Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 21

คำพยากรณ์กล่าวโทษบาบิโลน

1 พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลนมีดังนี้ว่า

ผู้รุกรานมาจากถิ่นกันดาร

จากดินแดนน่าสะพรึงกลัว

เหมือนพายุพัดกระหน่ำดินแดนภาคใต้

2 ข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตอันน่ากลัว คือ

ผู้ทรยศก่อการกบฏ โจรเข้าฉกชิง

เอลามบุกโจมตี มีเดียเข้าล้อมเมือง

เราจะยุติเสียงครวญครางทั้งปวงที่มันทำให้เกิดขึ้น

3 ถึงตอนนี้ กายของข้าพเจ้าบิดเร่าด้วยความเจ็บปวด

ความรวดร้าวจู่โจมข้าพเจ้าเหมือนความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก

ข้าพเจ้าโซซัดโซเซเพราะสิ่งที่ได้ยิน

งงงันเพราะสิ่งที่ได้เห็น

4 หัวใจของข้าพเจ้าเต้นระทึก ตกใจกลัวจนตัวสั่น

ยามสนธยาที่ข้าพเจ้าใฝ่หากลับกลายเป็นความสยดสยอง

5 พวกเขาตั้งโต๊ะ

ยกพรมมาปู

เขากินและดื่ม!

นักรบทั้งหลาย ลุกขึ้นเถิด

เอาน้ำมันทาโล่!

6 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า

“จงวางยามไว้คอยดูแล

และให้เขารายงานสิ่งที่เห็น

7 เมื่อเขาเห็นรถรบ

ฝูงม้า

คนขี่ลา

หรือคนขี่อูฐเคลื่อนเข้ามา

ให้เขาตื่นตัว

และเพ่งดู”

8 แล้วยามร้องบอกว่า

“นายครับ ผมยืนเฝ้ายามที่หอคอยนี้

วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า

9 ดูเถิด มีคนหนึ่งนั่งรถรบมา

และมีม้ามาเป็นฝูง

เขาตอบกลับมาว่า

‘บาบิโลนล่มแล้ว!

เทวรูปทั้งหมดของบาบิโลน

แตกกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น!’ ”

10 พี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าเอ๋ย ผู้ถูกบดขยี้ในลานนวดข้าว

ข้าพเจ้าก็บอกท่านถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยิน

จากพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

จากพระเจ้าแห่งอิสราเอล

คำพยากรณ์กล่าวโทษเอโดม

11 พระดำรัสเกี่ยวกับดูมาห์มีดังนี้ว่า

มีคนร้องเรียกข้าพเจ้าจากเสอีร์ว่า

“คนยาม กี่โมงกี่ยามแล้ว?

คนยาม กี่โมงกี่ยามแล้ว?”

12 ยามตอบว่า

“จะเช้าแล้ว แต่ก็จะมืดด้วย

ถ้าจะถามก็ถามมาเถิด

แล้วค่อยกลับมาถามใหม่”

คำพยากรณ์กล่าวโทษอาระเบีย

13 พระดำรัสเกี่ยวกับอาระเบียมีดังนี้ว่า

เจ้าพวกกองคาราวานชาวเดดาน

ผู้ตั้งค่ายในดงทึบแห่งอาระเบีย

14 จงนำน้ำมาให้ผู้กระหาย

ประชากรเทมาเอ๋ย

และนำอาหารมาให้ผู้ลี้ภัยเถิด

15 พวกเขาหนีจากดาบ

ดาบที่ชักออกจากฝัก

หนีจากคันธนูซึ่งโก่งอยู่

และจากสงครามอันดุเดือด

16 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ภายในหนึ่งปีตามปีของสัญญาว่าจ้างแรงงานนั้น ความโอ่อ่าตระการของเคดาร์จะสิ้นสุดลง

17 นักธนูและนักรบของเคดาร์จะเหลืออยู่ไม่กี่คน” พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้ตรัสไว้

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/21-012e92d88e5f996f633251333ba63b93.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 22

คำพยากรณ์กล่าวโทษเกี่ยวกับเยรูซาเล็ม

1 พระดำรัสเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนิมิตมีดังนี้ว่า

เกิดอะไรขึ้นนี่

ทุกคนถึงได้วิ่งขึ้นบนหลังคา

2 โอ เมืองอันเต็มไปด้วยความอึกทึกครึกโครม

นครแห่งการจลาจลและความสำมะเลเทเมา

ผู้ตายไม่ได้ถูกฆ่าด้วยคมดาบ

ทั้งไม่ได้ตายในสงคราม

3 พวกผู้นำของเจ้าหนีไปกันหมด

พวกเขายอมจำนนโดยไม่ได้หยิบธนูขึ้นต่อสู้

ทุกคนที่ถูกจับได้ต้องกลายเป็นนักโทษ

เป็นคนที่พ่ายหนีตั้งแต่ศัตรูยังอยู่แต่ไกล

4 ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า “ปล่อยข้าพเจ้า

ร้องไห้อยู่คนเดียวเถอะ

อย่าพยายามปลอบข้าพเจ้าเลย

ปล่อยให้ข้าพเจ้าหลั่งน้ำตาเพราะหายนะของพี่น้องร่วมชาติ”

5 องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์กำหนดวันหนึ่งไว้

เป็นวันชุลมุนวุ่นวาย ยุ่งเหยิง สยดสยอง

ในหุบเขาแห่งนิมิต

วันแห่งการทลายกำแพง

และการป่าวร้องแก่ภูเขาทั้งหลาย

6 เอลามหยิบแล่งธนู

มีพลรถรบและม้า

คีร์ถือโล่มา

7 หุบเขาที่ดีที่สุดของท่านเต็มไปด้วยรถรบ

และพลม้าประจำอยู่ที่ประตูเมือง

8 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำจัดเครื่องป้องกันของยูดาห์ออกไป

ในวันนั้นท่านมองหาอาวุธ

ในตำหนักพนาเลบานอน

9 ท่านเห็นแนวป้องกันของเมืองดาวิด

มีช่องโหว่หลายแห่ง

ท่านเก็บน้ำ

ไว้ที่สระล่าง

10 ท่านนับอาคารบ้านเรือนในเยรูซาเล็ม

และรื้อเรือนมาเสริมกำแพง

11 ท่านสร้างที่กักเก็บน้ำไว้ระหว่างกำแพงทั้งสอง

เพื่อรับน้ำของบ่อเดิม

แต่ท่านไม่ได้มุ่งมองพระองค์ผู้ทรงทำสิ่งนี้

ไม่ใส่ใจพระองค์ผู้ทรงดำริสิ่งนี้ไว้เมื่อนานมาแล้ว

12 องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

ตรัสเรียกท่านในวันนั้น

ให้ร่ำไห้และคร่ำครวญ

ให้ทึ้งผมและสวมเสื้อผ้ากระสอบ

13 แต่ดูเถิดกลับกลายเป็นว่ามีแต่ความบันเทิง

และการสำมะเลเทเมา

มีการล้มวัวล้มแกะ กินเนื้อ ดื่มเหล้าองุ่น!

