Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 1

เรียกร้องให้กลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า

1 ในเดือนที่แปดของปีที่สองแห่งรัชกาลดาริอัส พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงผู้เผยพระวจนะเศคาริยาห์บุตรเบเรคิยาห์บุตรอิดโดว่า

2 “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธบรรพบุรุษของพวกเจ้ายิ่งนัก

3 ฉะนั้นจงบอกเหล่าประชากรดังนี้ว่า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘จงกลับมาหาเรา’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘แล้วเราจะกลับมาหาพวกเจ้า’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น

4 อย่าเป็นเหมือนบรรพบุรุษของพวกเจ้า ซึ่งบรรดาผู้เผยพระวจนะแต่ก่อนเคยประกาศดังนี้ว่า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘จงหันจากวิถีและความประพฤติอันชั่วช้าของพวกเจ้า’ แต่พวกเขาไม่ได้ฟังหรือใส่ใจเราเลยองค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

5 บัดนี้บรรพบุรุษของพวกเจ้าไปไหนเสียแล้ว? และบรรดาผู้เผยพระวจนะมีชีวิตยืนยงตลอดกาลหรือ?

6 แต่ถ้อยคำและกฎหมายซึ่งเราสั่งเหล่าผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเราก็เป็นจริงกับบรรพบุรุษของพวกเจ้าไม่ใช่หรือ?

“แล้วเขาเหล่านั้นก็สำนึกผิดและกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงทำกับเราอย่างสาสมกับวิถีและความประพฤติของเราตามที่พระองค์ทรงตัดสินพระทัยไว้แล้ว’ ”

ชายผู้อยู่ท่ามกลางต้นน้ำมันเขียว

7 ในวันที่ยี่สิบสี่เดือนเชบัท คือเดือนที่สิบเอ็ดของปีที่สองแห่งรัชกาลดาริอัส พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงผู้เผยพระวจนะเศคาริยาห์บุตรเบเรคิยาห์บุตรอิดโด

8 ยามค่ำคืนข้าพเจ้าเห็นนิมิตตรงหน้าข้าพเจ้า มีชายคนหนึ่งขี่ม้าสีแดง! เขายืนอยู่ในหมู่ต้นน้ำมันเขียวในลำห้วย ข้างหลังเขามีม้าสีแดง ม้าสีน้ำตาล และม้าสีขาว

9 ข้าพเจ้าถามว่า “ท่านเจ้าข้า สิ่งเหล่านี้คืออะไร?”

ทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้าตอบว่า “เราจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าคืออะไร”

10 แล้วชายคนที่ยืนในหมู่ต้นน้ำมันเขียวอธิบายว่า “พวกเขาคือผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งไปทั่วโลก”

11 แล้วพวกเขามารายงานทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งยืนอยู่กลางหมู่ต้นน้ำมันเขียวว่า “เราได้ไปทั่วโลก และพบว่าทั่วโลกก็พักสงบอยู่”

12 แล้วทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระองค์จะทรงยับยั้งพระเมตตาจากเยรูซาเล็มและหัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์ไปนานสักเท่าใด? ทรงพระพิโรธมาเจ็ดสิบปีแล้ว”

13 ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสถ้อยคำที่อ่อนโยนและถ้อยคำปลอบใจกับทูตสวรรค์นั้นซึ่งสนทนากับข้าพเจ้า

14 แล้วทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “จงประกาศถ้อยคำเหล่านี้ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘เราหวงแหนเยรูซาเล็มและศิโยน

15 แต่เราโกรธยิ่งนักที่ชนชาติต่างๆ รู้สึกมั่นคงปลอดภัย เราโกรธนิดเดียว แต่พวกเขาทำให้ย่อยยับเกินขนาด’

16 “ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เราจะหันกลับมาหาเยรูซาเล็มด้วยความเมตตา และพระนิเวศของเราจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ที่นั่น และสายวัดจะถูกดึงออกวัดทั่วเยรูซาเล็ม’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น

17 “จงประกาศต่อไปว่า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘เมืองต่างๆ ของเราจะเจริญรุ่งเรืองอย่างล้นเหลืออีกครั้ง และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงปลอบโยนศิโยนและเลือกสรรเยรูซาเล็มอีกครั้ง’ ”

เขาสัตว์สี่อันและช่างฝีมือสี่คน

18 แล้วข้าพเจ้าเงยหน้า เห็นเขาสัตว์สี่อันอยู่ตรงหน้า!

19 ข้าพเจ้าจึงถามทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้าว่า “สิ่งเหล่านี้คืออะไร?”

