพราะพระองค์ได้ประทานพระวิญญาณของพระองค์แก่เรา

14 เราได้เห็นและได้เป็นพยานว่าพระบิดาได้ทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลก

15 ถ้าผู้ใดยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าก็ทรงอยู่ในผู้นั้นและเขาก็อยู่ในพระเจ้า

16 เช่นนี้เราจึงรู้และเชื่อมั่นในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา

พระเจ้าทรงเป็นความรัก ผู้ใดอยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้าและพระเจ้าทรงอยู่ภายในเขา

17 เช่นนี้ความรักจึงเต็มบริบูรณ์ท่ามกลางเราทั้งหลายเพื่อเราจะมีความมั่นใจในวันพิพากษา เพราะในโลกนี้เราเป็นเหมือนพระองค์

18 ในความรักไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์ย่อมขจัดความกลัวออกไป เพราะความกลัวเกี่ยวข้องกับการลงโทษ ผู้ที่กลัวก็ยังไม่มีความรักที่สมบูรณ์

19 เรารักก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน

20 ถ้าผู้ใดพูดว่า “ข้าพเจ้ารักพระเจ้า” แต่ยังเกลียดพี่น้องของตน ผู้นั้นก็โกหก เพราะผู้ที่ไม่รักพี่น้องซึ่งตนมองเห็นย่อมไม่สามารถรักพระเจ้าซึ่งตนมองไม่เห็น

21 และพระองค์ทรงบัญชาเราไว้ว่าผู้ที่รักพระเจ้าต้องรักพี่น้องของตนด้วย

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/1JN/4-c71ca4fb26aa27e5aa3b50def6afd16b.mp3?version_id=179—

Categories
1ยอห์น

1ยอห์น 5

ความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้า

1 ทุกคนที่เชื่อว่าพระเยซูคือพระคริสต์ก็บังเกิดจากพระเจ้า และทุกคนที่รักบิดาย่อมรักบุตรของเขาด้วย

2 เช่นนี้แหละเราจึงรู้ว่าเรารักคนทั้งหลายที่เป็นบุตรของพระเจ้า คือโดยการรักพระเจ้าและทำตามพระบัญชาของพระองค์

3 การรักพระเจ้าคือการเชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้า และพระบัญชาของพระองค์ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง

4 เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าย่อมชนะโลก และความเชื่อของเรานี่แหละคือชัยชนะที่พิชิตโลก

5 ใครเล่าชนะโลก? ก็มีแต่ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้าเท่านั้น

6 พระเยซูคริสต์คือผู้ที่เสด็จมาโดยน้ำและพระโลหิต พระองค์ไม่ได้เสด็จมาโดยน้ำเพียงอย่างเดียว แต่โดยน้ำและพระโลหิต และพระวิญญาณทรงเป็นพยานให้เพราะพระวิญญาณทรงเป็นความจริง

7 เพราะมีสามสิ่งที่เป็นพยานคือ

8 พระวิญญาณ น้ำ และพระโลหิต และทั้งสามนี้สอดคล้องกัน

9 ถ้าเรารับคำพยานของมนุษย์ คำพยานของพระเจ้าย่อมยิ่งใหญ่กว่าเพราะเป็นคำพยานจากพระเจ้าเกี่ยวกับพระบุตรของพระองค์

10 ผู้ที่เชื่อในพระบุตรของพระเจ้าก็มีคำพยานนี้อยู่ในใจ ผู้ที่ไม่เชื่อก็หาว่าพระเจ้ามุสาเพราะไม่เชื่อคำพยานที่พระเจ้าให้เกี่ยวกับพระบุตรของพระองค์

11 คำพยานนี้ก็คือพระเจ้าประทานชีวิตนิรันดร์แก่เรา และชีวิตนี้อยู่ในพระบุตรของพระองค์

12 ผู้ที่มีพระบุตรก็มีชีวิต ผู้ที่ไม่มีพระบุตรของพระองค์ก็ไม่มีชีวิต

บทสรุป

13 ข้าพเจ้าเขียนข้อความเหล่านี้มาถึงท่านทั้งหลายที่เชื่อในพระนามของพระบุตรของพระเจ้า เพื่อท่านจะรู้ว่าท่านมีชีวิตนิรันดร์

14 นี่คือความมั่นใจที่เรามีเมื่อเข้าเฝ้าพระเจ้า คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟังเรา

15 และถ้าเรารู้ว่าพระองค์ทรงฟังเรา เมื่อเราทูลขอสิ่งใดๆ เราก็รู้ว่าจะได้รับสิ่งที่เราทูลขอจากพระองค์

16 ถ้าผู้ใดเห็นพี่น้องของตนทำบาปอย่างหนึ่งอย่างใดที่ไม่นำไปสู่ความตาย ผู้นั้นควรอธิษฐานขอ และพระเจ้าจะประทานชีวิตแก่ผู้ที่ทำบาป ข้าพเจ้าหมายถึงคนที่ทำบาปซึ่งไม่นำไปสู่ความตาย บาปที่นำไปสู่ความตายก็มี ข้าพเจ้าไม่ได้กล่าวว่าให้อธิษฐานขอสำหรับคนที่ทำบาปเช่นนั้น

17 การอธรรมทั้งปวงล้วนเป็นบาป แต่บาปที่ไม่นำไปสู่ความตายก็มีอยู่

18 เรารู้ว่าผู้ที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาปต่อไป แต่พระองค์ผู้บังเกิดจากพระเจ้าทรงคุ้มครองเขาไว้ให้ปลอดภัยและมารร้ายไม่อาจทำอันตรายเขา

19 เรารู้ว่าเราเป็นบุตรของพระเจ้าและทั่วทั้งโลกอยู่ใต้การควบคุมของมารร้าย

20 เรายังรู้ด้วยว่าพระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาและได้ประทานความเข้าใจแก่เรา เพื่อเราจะรู้จักพระเจ้าที่แท้จริงและเราอยู่ในพระเจ้าที่แท้จริง คืออยู่ในพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแท้และเป็นชีวิตนิรันดร์

21 ลูกที่รัก จงรักษาตนเองให้พ้นจากรูปเคารพเถิด

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/1JN/5-c0e43d22f985681e2f94be28f363d40c.mp3?version_id=179—