ท่านกล่าวว่า “ให้เรากินและดื่ม

เพราะพรุ่งนี้เราก็ตายแล้ว!”

14 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงเปิดเผยโดยให้ข้าพเจ้าได้ยินว่า “บาปนี้จะไม่ได้รับการอภัยจวบจนวันตายของเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น

15 องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า

“จงไปบอกเชบนาห์ผู้เป็นกรมวังว่า

16 เจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่?

ใครอนุญาตให้เจ้าสกัดอุโมงค์ฝังศพ

ให้ตัวเองบนที่สูงนี้

และสกัดศิลาทำเป็นที่พักของเจ้า?

17 “ระวังไว้เถิด เจ้าผู้ยิ่งใหญ่

องค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะจับเจ้าไว้และเหวี่ยงออกไป

18 พระองค์จะทรงขยำเจ้าไว้ในพระหัตถ์เหมือนลูกบอล

และทรงเหวี่ยงเจ้าไปยังดินแดนกว้างขวาง

เจ้าจะตายที่นั่น เหลือไว้แต่รถรบคันงามของเจ้า

เจ้าผู้ก่อความอัปยศแก่เรือนของนาย!

19 เราจะถอดเจ้าจากหน้าที่ของเจ้า

และเจ้าจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง

20 “ในวันนั้นเราจะเรียกเอลียาคิมบุตรฮิลคียาห์ผู้รับใช้ของเรามา

21 เราจะสวมเสื้อคลุมและผูกสายรัดเอวของเจ้าให้แก่เขา และมอบสิทธิอำนาจของเจ้าแก่เขา เขาจะเป็นบิดาของชาวเยรูซาเล็มและชาวยูดาห์ทั้งปวง

22 เราจะวางกุญแจแห่งราชวงศ์ดาวิดไว้เหนือบ่าของเขา สิ่งที่เขาเปิดจะไม่มีผู้ใดปิดได้ และสิ่งที่เขาปิดจะไม่มีผู้ใดเปิดได้

23 เราจะตอกเขาเหมือนตอกหมุดในที่มั่น เขาจะเป็นบัลลังก์แห่งเกียรติสำหรับวงศ์วานบิดา

24 ศักดิ์ศรีทั้งปวงแห่งครอบครัวของเขาจะแขวนอยู่บนเขา อยู่บนลูกหลานและหน่อเนื้อเชื้อไข หรือแม้แต่ผู้เล็กน้อยของครอบครัวของเขา”

25 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “ในวันนั้น หมุดที่ตอกเข้ากับที่มั่นจะหลุดร่วงลงมา และสิ่งที่อยู่บนนั้นจะถูกตัดทิ้ง”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/22-13118fdfa527ee27aa83e16cf2a66b11.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 23

คำพยากรณ์กล่าวโทษไทระ

1 พระดำรัสเกี่ยวกับเมืองไทระมีดังนี้ว่า

จงร่ำไห้เถิด เหล่านาวาแห่งทารชิช!

เพราะไทระล่มจมแล้ว

ไม่เหลือบ้านเรือนและท่าเรืออีก

มีข่าวจากดินแดนไซปรัส

มาถึงพวกเขา

2 จงนิ่งเถิด ชาวเกาะ

และพวกพ่อค้าแห่งไซดอน

ผู้มั่งคั่งจากเรือเดินทะเล

3 เมล็ดข้าวจากชิโหร์

เดินทางข้ามมหาสมุทรมา

ผลผลิตแห่งแม่น้ำไนล์เป็นรายได้ของไทระ

ซึ่งกลายเป็นตลาดของประชาชาติ

4 จงอับอายเถิด ไซดอนเอ๋ย และเจ้าผู้เป็นที่มั่นแห่งท้องทะเล

เพราะทะเลกล่าวว่า

“เราไม่เคยเจ็บท้องและไม่เคยคลอด

อีกทั้งไม่เคยเลี้ยงดูลูกชายลูกสาว”

5 เมื่ออียิปต์ได้ยินข่าวจากไทระ

พวกเขาจะทุกข์โศกยิ่งนัก

6 จงข้ามไปทารชิชเถิด

ชาวเกาะเอ๋ย จงร่ำไห้

7 นี่หรือนครแห่งความสนุกสนานบันเทิง?

นครเก่าแก่

ซึ่งเท้าพามันไป

ตั้งรกรากยังแดนไกล

8 ใครหนอวางแผนเล่นงานไทระ

ผู้ซึ่งให้มงกุฎ

ผู้ซึ่งพ่อค้าได้เป็นเจ้านาย

ผู้ซึ่งนายวาณิชเลื่องชื่อในโลก?

9 คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์นั่นเอง

ทรงดำริไว้ที่จะทำให้ความภาคภูมิแห่งศักดิ์ศรีทั้งปวงตกต่ำลง

และทำให้บรรดาผู้ที่มีชื่อเสียงของโลกเจียมเนื้อเจียมตัว

10 จงพรวนที่ดินของเจ้าเหมือนอย่างที่ดินริมแม่น้ำไนล์

ธิดาแห่งทารชิชเอ๋ย

เพราะเจ้าไม่มีท่าเรืออีกแล้ว

11 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ออกเหนือท้องทะเล

ทรงเขย่าอาณาจักรทั้งหลาย

พระองค์ทรงมีประกาศิต

ให้ทลายป้อมปราการต่างๆ ของฟีนิเซีย

12 พระองค์ตรัสว่า “ไม่มีความสนุกสนานบันเทิงอีกต่อไปแล้ว

โอ ธิดาพรหมจารีแห่งไซดอนซึ่งบัดนี้แหลกลาญ!

“ขึ้นไปสิ ข้ามไปไซปรัสสิ

แม้แต่ที่นั่นเจ้าก็ไม่ได้พักสงบ”

13 จงมองดูดินแดนของชาวบาบิโลน

ชนชาติซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีใครสนใจแล้ว!

ชาวอัสซีเรียได้ทำ

ให้มันกลายเป็นที่สิงสถิตของสัตว์ป่า

พวกเขาก่อเชิงเทิน

ทลายป้อมปราการ

และทำให้มันกลายเป็นซากปรักหักพัง

14 จงคร่ำครวญเถิด เหล่านาวาแห่งทารชิชเอ๋ย

ป้อมปราการของเจ้าถูกทำลายแล้ว!