เขาตอบว่า “สิ่งเหล่านี้คือเขาสัตว์ซึ่งทำให้ยูดาห์ อิสราเอล และเยรูซาเล็มกระจัดกระจาย”

20 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นช่างฝีมือสี่คน

21 ข้าพเจ้าจึงถามว่า “คนเหล่านี้มาทำอะไร?”

เขาตอบว่า “สิ่งเหล่านี้คือเขาสัตว์ซึ่งทำให้ยูดาห์กระจัดกระจายจนไม่มีใครโงหัวขึ้นมาได้ แต่ช่างฝีมือเหล่านี้มาเพื่อทำให้เขาสัตว์ทั้งหลายหวาดกลัว และทำลายเขาสัตว์ของประชาชาติทั้งหลายที่ได้ชูเขาของตนขึ้น ทำให้ประชากรยูดาห์กระจัดกระจายไป”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/1-c3dbbb68218ab223e47333f7357059d4.mp3?version_id=179—

Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 2

ชายที่ถือสายวัด

1 แล้วข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้น เห็นชายคนหนึ่งถือสายวัดอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า!

2 ข้าพเจ้าถามว่า “ท่านจะไปไหน?”

เขาตอบว่า “ไปวัดกรุงเยรูซาเล็มดูว่ากว้างยาวแค่ไหน”

3 แล้วทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้าก็จากไป มีทูตสวรรค์อีกองค์มาพบทูตองค์นั้น

4 และกล่าวกับเขาว่า “วิ่งไปบอกชายหนุ่มผู้นั้นเถิดว่า ‘เยรูซาเล็มจะมีผู้คนและฝูงสัตว์อาศัยอยู่แน่นหนา จนทำกำแพงล้อมไว้ไม่ได้

5 และเราเองจะเป็นกำแพงไฟล้อมกรุงเยรูซาเล็ม และเป็นสง่าราศีในกรุงนั้น’องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น”

6 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “มาเถิด! มาเถิด! จงหนีไปจากดินแดนภาคเหนือเพราะเราได้ทำให้เจ้ากระจัดกระจายไปกับลมทั้งสี่แห่งฟ้าสวรรค์”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

7 “มาเถิดศิโยนเอ๋ย จงหนีเถิด เจ้าทั้งหลายผู้เป็นเชลยอยู่ในบาบิโลน!”

8 เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนี้ว่า “หลังจากพระองค์ประทานเกียรติแก่เรา และทรงใช้เรามาต่อสู้กับชนชาติทั้งหลายที่มาปล้นเจ้า เพราะผู้ใดแตะต้องเจ้าก็แตะต้องแก้วพระเนตรของพระองค์

9 แน่นอนเราจะเงื้อมือขึ้นฟาดพวกเขา เพื่อทาสของพวกเขาจะปล้นพวกเขา แล้วเจ้าจะรู้ว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงใช้เรามา

10 “ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงโห่ร้องยินดีเถิด เพราะเรากำลังจะมา และเราจะอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

11 “ชนชาติมากมายจะร่วมอยู่ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าในวันนั้น และจะเป็นประชากรของเรา เราจะอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า และพวกเจ้าจะรู้ว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงใช้เรามาหาพวกเจ้า

12 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้ยูดาห์เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนของพระองค์ในดินแดนบริสุทธิ์ และจะทรงเลือกสรรเยรูซาเล็มอีกครั้ง

13 มวลมนุษยชาติเอ๋ย จงนิ่งสงบต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์เสด็จขึ้นจากที่ประทับอันบริสุทธิ์แล้ว”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/2-5b87e851d90085a492eb010bc5ceea94.mp3?version_id=179—

Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 3

เครื่องแต่งกายสะอาดสำหรับมหาปุโรหิต

1 แล้วทูตองค์นั้นได้แสดงให้ข้าพเจ้าเห็นมหาปุโรหิตโยชูวายืนอยู่ต่อหน้าทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าและซาตานยืนอยู่ขวามือของเขาเพื่อกล่าวหาเขา

2 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับซาตานว่า “ซาตาน!องค์พระผู้เป็นเจ้าตำหนิเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เลือกสรรเยรูซาเล็มตำหนิเจ้า! ชายผู้นี้เป็นดุ้นฟืนติดไฟที่ถูกดึงออกจากไฟไม่ใช่หรือ?”

