Categories
โยบ

โยบ 21

โยบ

1 แล้วโยบตอบว่า

2 “ขอให้ตั้งใจฟังคำของข้า

ขอให้นี่เป็นการปลอบใจที่ท่านให้ข้า

3 ขอให้อดทนฟังขณะที่ข้าพูด

แล้วหลังจากนั้นเชิญถากถางต่อไปได้

4 “ข้าบ่นต่อว่าเรื่องมนุษย์หรือ?

ทำไมข้าจะต้องอดกลั้นไว้?

5 จงมองดูข้า แล้วตกตะลึง

และเอามือปิดปากไว้

6 เมื่อข้าคิดเรื่องนี้ ข้าเองยังอกสั่นขวัญแขวน

กายข้าก็สั่นสะท้าน

7 ทำไมหนอคนชั่วร้ายอยู่ไปจนแก่เฒ่า

และเรืองอำนาจขึ้นเรื่อยๆ?

8 เขาอยู่เห็นลูกหลานมั่นคงเป็นปึกแผ่นรายล้อมตัวเขา

ลูกหลานของเขาอยู่ต่อหน้าเขา

9 บ้านของเขาปลอดภัยและไม่ต้องหวาดกลัวสิ่งใด

ไม่ต้องพานพบไม้เรียวของพระเจ้า

10 วัวผู้ของเขาผสมพันธุ์ไม่มีขาด

แม่วัวของเขาตกลูกและไม่เคยแท้ง

11 เขามีลูกหลานมากมายเหมือนฝูงแพะแกะ

เด็กๆ ของเขาก็ร้องเล่นเต้นรำ

12 พวกเขาร้องเพลงคลอเสียงพิณและรำมะนา

รื่นเริงกับเสียงปี่

13 เขาใช้ชีวิตอย่างเจริญรุ่งเรือง

และเข้าสู่แดนมรณาด้วยความสงบสุข

14 ถึงกระนั้นเขาก็พูดกับพระเจ้าว่า ‘อย่ามายุ่งกับเรา!

เราไม่อยากรู้วิถีทางของพระองค์

15 องค์ทรงฤทธิ์เป็นใครกันเราจึงต้องรับใช้พระองค์?

เราจะอธิษฐานต่อพระองค์ไปเพื่ออะไร?’

16 แต่ความเจริญรุ่งเรืองของพวกเขาไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขาเอง

ข้าจึงไม่ใส่ใจคำแนะนำของคนชั่ว

17 “กี่ครั้งที่ตะเกียงของคนชั่วร้ายถูกดับไป?

กี่ครั้งที่ภัยพิบัติเกิดกับเขา?

นั่นคือชะตากรรมที่พระพิโรธของพระเจ้าบันดาลให้เป็นไป

18 กี่ครั้งที่เขาเหมือนฟางปลิวตามลม

เหมือนแกลบที่ถูกพายุพัดไป?

19 กล่าวกันว่า ‘พระเจ้าทรงสะสมโทษทัณฑ์ไว้ให้ลูกหลานของเขา’

ขอให้พระเจ้าทรงลงโทษตัวคนนั้นเองเพื่อเขาจะได้รู้สำนึก!

20 ขอให้ตาของเขาเห็นความพินาศย่อยยับของตัวเอง

ขอให้เขาดื่มพระพิโรธขององค์ทรงฤทธิ์

21 เพราะเมื่อชีวิตของเขามาถึงจุดจบที่กำหนดไว้แล้ว

เขาจะแยแสอะไรกับครอบครัวที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง?

22 “ใครเล่าจะสั่งสอนพระเจ้า

ในเมื่อพระองค์ทรงพิพากษาแม้แต่คนที่สูงส่งที่สุด?

23 คนหนึ่งตายไปขณะที่ยังแข็งแรง

สุขสมบูรณ์และสบายเต็มที่

24 ร่างกายได้รับการบำรุงเลี้ยงอย่างดี

และกระดูกของเขาแข็งแกร่ง

25 อีกคนหนึ่งตายไปอย่างขมขื่นใจ

ไม่เคยได้ชื่นชมสิ่งดีงามใดๆ

26 ทั้งสองนอนเคียงข้างกันในธุลีดิน

และถูกปกคลุมด้วยหนอน

27 “ข้ารู้ดีว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่

แผนการที่พวกท่านจะเล่นงานข้า

28 ท่านพูดว่า ‘ไหนล่ะคฤหาสน์ของเจ้าใหญ่นายโตคนนั้น?