15 ครั้งนั้นผู้คนจะลืมไทระไปเจ็ดสิบปี อันเป็นช่วงพระชนม์ชีพของกษัตริย์องค์หนึ่ง แต่ในตอนปลายของช่วงเจ็ดสิบปีนั้น ไทระจะเป็นเหมือนในเนื้อเพลงของหญิงโสเภณีที่ว่า

16 “โอ หญิงโสเภณีที่ถูกลืม

หยิบพิณขึ้นเถิด แล้วเดินไปทั่วเมือง

เล่นพิณให้ไพเราะ ร้องเพลงหลายๆ เที่ยว

เพื่อคนจะจำเจ้าได้”

17 ปลายช่วงเจ็ดสิบปีองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงจัดการกับไทระ จะกลับมีคนว่าจ้างไทระราวกับเป็นโสเภณี และจะติดต่อค้าขายกับอาณาจักรทั้งปวงของโลก

18 แต่ผลกำไรและรายได้ของไทระจะถูกกันไว้เพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่เก็บหรือสะสมไว้เอง แต่จะมอบผลกำไรแก่ผู้ที่ใช้ชีวิตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าคนเหล่านั้นจะมีอาหารอุดมสมบูรณ์และมีเสื้อผ้าดีๆ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/23-fe6154a9ae531a9194dbaaa2195c94ed.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 24

องค์พระผู้เป็นเจ้า

1 ดูเถิดองค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะทรงทิ้งโลกให้ร้าง

และทำให้มันย่อยยับ

พระองค์จะทรงทำลายพื้นผิวของโลก

ทำให้ผู้อยู่อาศัยกระจัดกระจายไป

2 ทุกคนจะเหมือนกันหมด

ไม่ว่าประชาชนหรือปุโรหิต

ไม่ว่านายหรือบ่าว

ไม่ว่านายหญิงหรือสาวใช้

ไม่ว่าผู้ซื้อหรือผู้ขาย

ไม่ว่าเจ้าหนี้หรือลูกหนี้

ไม่ว่าผู้ยืมหรือผู้ให้ยืม

3 โลกจะว่างเปล่า

และยับเยินอย่างสิ้นเชิง

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสถ้อยคำเหล่านี้

4 โลกก็เหือดแห้งและโรยรา

พิภพก็ซบเซาและเหี่ยวเฉา

ผู้สูงศักดิ์ของโลกก็อ่อนระโหย

5 โลกนี้สกปรกโสมมเพราะผู้คนที่อยู่ในโลก

พวกเขาไม่เชื่อฟังบทบัญญัติ

ละเมิดกฎเกณฑ์

และฝ่าฝืนพันธสัญญานิรันดร์

6 ฉะนั้นคำสาปแช่งจึงล้างผลาญโลก

ชาวพิภพต้องรับโทษความผิดของตน

ฉะนั้นผู้อาศัยอยู่ในโลกจึงถูกเผาผลาญ

และรอดชีวิตอยู่ไม่กี่คน

7 เหล้าองุ่นใหม่ก็เหือดแห้ง และเถาองุ่นก็เหี่ยวเฉา

บรรดาผู้ให้ความบันเทิงได้แต่โอดครวญ

8 เสียงสนุกสนานร่าเริงของรำมะนาเงียบไป

เสียงบันเทิงยุติลง

เสียงพิณไพเราะก็เงียบไป

9 ไม่มีการจิบเหล้าเคล้าเสียงเพลงอีกแล้ว

สุราก็ขมแก่ผู้ดื่ม

10 นครอันล่มจมก็เริศร้าง

ทางเข้าบ้านทุกหลังถูกปิดไม่ให้ใครเข้า

11 ตามท้องถนน ผู้คนร้องหาเหล้าองุ่น

ความยินดีกลายเป็นความหม่นหมอง

ความรื่นเริงบันเทิงใจถูกกำจัดไปจากโลก

12 นครนั้นตกอยู่ในสภาพปรักหักพัง

ประตูเมืองถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

13 โลกและชนชาติต่างๆ

จะเป็นเช่นนั้น

เหมือนต้นมะกอกที่ถูกฟาด

หรือเหมือนเศษเล็กเศษน้อยที่ยังเหลืออยู่หลังเก็บองุ่น

14 คนหยิบมือที่เหลือจะโห่ร้องอย่างชื่นบาน

และจะประกาศพระบารมีขององค์พระผู้เป็นเจ้าจากแถบตะวันตก

15 ดังนั้นคนทางตะวันออกจงถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

จงเทิดทูนพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล

บนเกาะต่างๆ ในทะเล

16 จากสุดโลกเราได้ยินเพลงขับร้องว่า

“พระเกียรติสิริจงมีแด่องค์ทรงธรรม”

แต่ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าหมดแรง ข้าพเจ้าหมดแรง!

วิบัติแก่ข้าพเจ้า!

มีคนคิดคดทรยศ

และก่อการกบฏ!”

17 ชาวโลกเอ๋ย

ความสยดสยอง หลุมพราง และกับดักคอยท่านอยู่

18 ใครก็ตามที่เตลิดหนีเมื่อได้ยินเสียงสยดสยอง

จะตกลงในหลุมพราง

ใครก็ตามที่ปีนออกมาจากหลุมพราง

จะติดบ่วงแร้ว

ประตูน้ำของสวรรค์ก็เปิดออก

รากฐานของโลกถูกเขย่า

19 โลกทลายล่มจม

แตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ถูกเขย่าสั่นคลอน

20 โลกโซซัดโซเซเหมือนคนเมา

มันพะเยิบพะยาบเหมือนเพิงกลางพายุ

โทษกบฏของโลกหนักหนาสาหัส

จนทำให้มันล้มลงและไม่อาจลุกขึ้นได้อีกเลย

21 ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงลงโทษ

บรรดาอำนาจในฟ้าสวรรค์เบื้องบน

และบรรดากษัตริย์ในโลกเบื้องล่าง

22 พวกเขาจะถูกคุมตัวรวมกัน

เหมือนนักโทษที่ถูกขังไว้ในคุกใต้ดิน

พวกเขาจะถูกจองจำไว้

และหลังจากนั้นหลายวันก็ถูกลงโทษ

23 ดวงจันทร์จะอับแสง ดวงอาทิตย์จะอดสู

เพราะพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะทรงครอบครอง

เหนือภูเขาศิโยนและในเยรูซาเล็ม

และทรงครอบครองด้วยพระเกียรติสิริต่อหน้าเหล่าผู้อาวุโส

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/24-abc036f7538b67963e5025160f31d214.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 25

สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์

ข้าพระองค์จะยกย่องเทิดทูนพระองค์และสรรเสริญพระนามของพระองค์

เพราะพระองค์ทรงทำการมหัศจรรย์

ตามที่ทรงดำริไว้นานมาแล้ว

ด้วยความซื่อสัตย์อันบริบูรณ์

2 พระองค์ทรงทำให้นครนั้นกลายเป็นซากปรักหักพัง

เมืองป้อมปราการพังพินาศ

ที่มั่นของชนต่างชาติล่มจมแล้ว

ไม่อาจสร้างขึ้นมาใหม่ได้เลย

3 ดังนั้นชนชาติที่เข้มแข็งจะเทิดพระเกียรติพระองค์

ประชาชาติที่อำมหิตจะยำเกรงพระองค์

4 พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของผู้ยากไร้

เป็นที่พักพิงสำหรับคนขัดสนซึ่งอยู่ในความทุกข์

เป็นป้อมกำบังจากพายุ

เป็นร่มเงาหลบความร้อน

เพราะลมหายใจเข้าออกของคนอำมหิต

เหมือนพายุที่พัดกระหน่ำกำแพง

5 และเหมือนความร้อนระอุของถิ่นกันดาร

พระองค์ทรงสยบการขู่คำรามของคนต่างชาติ

เหมือนเงาเมฆบรรเทาความร้อนระอุ

แล้วบทเพลงของคนอำมหิตก็เงียบลง

6 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะจัดเตรียมงานเลี้ยงใหญ่บนภูเขาแห่งนี้