3 โยชูวานั้นสวมเสื้อผ้าสกปรกยืนอยู่ต่อหน้าทูตสวรรค์องค์นั้น

4 ทูตนั้นกล่าวแก่บรรดาผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาว่า “ถอดเสื้อผ้าสกปรกของเขาออกเถิด”

แล้วกล่าวกับโยชูวาว่า “ดูเถิด เราได้ปลดเปลื้องบาปของเจ้าออกไปแล้ว และเราจะให้เจ้าสวมเสื้อผ้างดงาม”

5 ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “ขอให้เอาผ้าโพกศีรษะที่สะอาดมาโพกให้เขา” แล้วพวกเขาก็โพกศีรษะโยชูวาด้วยผ้าสะอาดและแต่งกายให้ขณะที่ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ายืนอยู่ใกล้ๆ

6 ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกำชับโยชูวาว่า

7 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘หากเจ้าดำเนินในวิถีทางของเรา และรักษากฎเกณฑ์ของเรา เจ้าจะได้ปกครองนิเวศของเรา รวมทั้งลานวิหารของเรา เราจะให้เจ้าดำเนินอยู่ต่อหน้าเราร่วมกับคนเหล่านี้ที่ยืนอยู่ที่นี่

8 “ ‘ฟังเถิด มหาปุโรหิตโยชูวาและเพื่อนร่วมงานซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าเจ้า พวกเจ้าผู้เป็นคนซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราจะนำผู้รับใช้ของเรามาคือ “กิ่ง”

9 จงดูศิลาที่เราตั้งไว้ตรงหน้าโยชูวาเถิด! ศิลาก้อนเดียวมีเจ็ดเหลี่ยมและเราจะสลักคำจารึกบนศิลานั้น’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘และเราจะขจัดบาปของดินแดนนี้ภายในวันเดียว

10 “ ‘ในวันนั้น พวกเจ้าแต่ละคนจะเชิญเพื่อนบ้านมานั่งใต้เถาองุ่นและต้นมะเดื่อของตน’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/3-4a3117e93bd20de59e53ef48d906acb5.mp3?version_id=179—

Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 4

คันประทีปทองคำและต้นมะกอกเทศสองต้น

1 แล้วทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้ากลับมาปลุกข้าพเจ้า เหมือนปลุกให้ตื่นจากหลับ

2 ทูตนั้นถามข้าพเจ้าว่า “เจ้าเห็นอะไร?”

ข้าพเจ้าตอบว่า “เห็นคันประทีปทองคำ มีชามน้ำมันอยู่บนยอด และมีตะเกียงเจ็ดดวง โดยมีท่อตะเกียงเจ็ดท่อส่งน้ำมันไปจุดตะเกียง

3 มีต้นมะกอกเทศสองต้นอยู่ใกล้คันประทีปนั้น ต้นหนึ่งอยู่ทางขวาของชามน้ำมันและอีกต้นอยู่ทางซ้าย”

4 ข้าพเจ้าถามทูตที่สนทนากับข้าพเจ้าว่า “ท่านเจ้าข้า สิ่งเหล่านั้นคืออะไร?”

5 ทูตนั้นย้อนถามว่า “เจ้าไม่รู้หรือว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร?”

ข้าพเจ้าตอบว่า “ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่ทราบ”

6 ทูตนั้นจึงกล่าวว่า “ก่อนอื่นเจ้าจงแจ้งเศรุบบาเบลถึงพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีมาถึงเขาว่า ‘ไม่ใช่ด้วยกำลัง ไม่ใช่ด้วยฤทธิ์อำนาจ แต่โดยวิญญาณของเรา’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น

7 “ภูเขาที่ยิ่งใหญ่เอ๋ย เจ้ามีอะไรดี? ต่อหน้าเศรุบบาเบลเจ้าจะราบเป็นหน้ากลอง แล้วเขาจะนำศิลามุมเอกมาสถาปนาในพระวิหารท่ามกลางเสียงโห่ร้องว่า ‘ขอพระเจ้าทรงอวยพรพระวิหาร! ขอพระเจ้าทรงอวยพรพระวิหาร!’ ”

8 แล้วมีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า

9 “เศรุบบาเบลได้ลงมือวางฐานรากของพระวิหารแห่งนี้ และมือของเขาจะสร้างจนสำเร็จ แล้วเจ้าจะรู้ว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ได้ทรงส่งเรามาหาพวกเจ้า

10 “ใครบังอาจดูถูกสิ่งเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในวันนี้? เพราะพระเนตรทั้งเจ็ดขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมองไปทั่วพิภพจะชื่นชมยินดีเมื่อเห็นศิลามุมเอกที่คัดสรรอยู่ในมือเศรุบบาเบล”

11 แล้วข้าพเจ้าจึงถามทูตองค์นั้นว่า “ต้นมะกอกเทศทั้งสองต้นที่ขนาบด้านซ้ายและขวาของคันประทีปหมายถึงอะไร?”

12 และข้าพเจ้าถามอีกว่า “กิ่งมะกอกเทศทั้งสองกิ่งที่อยู่ข้างๆ ท่อทองคำทั้งสองซึ่งส่งน้ำมันสีทองไปยังตะเกียงหมายถึงอะไร?”