สำหรับชนชาติทั้งปวง

งานเลี้ยงซึ่งมีเหล้าองุ่น

และเนื้อชั้นเยี่ยม

7 บนภูเขาแห่งนี้พระองค์จะทรงขจัดผ้าคลุมหน้า

ซึ่งห่อหุ้มชนชาติทั้งปวง

และขจัดม่านซึ่งคลุมมวลประชาชาติ

8 พระองค์จะทรงกลืนความตายไปชั่วนิรันดร์

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงซับหยาดน้ำตาจากทุกใบหน้า

และจะทรงขจัดความอัปยศอดสูของประชากรของพระองค์

ออกไปจากแผ่นดินโลก

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น

9 ในวันนั้นพวกเขาจะกล่าวว่า

“แน่นอน นี่คือพระเจ้าของเรา

เราวางใจพระองค์ และพระองค์ทรงช่วยเรา

นี่คือองค์พระผู้เป็นเจ้าเราวางใจในพระองค์

ให้เรามาชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ในความรอดที่พระองค์ประทานเถิด”

10 พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะวางลงบนภูเขาแห่งนี้

ส่วนโมอับจะถูกเหยียบย่ำ

เหมือนฟางถูกเหยียบลงในหลุมมูลสัตว์

11 พวกเขาจะกางมือออกในหลุมนั้น

เหมือนคนว่ายน้ำที่เหยียดแขนออกว่าย

พระเจ้าจะทรงสยบความเย่อหยิ่งของเขา

ไม่ว่าเขาจะทำการอย่างชาญฉลาดเพียงใดก็ตาม

12 พระองค์จะทรงทลายกำแพงสูงตระหง่านของเจ้าลงมา

ทรงทำให้มันตกต่ำ

พระองค์จะทรงทำให้มันราบลงกับพื้น

คลุกธุลีดิน

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/25-ce1baf97e64f4e0aa42f321b54bd5ca9.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 26

บทเพลงสรรเสริญ

1 ในวันนั้นทั่วแดนยูดาห์จะร้องเพลงบทนี้ว่า

เรามีเมืองแข็งแกร่งเมืองหนึ่ง

พระเจ้าทรงทำให้ความรอด

เป็นกำแพงและเชิงเทินของมัน

2 เปิดประตูเถิด

เพื่อชนชาติที่ชอบธรรม

ซึ่งรักษาความเชื่อไว้จะได้เข้ามา

3 จิตใจที่แน่วแน่นั้น

พระองค์จะทรงปกป้องไว้ในสันติภาพอันสมบูรณ์

เพราะเขาไว้วางใจในพระองค์

4 จงวางใจองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไป

เพราะพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระศิลานิรันดร์

5 พระองค์ทรงทำให้คนที่อยู่สูงตกต่ำลง

ทรงดึงนครที่ยโสโอหังลงมา

พระองค์ทรงปราบมันให้ราบคาบ

และทรงเหวี่ยงมันลงมาคลุกฝุ่น

6 เท้าของผู้ยากไร้

และผู้ถูกข่มเหง

ก็เหยียบย่ำมัน

7 หนทางของคนชอบธรรมราบเรียบ

ข้าแต่องค์ผู้เที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำให้วิถีของคนชอบธรรมราบรื่น

8 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทั้งหลายรอคอยพระองค์

โดยดำเนินอยู่ในทางแห่งบทบัญญัติของพระองค์

พระนามและกิตติศัพท์ของพระองค์

เป็นความปรารถนาในใจของข้าพระองค์ทั้งหลาย

9 ยามค่ำคืนจิตวิญญาณของข้าพระองค์โหยหาพระองค์

ยามเช้าจิตวิญญาณของข้าพระองค์ใฝ่หาพระองค์

เมื่อคำพิพากษาของพระองค์มายังโลก

ชาวโลกจึงได้เรียนรู้ความชอบธรรม

10 แม้ทรงแสดงพระคุณแก่คนชั่วร้าย

พวกเขาก็ไม่ได้เรียนรู้ความชอบธรรม

แม้ในดินแดนแห่งความเที่ยงธรรม พวกเขาก็ยังคงทำชั่วต่อไป

และไม่คำนึงถึงพระบารมีขององค์พระผู้เป็นเจ้า

11 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเงื้อพระหัตถ์ของพระองค์ขึ้นสูง

แต่พวกเขาไม่เห็น

ขอทรงให้พวกเขาเห็นพระทัยอันกระตือรือร้นที่ทรงมีต่อประชากรของพระองค์ แล้วเขาจะได้ละอายอดสู

ขอให้ไฟที่ทรงสงวนไว้สำหรับเหล่าศัตรูเผาผลาญพวกเขา

12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานสันติสุขแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย

สิ่งสารพัดที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำสำเร็จ พระองค์ทรงเป็นผู้กระทำเพื่อข้าพระองค์ทั้งหลาย

13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย แม้เคยมีเจ้านายอื่นๆ ปกครองข้าพระองค์ทั้งหลาย

แต่ข้าพระองค์ทั้งหลายเทิดทูนพระนามของพระองค์เท่านั้น

14 บัดนี้เขาเหล่านั้นตายแล้ว ไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป

วิญญาณที่จากไปไม่ได้กลับมาอีก

พระองค์ทรงลงโทษและนำพวกเขาไปสู่หายนะ

ทรงกวาดล้างทุกอย่างที่เป็นอนุสรณ์ของพวกเขา

15 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเพิ่มพูนประชากร

พระองค์ทรงขยายประเทศชาติ

พระองค์ทรงได้รับพระเกียรติสิริของพระองค์

พระองค์ได้ทรงขยายพรมแดนของแผ่นดิน

16 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพวกเขามาหาพระองค์ยามทุกข์ลำเค็ญ

เมื่อทรงตีสั่งสอนพวกเขา พวกเขาก็ทุกข์จนแทบอธิษฐานไม่ออก

17 ดั่งหญิงมีครรภ์ใกล้คลอด

บิดกาย กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทั้งหลายก็เป็นเช่นนั้นต่อหน้าพระองค์

18 เหล่าข้าพระองค์เจ็บท้อง ทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด

แต่ก็เบ่งออกมาได้แต่ลม

ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้นำความรอดมาสู่โลก

และไม่ได้ให้กำเนิดมวลมนุษย์

19 แต่ผู้ที่เป็นของพระองค์ แม้ตายแล้วจะยังมีชีวิตอยู่

ร่างกายของเขาจะลุกขึ้นมา

ท่านผู้นอนอยู่ในฝุ่นธุลี

จงลุกขึ้นและโห่ร้องยินดี

น้ำค้างสำหรับท่านเหมือนน้ำค้างยามเช้า

โลกจะให้ชีวิตแก่ผู้ที่ตายแล้ว

20 ประชากรของข้าเอ๋ย จงเข้าไปในห้องของพวกท่านเถิด

แล้วปิดประตู

ซ่อนตัวอยู่สักระยะหนึ่ง

จนกว่าพระพิโรธของพระองค์ผ่านพ้นไป

21 ดูเถิดองค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังเสด็จออกมาจากที่ประทับของพระองค์

เพื่อลงโทษชาวโลกเพราะบาปของพวกเขา

โลกจะเผยโลหิตซึ่งหลั่งนอง

และจะไม่ซ่อนผู้ที่ถูกเข่นฆ่าไว้อีกต่อไป

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/26-87c7d931f29f48ae5d9efb411f6d0466.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 27

การกอบกู้อิสราเอล

1 ในวันนั้น

องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงใช้พระแสงดาบ อันยิ่งใหญ่และทรงอานุภาพลงโทษเลวีอาธาน

เจ้าพญานาคที่เลื้อยปราดอย่างรวดเร็ว

เจ้างูใหญ่ที่ขดตัวอยู่

พระองค์จะทรงสังหารเจ้าสัตว์ร้ายมหึมาแห่งท้องทะเล

2 ในวันนั้น

“จงร้องเพลงเกี่ยวกับสวนองุ่นที่มีผลดกดังนี้ว่า

3 เราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าดูแลสวนนั้น

เรารดน้ำให้ตลอดเวลา

เฝ้าดูทั้งวันทั้งคืน

ไม่ยอมให้ใครมาทำอันตราย

4 เราไม่โกรธ

แต่ถ้ามีหนามใหญ่น้อยออกมาให้เห็น!

เราจะไปรบรากับมัน

และเผามันทิ้ง

5 หรือไม่ก็ให้มันมาพักพิงเรา

ให้มาเจรจาสันติภาพกับเรา

ให้มาเจรจาสันติภาพกับเรา”

6 ในภายภาคหน้ายาโคบจะหยั่งราก

อิสราเอลจะผลิตาและผลิดอกบาน

และออกผลทั่วโลก

7 พระองค์ทรงลงโทษอิสราเอล

เหมือนที่ทรงลงโทษศัตรูของเขาหรือ?

อิสราเอลถูกฆ่า

เหมือนคนที่ฆ่าอิสราเอลถูกฆ่าหรือ?

8 พระองค์ทรงลงโทษอิสราเอลด้วยสงครามและการเนรเทศ

ทรงขับไล่เขาออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด

เหมือนวันที่ลมตะวันออกพัด

9 โดยการนี้ ความผิดของยาโคบจะได้รับการลบล้างไป

และนี่จะเป็นการกำจัดบาปของเขาอย่างสิ้นเชิง

พระองค์ทรงทำให้หินแท่นบูชา

เป็นเหมือนหินชอล์กที่ถูกบดละเอียด

ไม่มีเสาเจ้าแม่อาเชราห์หรือแท่นเครื่องหอม

เหลืออยู่อีกเลย

10 เมืองป้อมปราการก็ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว

ถูกทิ้งร้างว่างเปล่าเหมือนถิ่นกันดาร

วัวกินหญ้าอยู่ที่นั่น

มันเอนตัวลง

เคี้ยวกิ่งไม้จนโล่งเตียน

11 เมื่อง่ามไม้แห้ง มันก็หัก

พวกผู้หญิงก็มาเก็บไปทำฟืน

เพราะชนชาตินี้ไม่มีความเข้าใจ

ฉะนั้นพระผู้สร้างของพวกเขาจึงไม่เอ็นดูสงสารเขา

พระองค์ผู้ทรงสร้างพวกเขาไม่แสดงความโปรดปรานต่อพวกเขา

12 ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงนวดเอาข้าวตั้งแต่แม่น้ำยูเฟรติสถึงลำน้ำแห่งอียิปต์ และชนชาติอิสราเอลเอ๋ย ท่านจะถูกรวบรวมมาทีละคนๆ

13 ในวันนั้นจะมีการเป่าแตรใหญ่ หลายคนที่กำลังจะพินาศในอัสซีเรียและผู้ที่ถูกเนรเทศไปอียิปต์จะกลับมานมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในเยรูซาเล็ม

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/27-9edb7b877de9251ed9c4025a638970a7.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 28

วิบัติแก่เอฟราอิม

1 วิบัติแก่มงกุฎดอกไม้แห่งเกียรติยศของเหล่าคนขี้เมาแห่งเอฟราอิม

วิบัติแก่ดอกไม้อันร่วงโรย แก่ความงามอันเชิดหน้าชูตาของเอฟราอิม

ซึ่งประดับอยู่บนหัวของหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์

วิบัติแก่นครแห่งนั้น เกียรติยศของพวกเขาตกต่ำลงเพราะเหล้าองุ่น!

2 ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีผู้หนึ่งซึ่งมีอำนาจและเข้มแข็ง

เหมือนพายุลูกเห็บและพายุล้างผลาญ

เหมือนฝนกระหน่ำ เหมือนน้ำทะลักท่วม

พระองค์จะทรงเหวี่ยงพวกเขาลงกับพื้นอย่างแรง

3 มงกุฎดอกไม้แห่งเกียรติยศของเหล่าคนขี้เมาแห่งเอฟราอิมนั้น

จะถูกเหยียบย่ำใต้ฝ่าเท้า

4 ดอกไม้อันร่วงโรย ความงามอันเชิดหน้าชูตาของเอฟราอิม

ซึ่งประดับอยู่บนหัวของหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์

จะเป็นเหมือนมะเดื่อสุกก่อนหน้าฤดูเก็บเกี่ยว

เมื่อใครเห็นเข้าก็คว้า

และกลืนกินเข้าไป

5 ในวันนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

จะเป็นมงกุฎอันทรงสง่าราศี

เป็นมงกุฎดอกไม้ที่งดงาม

สำหรับชนหยิบมือที่เหลืออยู่ของพระองค์

6 พระองค์จะทรงเป็นวิญญาณแห่งความยุติธรรม

แก่ผู้ให้คำตัดสิน

ทรงเป็นขุมพลัง

แก่ผู้พลิกผันสงครามที่ประตูเมือง

7 คนเหล่านี้ซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้าองุ่น

และหมุนเคว้งเพราะเมรัย

คือปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะ

ซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้า

มึนเมาเพราะเมรัย

ตุปัดตุเป๋เมื่อเห็นนิมิต

ล้มคะมำเมื่อให้คำตัดสิน

8 โต๊ะทุกตัวเต็มไปด้วยอาเจียน

ไม่มีจุดไหนที่ไม่โสโครก

9 “ใครกันหนอที่เขาพยายามสอน?

เขากำลังอธิบายเนื้อความของเขาให้ใครฟังกันนี่?

ให้เด็กอมมือที่เพิ่งหย่านมหรือ?

ให้ทารกที่เพิ่งพ้นอกแม่หรือ?