13 ทูตนั้นตอบว่า “เจ้าไม่รู้ความหมายของสิ่งเหล่านี้หรือ?”

ข้าพเจ้าตอบว่า “ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่ทราบ”

14 ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า “สิ่งเหล่านี้หมายถึงบุคคลทั้งสองที่ได้รับการเจิมตั้งให้ทำหน้าที่รับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลก”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/4-3c9d9db5d0a380ce01b0bfe73557531a.mp3?version_id=179—

Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 5

หนังสือม้วนบินได้

1 ข้าพเจ้ามองดูอีกครั้งก็เห็นหนังสือม้วนบินไป

2 ทูตองค์นั้นถามข้าพเจ้าว่า “เจ้าเห็นอะไร?”

ข้าพเจ้าตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นหนังสือม้วนบินอยู่ ยาว 20 ศอก กว้าง 10 ศอก”

3 แล้วทูตนั้นบอกข้าพเจ้าว่า “นี่เป็นคำสาปแช่งซึ่งไปทั่วดินแดน ตามที่มีข้อความระบุไว้ด้านหนึ่งว่าขโมยทุกคนจะถูกขับไล่ออกไป และอีกด้านหนึ่งระบุว่าทุกคนที่สาบานเท็จจะถูกขับไล่ออกไปด้วย

4 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า ‘เราจะส่งคำสาปแช่งนี้ออกไปและมันจะเข้าไปในบ้านของขโมยและคนที่สาบานเท็จในนามของเรา คำสาปแช่งนี้จะอยู่เหนือบ้านของคนเหล่านั้นและทำลายบ้านนั้นลงทั้งไม้และหิน’ ”

ผู้หญิงในถังตวง

5 แล้วทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้านั้นออกมากล่าวกับข้าพเจ้าว่า “มองไปเถิด ดูว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น”

6 ข้าพเจ้าก็ถามว่า “นั่นคืออะไร?”

ทูตนั้นตอบว่า “มันคือถังตวง” เขากล่าวต่อไปว่า “ถังนี้จุความชั่วช้าของประชาชนทั่วทั้งแผ่นดิน”

7 แล้วฝาตะกั่วของถังก็ถูกยกขึ้น ในถังนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่!

8 ทูตนั้นกล่าวว่า “นี่คือความชั่วร้าย” แล้วก็ผลักหญิงนั้นลงไปในถังตามเดิมและดันฝาตะกั่วปิดปากถัง

9 แล้วข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้นและเห็นผู้หญิงสองคนมีปีกเหมือนนกกระสา บินตรงมาหาเรา พวกนางมายกถังนั้นบินทะยานขึ้นไปในอากาศ

10 ข้าพเจ้าถามทูตที่สนทนากับข้าพเจ้าว่า “หญิงทั้งสองจะเอาถังไปที่ไหน?”

11 ทูตสวรรค์ตอบว่า “ไปยังดินแดนบาบิโลนเพื่อสร้างบ้านหลังหนึ่งให้ เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็จะวางถังนั้นเก็บเข้าที่”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/5-d1a1488b8478a8638c07b849a6f81457.mp3?version_id=179—

Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 6

รถรบทั้งสี่

1 ข้าพเจ้าเงยหน้าเห็นรถม้าศึกสี่คันตรงหน้า แล่นออกมาจากระหว่างภูเขาทองสัมฤทธิ์สองลูก

2 รถม้าศึกคันแรกเทียมม้าแดง คันที่สองเทียมม้าดำ

3 คันที่สามเทียมม้าขาว คันที่สี่เทียมม้าด่าง ทั้งสี่ล้วนทรงอานุภาพ

4 ข้าพเจ้าถามทูตสวรรค์ที่สนทนากับข้าพเจ้าว่า “ท่านเจ้าข้า สิ่งเหล่านี้คืออะไร?”

5 ทูตนั้นตอบว่า “เหล่านี้คือวิญญาณทั้งสี่แห่งฟ้าสวรรค์ ซึ่งออกมาจากเบื้องพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งมวลพิภพ

6 คันที่เทียมม้าดำจะไปยังดินแดนภาคเหนือ คันที่เทียมม้าขาวไปทางตะวันตกและคันที่เทียมม้าด่างไปทางใต้”

7 เมื่อม้าทรงอานุภาพเหล่านั้นออกมา พวกมันกระตือรือร้นอยากจะไปทั่วโลก ทูตสวรรค์กล่าวว่า “จงไปทั่วโลก!” แล้วพวกมันก็ออกไปทั่วโลก