10 เพราะมันเป็นอย่างนี้คือ

ทำนี่ ทำนั่น

กฎของสิ่งนี้ กฎของสิ่งนั้น

ตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย”

11 ฉะนั้นพระเจ้าจะตรัสกับชนชาตินี้

โดยใช้ปากของคนต่างชาติและสำเนียงภาษาแปลกๆ

12 พระองค์ตรัสแก่พวกเขาว่า

“ที่นี่คือสถานพักพิง ผู้ที่เหนื่อยอ่อนจงพักเถิด”

และตรัสว่า “ที่นี่เป็นที่พักสงบ”

แต่พวกเขาจะไม่ฟัง

13 ฉะนั้นพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับพวกเขาจึงกลายเป็นว่า

ทำนี่ ทำนั่น

กฎของสิ่งนี้ กฎของสิ่งนั้นตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย เพื่อพวกเขาจะได้ไปและหงายหลังกลับมา

บาดเจ็บ ติดกับ และตกเป็นเชลย

14 ฉะนั้นจงฟังพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด เหล่านักถากถาง

ผู้ปกครองชนชาตินี้ในเยรูซาเล็ม

15 เจ้าอวดว่า “เราเข้าร่วมพันธสัญญากับความตาย

เราทำข้อตกลงกับแดนมรณะไว้แล้ว

เมื่อหายนะโหมกระหน่ำมา

มันจะแตะเราไม่ได้

เพราะการโกหกเป็นเกราะป้องกันเรา

ความเท็จเป็นที่ซ่อนของเรา”

16 ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า

“ดูเถิด เราวางศิลาก้อนหนึ่งไว้ในศิโยน

เป็นศิลามุมเอกล้ำค่า

เหมาะเป็นรากฐานอันมั่นคง

ผู้ที่วางใจจะไม่มีวันท้อแท้

17 เราจะใช้ความยุติธรรมเป็นสายวัด

ใช้ความชอบธรรมเป็นลูกดิ่ง

ลูกเห็บจะกวาดล้างการโกหกอันเป็นเกราะกำบังของเจ้า

น้ำจะซัดท่วมที่ซ่อนของเจ้า

18 พันธสัญญาที่เจ้าทำไว้กับความตายจะเป็นโมฆะ

ข้อตกลงของเจ้ากับแดนมรณะจะไม่คงอยู่

เมื่อหายนะโหมกระหน่ำมา

เจ้าจะถูกโค่นล้ม

19 มันมาบ่อยเท่าไร มันก็ซัดพาเจ้าไปบ่อยเท่านั้น

ทุกเช้าทุกเย็น ทั้งวันทั้งคืน

มันจะกวาดล้างไปทั่ว”

เมื่อเข้าใจเนื้อความนี้

ก็จะเกิดความหวาดหวั่นขวัญผวา

20 เตียงก็สั้นเกินกว่าจะเหยียดกายนอน

ผ้าห่มก็แคบเกินกว่าจะห่มตัวมิด

21 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงลุกขึ้นเหมือนที่พระองค์ทรงทำต่อพวกฟีลิสเตียที่ภูเขาเปริซิม

พระองค์จะทรงเร่งเร้าพระองค์เองขึ้นเหมือนที่พระองค์ทรงต่อสู้ชาวอาโมไรต์ที่หุบเขากิเบโอน

พระองค์จะเสด็จมาเพื่อทำสิ่งที่แปลกประหลาดผิดปกติ คือ

พระองค์จะทรงทำลายประชากรของพระองค์เอง!

22 จงหยุดเย้ยหยันถากถางเดี๋ยวนี้

มิฉะนั้นโซ่ตรวนของเจ้าจะหนักขึ้นอีก

องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสแก่ข้าพเจ้าถึงหายนะ

ซึ่งกำหนดไว้แล้วสำหรับดินแดนนี้ทั้งหมด

23 ฟังข้าพเจ้าเถิด

จงตั้งใจฟังสิ่งที่ข้าพเจ้าพูด

24 เมื่อชาวนาไถที่เพื่อเพาะปลูก เขาไถไปเรื่อยๆ หรือ?

เขาจะไถคราดพรวนดินอยู่ตลอดไปหรือ?

25 เมื่อเขาปรับหน้าดินเสร็จแล้ว

เขาไม่โปรยหว่านเทียนแดงและยี่หร่าหรือ?

เขาไม่ปลูกข้าวสาลี

ข้าวบาร์เลย์ และข้าวสแปลต์

ในแปลงของเขาหรือ?

26 พระเจ้าของเขากำชับเขา

สอนเขาให้รู้วิธีที่ถูกต้อง

27 เทียนแดงไม่ต้องนวดด้วยรถเลื่อน

และยี่หร่าไม่ต้องบดด้วยล้อเกวียน

แต่ใช้ไม้พลองฟาดเทียนแดง

และใช้ไม้นวดบุบยี่หร่า

28 เมล็ดข้าวต้องโม่เพื่อใช้ทำขนมปัง

แต่คนไม่ได้บดอยู่ตลอดเวลา

ถึงแม้เขาขับล้อเลื่อนนวดข้าวทับมัน

เขาก็ไม่ได้อาศัยม้าบดข้าว

29 ทั้งหมดนี้มาจากพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

ผู้ทรงให้คำปรึกษาที่เยี่ยมยอดและทรงมีสติปัญญาล้ำเลิศ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/28-a019e3175ca79aba75184e1332cabdb7.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 29

วิบัติแก่เมืองดาวิด

1 วิบัติแก่เจ้า อารีเอลเอ๋ย อารีเอล

นครซึ่งดาวิดตั้งขึ้น!

ปีแล้วปีเล่า

ให้วัฏจักรแห่งเทศกาลของเจ้าวนเวียนไป

2 ถึงกระนั้นเราจะล้อมเมืองอารีเอล

เมืองนั้นจะทุกข์โศกและคร่ำครวญ

จะเป็นเหมือนเตาไฟแท่นบูชาสำหรับเรา

3 เราจะตั้งค่ายโอบล้อมสู้กับเจ้า

เราจะสร้างหอรบล้อมรอบเจ้า

และก่อเชิงเทินขึ้นสู้กับเจ้า

4 เมื่อตกต่ำลงแล้ว เจ้าจะพูดขึ้นจากพื้นดิน

คำพูดของเจ้าจะดังแผ่วขึ้นมาจากธุลี

เสียงของเจ้าเหมือนเสียงผีดังขึ้นมาจากพื้นโลก

เสียงพูดของเจ้าจะกระซิบกระซาบขึ้นมาจากฝุ่นธุลี

5 แต่ศัตรูมากมายของเจ้าจะกลายเป็นเหมือนฝุ่นละเอียด

กลุ่มคนอำมหิตจะเป็นเหมือนแกลบปลิวฟุ้งไปกับลม

ในทันทีทันใด ในพริบตาเดียว

6 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะเสด็จมา

ด้วยฟ้าคำรน แผ่นดินไหว และเสียงกัมปนาท

เสด็จมาด้วยลมกล้า พายุหมุน และเปลวไฟเผาผลาญ

7 แล้วประชาชาติทั้งปวงที่รวมตัวกันมาสู้อารีเอล

มาโจมตีอารีเอลกับป้อมของมันและล้อมมันไว้

จะเป็นเหมือนฝัน

เหมือนนิมิตยามค่ำคืน

8 เหมือนคนหิวโหยฝันว่าได้กิน

แต่เมื่อตื่นขึ้นก็ยังหิวอยู่

เหมือนคนกระหายน้ำฝันว่าได้ดื่ม

แต่พอตื่นก็ยังหมดแรง

คอแห้งผากและยังไม่สิ้นความกระหาย

ประชาชาติทั้งปวงที่รวมตัวกันมาต่อสู้ภูเขาศิโยน ก็จะเป็นเช่นนี้

9 จงงงงันและประหลาดใจ

ทำเป็นตาบอดมองอะไรไม่เห็น

จงเมามายแต่ไม่ใช่เพราะเหล้า

โซซัดโซเซแต่ไม่ใช่เพราะเมรัย

10 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำการหลับใหลมาเหนือเจ้า

พระเจ้าทรงปิดตาของเจ้า (คือผู้เผยพระวจนะ)