8 แล้วทูตนั้นร้องบอกข้าพเจ้าว่า “ดูเถิด พวกที่ไปยังดินแดนภาคเหนือนั้นทำให้พระวิญญาณของเราสงบนิ่งในดินแดนภาคเหนือ”

มงกุฎสำหรับโยชูวา

9 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า

10 “จงรับเงินและทองคำจากเฮลดัย โทบียาห์ และเยดายาห์เชลยจากบาบิโลนที่เพิ่งมาถึงนั้น นำไปยังบ้านของโยสิยาห์บุตรเศฟันยาห์ในวันนั้น

11 นำเงินและทองคำนั้นไปทำมงกุฎ และสวมให้มหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดัก

12 บอกเขาว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘นี่คือผู้ที่ได้ชื่อว่า “กิ่ง” เขาจะแตกกิ่งก้านสาขาจากที่ของเขาและสร้างวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า

13 เขาคือผู้ที่จะสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเขาจะได้รับเกียรติบารมีเป็นอาภรณ์และนั่งบนบัลลังก์ทำหน้าที่ปกครอง และเขาจะเป็นทั้งกษัตริย์และปุโรหิตอย่างกลมกลืน’

14 แล้วเก็บมงกุฎนั้นไว้ในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นการระลึกถึงเฮลดัยโทบียาห์ เยดายาห์ และโยสิยาห์บุตรของเศฟันยาห์

15 บรรดาผู้อยู่ในถิ่นไกลจะมาช่วยสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วเจ้าจะรู้ว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ได้ใช้เรามาหาเจ้า การนี้จะเกิดขึ้นหากเจ้ามุ่งมั่นเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/6-94044a7910c0c5600c3e2609bd1ae39b.mp3?version_id=179—

Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 7

ความยุติธรรมและความเมตตา ไม่ใช่การอดอาหาร

1 ในวันที่สี่เดือนคิสเลฟอันเป็นเดือนที่เก้าของปีที่สี่แห่งรัชกาลดาริอัส พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเศคาริยาห์

2 ชาวเบธเอลได้ส่งชาเรเซอร์และเรเกมเมเลคกับพรรคพวกมาทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า

3 โดยให้มาถามปุโรหิตที่พระนิเวศของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์และบรรดาผู้เผยพระวจนะว่า “ข้าพเจ้าควรไว้ทุกข์และถืออดอาหารในเดือนที่ห้าเหมือนที่ได้ทำมาตลอดหลายปีหรือไม่?”

4 แล้วมีพระดำรัสของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์มาถึงข้าพเจ้าว่า

5 “จงถามประชาชนทั้งปวงและบรรดาปุโรหิตว่า ‘ตลอดเจ็ดสิบปีมานี้ เมื่อเจ้าถืออดอาหารและทูลอ้อนวอนในเดือนที่ห้าและในเดือนที่เจ็ดนั้น เจ้าถืออดอาหารเพื่อเราจริงหรือ?

6 และเมื่อเจ้ากินดื่ม เจ้าก็ฉลองเพื่อตัวเองไม่ใช่หรือ?

7 เมื่อครั้งเยรูซาเล็มและหัวเมืองทั้งหลายโดยรอบยังรุ่งเรืองและสงบสุข เนเกบและเชิงเขาตะวันตกยังมีผู้คนตั้งรกรากอยู่ ก็มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าเตือนไว้อย่างนี้ผ่านทางผู้เผยพระวจนะคนก่อนๆ ไม่ใช่หรือ?’ ”

8 แล้วมีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเศคาริยาห์อีกว่า

9 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘จงผดุงความยุติธรรมที่แท้จริง แสดงความเมตตาเห็นอกเห็นใจต่อกัน

10 อย่ากดขี่ข่มเหงแม่ม่ายหรือลูกกำพร้าพ่อ คนต่างด้าวหรือผู้ยากไร้ อย่าให้ท่านมีใจคิดร้ายต่อกัน’

11 “แต่พวกเขาก็ไม่ยอมใส่ใจฟัง เขาอุดหูและหันหลังให้เราอย่างดื้อด้าน

12 เขาทำใจให้แข็งกระด้างดั่งหินเหล็กไฟ และไม่ยอมฟังบทบัญญัติหรือถ้อยคำที่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์มีมาถึงพวกเขาโดยพระวิญญาณของพระองค์ผ่านทางผู้เผยพระวจนะคนก่อนๆ ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จึงทรงพระพิโรธยิ่งนัก

13 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า ‘เมื่อเราร้องเรียก พวกเขาไม่ฟัง ฉะนั้นเมื่อพวกเขาร้องเรียก เราก็จะไม่ฟัง

14 เราใช้พายุหมุนทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปเป็นคนแปลกถิ่นในหมู่ชนชาติต่างๆ ดินแดนของเขาจะถูกทิ้งร้างอยู่ข้างหลัง ไม่มีใครผ่านไปมา เขาทำให้ดินแดนอันน่าอภิรมย์กลับเริศร้างไปเช่นนี้’ ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/7-6a4a8bddd47e9f7de9b7a34239430f61.mp3?version_id=179—

Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 8

องค์พระผู้เป็นเจ้า

1 อีกครั้งหนึ่งมีพระดำรัสของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์มาถึงข้าพเจ้าว่า

2 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เราหวงแหนศิโยนยิ่งนัก เราหวงแหนด้วยใจที่รุ่มร้อน”

3 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “เราจะกลับมาหาศิโยน มาอยู่ในเยรูซาเล็ม แล้วเยรูซาเล็มจะได้ชื่อว่า ‘นครแห่งความจริง’ และภูเขาของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะได้ชื่อว่า ‘ภูเขาศักดิ์สิทธิ์’ ”

4 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ตามถนนหนทางในเยรูซาเล็มจะกลับมีชายหญิงที่แก่หง่อม ถือไม้เท้านั่งอยู่เหมือนแต่ก่อน

5 ตามท้องถนนก็มีเด็กชายหญิงวิ่งเล่นอยู่”

6 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “มันอาจดูเป็นไปไม่ได้สำหรับชนหยิบมือที่เหลืออยู่นี้ แต่สำหรับเราแล้วมันจะเป็นไปไม่ได้เชียวหรือ?” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น

7 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เราจะช่วยประชากรของเราจากประเทศต่างๆ ทางตะวันออกและตะวันตก

8 เราจะพาพวกเขากลับมาอยู่ที่เยรูซาเล็ม เขาจะเป็นประชากรของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าผู้ซื่อสัตย์และชอบธรรมของเขา”

9 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “พวกเจ้าซึ่งบัดนี้ฟังถ้อยคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะซึ่งอยู่ด้วยเมื่อครั้งวางฐานรากพระนิเวศของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จงให้มือของเจ้าเข้มแข็งเพื่อสร้างพระวิหารให้สำเร็จ

10 ก่อนหน้านั้นไม่มีค่าจ้างให้คนหรือสัตว์ ผู้คนที่สัญจรไปมาเพื่อค้าขายก็ไม่ปลอดภัยจากศัตรู เพราะเราทำให้เพื่อนบ้านทุกคนเป็นศัตรูกัน

11 แต่เดี๋ยวนี้เราจะไม่ทำกับชนหยิบมือที่เหลืออยู่เหมือนในอดีต” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น

12 “เมล็ดจะงอกงาม เถาองุ่นจะออกผล ผืนแผ่นดินจะให้พืชผล และฟ้าจะหยาดน้ำค้างลงมา เราจะมอบสิ่งทั้งปวงนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของชนหยิบมือที่เหลืออยู่

13 ยูดาห์และอิสราเอลเอ๋ย เจ้าเคยเป็นที่สาปแช่งในหมู่ชนชาติทั้งหลายนั้นอย่างไร เราจะช่วยเจ้าและเจ้าจะเป็นพระพรอย่างนั้น อย่ากลัวเลย แต่จงให้มือของเจ้าเข้มแข็ง”

14 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ตามที่เราเคยตัดสินใจนำภัยพิบัติมายังเจ้าและไม่ปรานีเจ้า ตอนที่บรรพบุรุษของเจ้าทำให้เราโกรธ” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น

15 “แต่บัดนี้เราตัดสินใจจะทำดีต่อเยรูซาเล็มและยูดาห์อีก ฉะนั้นอย่ากลัวเลย

16 เจ้าจงทำอย่างนี้คือ จงพูดความจริงต่อกัน จงตัดสินความในศาลอย่างถูกต้องและเที่ยงธรรม

17 อย่าคิดร้ายต่อเพื่อนบ้าน และอย่าชอบสาบานเท็จ เพราะเราเกลียดชังสิ่งทั้งปวงนี้”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

18 อีกครั้งหนึ่งมีพระดำรัสของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์มาถึงข้าพเจ้า

19 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “การถืออดอาหารในเดือนที่สี่ เดือนที่ห้า เดือนที่เจ็ด และเดือนที่สิบ จะเป็นเวลาแห่งความชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ และเป็นเทศกาลแห่งความสุขสำหรับยูดาห์ ฉะนั้นจงรักความจริงและสันติภาพ”

20 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ชนชาติต่างๆ และคนที่อาศัยอยู่ในนครต่างๆ หลายแห่งยังจะมา