พระองค์ทรงคลุมหัวของเจ้า (คือผู้ทำนาย)

11 นิมิตทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรเลยสำหรับเจ้านอกจากเป็นถ้อยคำที่ถูกปิดผนึกไว้ในหนังสือม้วน และหากเจ้ายื่นหนังสือม้วนให้คนที่อ่านออกและบอกว่า “ช่วยอ่านให้หน่อย” เขาก็จะตอบว่า “อ่านไม่ได้ มันถูกปิดผนึกไว้”

12 หรือหากเจ้ายื่นให้คนที่อ่านไม่ออกและบอกว่า “ช่วยอ่านให้หน่อย” เขาก็จะตอบว่า “อ่านไม่ออก”

13 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“ประชากรเหล่านี้เข้ามาใกล้เราแต่ปาก

ปากของพวกเขาพูดยกย่องเรา

แต่ใจของพวกเขาห่างไกลจากเรา

พวกเขานมัสการเรา

ตามกฎเกณฑ์ที่มนุษย์สอนกันมาเท่านั้น

14 ฉะนั้นเราจะทำให้ประชากรเหล่านี้งงงวยอีกครั้ง

ด้วยการอัศจรรย์ซ้อนการอัศจรรย์

สติปัญญาของคนมีปัญญาจะพินาศ

ความฉลาดของคนฉลาดจะสูญสิ้น”

15 วิบัติแก่คนเหล่านั้นซึ่งไปยังที่ลึกล้ำ

เพื่อซ่อนแผนการของตนไว้จากองค์พระผู้เป็นเจ้า

เขาซุ่มทำการของตนในที่มืดและคิดว่า

“ใครเล่าจะเห็นเรา? ใครเล่าจะรู้ได้?”

16 เจ้าทำให้สิ่งต่างๆ กลับตาลปัตร

ราวกับว่าช่างปั้นเป็นดินเหนียว!

ควรหรือที่สิ่งที่ถูกปั้นจะพูดกับช่างปั้นว่า

“ท่านไม่ได้สร้างเรา”?

ควรหรือที่หม้อไหจะพูดกับช่างปั้นว่า

“ท่านไม่รู้อะไร”?

17 ในไม่ช้าเลบานอนจะไม่กลับกลายเป็นท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์หรือ?

และท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์จะดูเหมือนป่าหรือ?

18 ในวันนั้นคนหูหนวกจะได้ยินถ้อยคำในหนังสือม้วน

และคนตาบอดจะมองฝ่าความมัวหม่นและมืดมิด

และจะแลเห็น

19 ผู้ถ่อมใจจะชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าอีก

คนขัดสนจะเปรมปรีดิ์ในองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

20 คนอำมหิตจะสูญสิ้นไป

คนถากถางจะหายหน้าไป

คนที่ตาจดจ้องอยู่ที่ความชั่วจะถูกโค่นลง

21 คือบรรดาผู้ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น

ผู้วางกับดักไว้เล่นงานผู้ปกป้องความยุติธรรมในศาล

และผู้ที่ให้การเท็จทำให้ผู้บริสุทธิ์ไม่ได้รับความยุติธรรม

22 ด้วยเหตุนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงไถ่อับราฮัมตรัสเกี่ยวกับวงศ์วานของยาโคบว่า

“ยาโคบจะไม่ต้องอับอายอีกต่อไป

พวกเขาจะไม่ต้องหน้าซีดหน้าเซียวอีกแล้ว

23 เมื่อพวกเขาเห็นผลงาน

ที่เราทำท่ามกลางลูกหลานของพวกเขา

พวกเขาจะรักษานามของเราให้บริสุทธิ์

พวกเขาจะยอมรับรู้ความบริสุทธิ์สูงส่งขององค์บริสุทธิ์แห่งยาโคบ

และจะยืนสงบด้วยความยำเกรงพระเจ้าแห่งอิสราเอล

24 ผู้ที่ใจโลเลจะเข้าใจ

ผู้ที่พร่ำบ่นจะยอมรับคำสอน”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/29-8fe5fb592811b7d3ad8c936c912d9b70.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 30

วิบัติแก่ชนชาติที่ดื้อรั้น

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า

“วิบัติแก่ลูกหลานที่ดื้อรั้น

แก่ผู้ซึ่งทำตามแผนการที่ไม่ได้มาจากเรา

ทำสัญญาไมตรีโดยไม่ได้อาศัยวิญญาณของเรา

ทำบาปซ้อนบาป

2 ผู้ลงไปยังอียิปต์

โดยไม่ปรึกษาเรา

ผู้มุ่งขอการอารักขาจากฟาโรห์

ขอลี้ภัยใต้ร่มเงาของอียิปต์

3 แต่การอารักขาของฟาโรห์จะกลับเป็นความอัปยศอดสูแก่เจ้า

ร่มเงาของอียิปต์จะทำให้เจ้าอับอายขายหน้า

4 ถึงแม้พวกเขาจะมีกองทหารอยู่ในโศอัน

และบรรดาทูตของเขาได้ไปถึงฮาเนส

5 ทุกคนก็จะต้องอับอายขายหน้า

เพราะชนชาติซึ่งไม่มีประโยชน์แก่พวกเขา

ผู้ไม่ให้ความช่วยเหลือหรือประโยชน์อันใด

ให้แต่ความอับอายและความอัปยศอดสู”

6 พระดำรัสเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ แห่งเนเกบมีดังนี้

คณะทูตขนทรัพย์สมบัติมาบนหลังลาและบนโหนกอูฐ

เดินทางผ่านดินแดนอันยากลำบากและทุกข์ลำเค็ญ

แดนแห่งราชสีห์และนางสิงห์

แดนแห่งงูกะปะและงูแมวเซา

เพื่อไปยังชนชาติที่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้

7 ไปยังอียิปต์ ซึ่งความช่วยเหลือของเขาเปล่าประโยชน์อย่างแท้จริง

เราจึงเรียกอียิปต์ว่า

“ราหับผู้ไร้พิษสง”

8 บัดนี้จงไปเขียนไว้บนแผ่นจารึกสำหรับพวกเขา

เขียนลงบนหนังสือม้วน

เพื่อวันข้างหน้า

จะได้เป็นพยานหลักฐานที่ยืนยงตลอดไป

9 คนเหล่านี้เป็นประชากรผู้ทรยศ เป็นลูกหลานที่ชอบหลอกลวง

ลูกหลานซึ่งไม่เต็มใจรับฟังคำสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า

10 พวกเขาบอกผู้ทำนายว่า

“อย่าเห็นนิมิตต่างๆ อีกต่อไป!”