21 ชาวเมืองหนึ่งจะไปชวนอีกเมืองหนึ่งว่า ‘ให้เราไปทูลอ้อนวอนองค์พระผู้เป็นเจ้าเดี๋ยวนี้ ไปแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์กันเถิด เราเองก็จะไปด้วย’

22 ชนชาติทั้งหลายและชาติมหาอำนาจต่างๆ จะมายังเยรูซาเล็มเพื่อแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์และอ้อนวอนพระองค์”

23 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เมื่อถึงเวลานั้นชายสิบคนจากทุกชาติทุกภาษาจะยึดชายเสื้อคลุมของชาวยิวคนหนึ่งไว้และกล่าวว่า ‘ขอเราไปกับท่านเถิด เพราะเราได้ยินมาว่าพระเจ้าสถิตกับท่าน’ ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/8-43986a3b83c1a8ade7b99cc85b1977b0.mp3?version_id=179—

Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 9

การพิพากษาศัตรูของอิสราเอล

1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ประณามดินแดนหัดราก

และดามัสกัส

เพราะตาของมนุษย์และอิสราเอลทุกเผ่า

จับจ้องที่องค์พระผู้เป็นเจ้า

2 และทรงประณามฮามัทซึ่งอยู่ใกล้ดามัสกัส

และประณามไทระกับไซดอนด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาช่ำชองนัก

3 ไทระสร้างปราการป้องกันเมือง

สะสมเงินไว้มากมายเหมือนธุลี

และมีทองมากมายเหมือนฝุ่นตามถนน

4 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงริบทรัพย์สมบัติของเมืองนั้นไป

และทำลายอำนาจทางทะเลของมัน

และเผาผลาญมันด้วยไฟ

5 อัชเคโลนจะเห็นแล้วหวาดกลัว

กาซาจะทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส

เอโครนก็เช่นกันเพราะความหวังของมันอับเฉา

กาซาจะสูญเสียกษัตริย์

และอัชเคโลนจะถูกทิ้งร้าง

6 ชนต่างชาติจะครอบครองอัชโดด

และเราจะกำจัดความหยิ่งผยองของชาวฟีลิสเตีย

7 เราจะเอาเลือดออกจากปากของพวกเขา

และเอาอาหารต้องห้ามออกจากซี่ฟันของพวกเขา

บรรดาผู้เหลือรอดอยู่จะเป็นของพระเจ้าของเรา

และจะกลายเป็นผู้นำในยูดาห์

และเอโครนจะเป็นเหมือนชาวเยบุส

8 แต่เราจะปกป้องนิเวศของเรา

จากกองกำลังที่มาปล้นชิง

ผู้กดขี่จะไม่มาย่ำยีบีฑาประชากรของเราอีก

เพราะบัดนี้เรากำลังจับตาดูอยู่

การเสด็จมาของกษัตริย์ศิโยน

9 ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย! จงชื่นชมยินดีเหลือล้น

ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย! จงโห่ร้อง

ดูเถิด กษัตริย์ของเจ้าเสด็จมาหาเจ้า

ทรงชอบธรรมและนำความรอดมา

ทรงอ่อนโยนและประทับมาบนหลังลา

ทรงลูกลาเสด็จมา

10 เราจะกำจัดรถม้าศึกจากเอฟราอิม

และม้าศึกจากเยรูซาเล็ม

ลูกธนูในการรบจะถูกหักทิ้ง

พระองค์จะประกาศสันติภาพแก่นานาประชาชาติ

ทรงขยายอาณาจักรจากทะเลจดทะเล

และจากแม่น้ำยูเฟรติสจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก

11 ส่วนเจ้า เนื่องด้วยโลหิตแห่งพันธสัญญาของเราซึ่งให้ไว้แก่เจ้า

เราจะปลดปล่อยนักโทษของเจ้าจากเหวลึกที่ไร้น้ำ

12 นักโทษผู้มีความหวังเอ๋ย จงกลับมายังป้อมปราการของเจ้า

บัดนี้เองเราประกาศว่าเราจะฟื้นฟูเจ้าขึ้นมาเป็นสองเท่า

13 เราจะโก่งยูดาห์เหมือนโก่งธนู

และให้เอฟราอิมเป็นลูกธนูเต็มแล่ง

ศิโยนเอ๋ย เราจะกระตุ้นลูกๆ ของเจ้า

มาสู้กับลูกๆ ของกรีซ

และทำให้เจ้าเป็นเหมือนดาบในมือนักรบ

องค์พระผู้เป็นเจ้า

14 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงปรากฏเหนือพวกเขา

ลูกศรของพระองค์จะเปล่งประกายดั่งสายฟ้า

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะทรงเป่าแตร

พระองค์จะทรงยาตราออกมาในพายุแห่งทิศใต้

15 และพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะทรงปกป้องพวกเขาไว้

พวกเขาจะทำลายล้าง

และพิชิตศึกด้วยสลิง

พวกเขาจะดื่มและโห่ร้องเหมือนดื่มเหล้าองุ่น

พวกเขาจะเต็มเปี่ยมเหมือนชาม

ซึ่งใช้ในการประพรมมุมแท่นบูชา

16 พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาจะทรงช่วยพวกเขาในวันนั้น

ในฐานะกลุ่มประชากรของพระองค์

พวกเขาจะรุ่งโรจน์ในแผ่นดินของพระองค์

เหมือนเพชรประดับมงกุฎ

17 พวกเขาจะงดงามน่าชมยิ่งนัก!