และบอกผู้เผยพระวจนะว่า

“อย่าแจ้งนิมิตถึงสิ่งที่ถูกต้องอีกเลย!

ขอให้บอกแต่เรื่องที่น่าฟัง

เผยพระวจนะเป็นภาพฝันมายาต่างๆ เถิด

11 จงหลีกไปให้พ้น

จงออกไปให้พ้นจากทางนี้

และหยุดเผชิญหน้ากับพวกเรา

ด้วยองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลเสียที!”

12 ฉะนั้นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลตรัสว่า

“เนื่องจากเจ้าละทิ้งถ้อยคำนี้

ไปวางใจการกดขี่ข่มเหง

และพึ่งพากลอุบาย

13 บาปนี้จะเป็นดั่งกำแพงสูงสำหรับเจ้า

ซึ่งแตกกะเทาะออก

แล้วก็ล้มครืนทันทีในชั่วพริบตา

14 มันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนเครื่องปั้นดินเผา

ที่ถูกทุบละเอียดอย่างไม่ปรานี

จนหาเศษสักชิ้นที่พอจะไปช้อนถ่านจากเตา

หรือรองน้ำนิดหนึ่งจากบ่อก็ไม่ได้เลย”

15 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลตรัสว่า

“โดยการกลับใจและการหยุดพัก เจ้าจะรอด

กำลังของเจ้าอยู่ที่การสงบนิ่งและการวางใจ

แต่เจ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย

16 เจ้าพูดว่า ‘ไม่เอา พวกเราจะขึ้นหลังม้าหนีไป’

ดังนั้นเจ้าก็จะหนีไป!

เจ้าพูดว่า ‘พวกเราจะควบม้าเร็วหนีไป’

ฉะนั้นบรรดาผู้ไล่ตามเจ้าจะมาเร็วมาก!

17 คนพันคนจะเตลิดหนี

เพราะคำขู่เข็ญของคนคนเดียว

เพราะคำขู่เข็ญของคนห้าคน

เจ้าทั้งหมดจะเตลิดหนี

จนพวกเจ้าเหลืออยู่น้อยนิด

เหมือนเสาธงบนยอดเขา

เหมือนธงสัญญาณที่ปักไว้บนเนินเขา”

18 ถึงกระนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้ายังทรงปรารถนาจะเมตตาเจ้า

พระองค์ทรงลุกขึ้นเพื่อแสดงความเมตตาสงสารต่อเจ้า

เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม

พระพรมีแก่ทุกคนที่รอคอยพระองค์!

19 ประชากรศิโยนเอ๋ย ผู้อาศัยในเยรูซาเล็ม ท่านจะไม่ร้องไห้อีก พระองค์จะทรงเปี่ยมด้วยพระคุณยิ่งนักเมื่อท่านร้องขอความช่วยเหลือ! ทันทีที่พระองค์ทรงได้ยิน พระองค์จะทรงตอบ

20 ถึงแม้องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานอาหารแห่งความลำเค็ญและน้ำแห่งความทุกข์ระทมแก่ท่าน แต่ครูของท่านจะไม่ซ่อนตัวอีก ท่านจะเห็นครูด้วยตาของท่านเอง

21 ไม่ว่าท่านจะหันไปทางซ้ายหรือทางขวา หูของท่านจะได้ยินเสียงข้างหลังกล่าวว่า “นี่คือหนทาง จงเดินในทางนี้เถิด”

22 แล้วท่านจะทำลายรูปเคารพต่างๆ ที่หุ้มด้วยเงิน และเทวรูปซึ่งปิดทอง ท่านจะเหวี่ยงทิ้งเหมือนผ้าที่เปื้อนประจำเดือน และพูดกับสิ่งเหล่านั้นว่า “ไปให้พ้น!”

23 พระองค์จะประทานฝนแก่เมล็ดพืชที่ท่านหว่านลงในดิน อาหารที่ได้จากแผ่นดินจะอุดมสมบูรณ์ ในวันนั้นฝูงสัตว์ของท่านจะเล็มหญ้าอยู่ในทุ่งกว้าง

24 วัวและลาซึ่งใช้ไถนาจะกินหญ้าแห้งและอาหารคลุกซึ่งใช้คราดและพลั่วเกลี่ย

25 ในวันสังหารครั้งใหญ่นั้น เมื่อหอคอยต่างๆ ล้มครืนลง ธารน้ำหลายสายจะไหลบนภูเขาสูงทุกลูกและเนินเขาสูงทุกแห่ง

26 ดวงจันทร์จะฉายแสงดั่งดวงอาทิตย์ และแสงอาทิตย์จะแผดกล้ากว่าเดิมเจ็ดเท่าเหมือนความสว่างของเจ็ดวันรวมกัน เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสมานรอยแผลของประชากรของพระองค์และทรงรักษาบาดแผลที่ทรงลงโทษ

27 ดูเถิด พระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาจากที่ไกลลิบ

ด้วยพระพิโรธร้อนแรงและควันโขมงทึบ

ปากของพระองค์เต็มไปด้วยพระพิโรธ

ลิ้นของพระองค์คือไฟที่เผาผลาญ

28 ลมหายใจของพระองค์

เหมือนน้ำที่ทะลักท่วมถึงคอ

พระองค์ทรงฝัดร่อนนานาชาติในตะแกรงแห่งหายนะ

พระองค์ทรงใส่บังเหียนที่ชักนำให้เตลิดไปนั้น

ไว้ที่ปากของชนชาติต่างๆ

29 ส่วนท่านจะร้องเพลง

เหมือนในคืนฉลองเทศกาลศักดิ์สิทธิ์

จิตใจของท่านจะชื่นชมยินดี

เหมือนตอนที่ประชากรเป่าขลุ่ย

ขณะขึ้นไปยังภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เพื่อเข้าเฝ้าพระศิลาแห่งอิสราเอล

30 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้มนุษย์ได้ยินพระสุรเสียงอันทรงเดชานุภาพของพระองค์

ให้พวกเขาเห็นพระกรซึ่งฟาดลงมา

ด้วยพระพิโรธรุนแรงและด้วยไฟที่เผาผลาญ

ด้วยพายุฝน ฟ้าคำรน และลูกเห็บ

31 พระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าทำให้อัสซีเรียแตกกระจาย

พระองค์จะทรงฟาดเขาลงด้วยคทาของพระองค์

32 ทุกจังหวะที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงฟาดเขา

ด้วยไม้เรียว

จะเข้ากับเสียงของรำมะนาและพิณ

ขณะที่พระองค์ทรงสู้รบกับพวกเขาด้วยการฟาดฟันโดยพระกรของพระองค์ในสงคราม

33 โทเฟทถูกเตรียมไว้นานแล้ว

เตรียมไว้สำหรับกษัตริย์องค์นั้น

หลุมที่ใช้เผาก็กว้างและลึก

มีไฟและฟืนมากมาย

ลมหายใจขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เหมือนธารกำมะถันลุกโชน

ซึ่งจะจุดโทเฟทให้ลุกไหม้

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/30-141925842ac978cfac6c990e03561f34.mp3?version_id=179—