ธัญพืชจะทำให้คนหนุ่มเติบโต

และเหล้าองุ่นใหม่จะทำให้หญิงสาวเจริญวัย

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/9-cdeea2fc665fe74383a1835179157d71.mp3?version_id=179—

Categories
เศคาริยาห์

เศคาริยาห์ 10

พระเจ้าจะทรงดูแลยูดาห์

1 จงทูลขอฝนในฤดูใบไม้ผลิจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

องค์พระผู้เป็นเจ้านี่แหละเป็นผู้สร้างเมฆและพายุ

พระองค์ประทานสายฝนแก่มนุษย์

และพืชพันธุ์ธัญญาหารแก่ทุกคน

2 เทวรูปต่างๆ ให้คำตอบหลอกลวง

หมอดูเห็นนิมิตจอมปลอม

เขาเล่าความฝันเท็จ

และให้คำปลอบใจอันเปล่าประโยชน์

ฉะนั้นประชาชนจึงหลงเตลิดไปเหมือนแกะ

ถูกข่มเหงรังแกเพราะไม่มีคนเลี้ยง

3 “เราโกรธบรรดาคนเลี้ยงแกะยิ่งนัก

และจะลงโทษบรรดาผู้นำ

เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะทรงดูแล

ฝูงแกะของพระองค์ คือพงศ์พันธุ์ยูดาห์

และทรงทำให้พวกเขาเหมือนม้าศึกทะนงองอาจในสงคราม

4 ศิลามุมเอกจะมาจากยูดาห์

อีกทั้งหมุดเต็นท์

ธนูศึก

และผู้ปกครองทุกคน

5 เขาทั้งปวงจะเป็นนักรบเกรียงไกร

ย่ำไปบนถนนโคลนเลนในสงคราม

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกเขา

พวกเขาจะต่อสู้และพิชิตพลม้า

6 “เราจะทำให้พงศ์พันธุ์ยูดาห์เข้มแข็งขึ้น

และช่วยเหลือพงศ์พันธุ์โยเซฟ

เราจะกู้พวกเขากลับคืนมา

เพราะเราสงสารพวกเขา

พวกเขาจะเป็นเหมือน

คนที่ไม่เคยถูกเราทอดทิ้งเลย

เพราะเราเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา

เราจะตอบพวกเขา

7 ชาวเอฟราอิมจะเป็นดั่งนักรบเกรียงไกร

จิตใจของพวกเขาจะเปรมปรีดิ์เหมือนได้ดื่มเหล้าองุ่น

ลูกหลานของพวกเขาจะเห็นแล้วชื่นชมยินดียิ่งนัก

จิตใจของพวกเขาจะชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า

8 เราจะให้สัญญาณ

และรวบรวมพวกเขามา

แน่นอนเราจะไถ่พวกเขา

พวกเขาจะมีจำนวนมากมายเหมือนแต่ก่อน

9 แม้ว่าเราทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปในหมู่ชนชาติต่างๆ

แต่ในแดนไกลโพ้นพวกเขาจะระลึกถึงเรา

พวกเขากับลูกหลานจะอยู่รอด

และพวกเขาจะกลับมา

10 เราจะพาพวกเขากลับมาจากอียิปต์

รวบรวมกลับมาจากอัสซีเรีย

เราจะนำพวกเขามายังกิเลอาดและเลบานอน

และจะไม่มีที่เพียงพอสำหรับทุกคน

11 พวกเขาจะข้ามทะเลแห่งความเดือดร้อน

ทะเลอันปั่นป่วนจะยอมสยบ

และบรรดาห้วงลึกแห่งแม่น้ำไนล์จะเหือดแห้ง

ความหยิ่งผยองของอัสซีเรียจะถูกปราบราบคาบ

และคทาแห่งอียิปต์จะสูญสิ้นไป

12 เราจะทำให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า

และพวกเขาจะดำเนินในพระนามของพระองค์”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ZEC/10-e51d32527d599f2c26bd8503a7a5dfe4.mp3?version_id=179—