เต็นท์ที่พักของคนชั่วไปไหนเสียแล้ว?’

29 ท่านไม่เคยถามผู้ที่ท่องเที่ยวไปมาหรือ?

ท่านไม่สนใจคำบอกเล่าของเขาบ้างหรือว่า

30 คนชั่วมักรอดพ้นในวันแห่งหายนะ

เขาได้รับการช่วยเหลือให้พ้นวันแห่งพระพิโรธ

31 ใครบ้างประณามความประพฤติของเขาซึ่งๆ หน้า?

ใครสนองการกระทำของเขา?

32 เมื่อเขาถูกหามไปยังที่ฝังศพ

ก็ยังมียามเฝ้าอุโมงค์ให้เขา

33 ดินในหุบเขานุ่มสบายสำหรับเขา

คนทั้งปวงติดตามเขาไป

และผู้คนที่ไปก่อนหน้าเขาก็นับไม่ถ้วน

34 “ท่านจะปลอบโยนข้าด้วยคำเหลวไหลได้อย่างไร?

คำตอบของท่านไม่มีอะไรนอกจากคำลวง!”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/21-d4328985612924c28aeb4b06e6dfc696.mp3?version_id=179—

Categories
โยบ

โยบ 22

เอลีฟัส

1 แล้วเอลีฟัสชาวเทมานตอบว่า

2 “มนุษย์จะมีประโยชน์อันใดสำหรับพระเจ้าได้?

แม้แต่คนเฉลียวฉลาดก็จะเป็นประโยชน์อะไรสำหรับพระองค์ได้?

3 หากท่านชอบธรรม นั่นจะทำให้องค์ทรงฤทธิ์พอพระทัยตรงไหน?

หากท่านดีพร้อม จะมีประโยชน์อันใดสำหรับพระองค์?

4 “เพราะคุณธรรมของท่านหรือ

พระองค์จึงทรงตำหนิและตั้งข้อหาท่าน?

5 ไม่ใช่เพราะท่านชั่วร้ายมากหรือ?

ไม่ใช่เพราะบาปที่ไม่สิ้นสุดของท่านหรือ?

6 ท่านได้เรียกร้องของค้ำประกันจากพี่น้องโดยไม่มีเหตุผล

ท่านทำให้ผู้คนหมดเนื้อหมดตัว

7 ท่านไม่ได้ให้น้ำแก่ผู้อิดโรย

และไม่แบ่งปันอาหารแก่ผู้หิวโหย

8 แม้ว่าท่านจะมีอิทธิพล เป็นเจ้าของที่ดิน

มีคนนับหน้าถือตาและอาศัยในที่แห่งนั้น

9 ท่านขับไล่ไสส่งแม่ม่ายออกไปมือเปล่า

และริดรอนกำลังของลูกกำพร้าพ่อ

10 ด้วยเหตุนี้กับดักหลุมพรางจึงอยู่รายรอบท่าน

หายนะฉับพลันทำให้ท่านขวัญหนีดีฝ่อ

11 ความมืดมนจึงทำให้ท่านมองไม่เห็น

และกระแสน้ำท่วมมิดท่าน

12 “พระเจ้าไม่ได้ประทับที่เบื้องสูงแห่งฟ้าสวรรค์หรือ?

ดูเถิดว่าหมู่ดาวเบื้องบนอยู่สูงเพียงใด?

13 ถึงกระนั้นท่านก็กล่าวว่า ‘พระเจ้ารู้อะไร?

พระองค์จะสามารถพิพากษาผ่านความมืดทึบนี้ได้หรือ?

14 เพราะเมฆหนาทึบบังพระองค์ไว้

เมื่อพระองค์เสด็จไปมาเหนือฟ้ากว้าง พระองค์จึงไม่ทรงเห็นเรา’

15 ท่านจะเดินบนทางสายเก่า

ที่คนชั่วได้เดินย่ำมานั้นหรือ?

16 พวกเขาถูกคร่าไปก่อนกำหนด

รากฐานของเขาถูกน้ำท่วมกวาดล้างไป

17 เขาพูดกับพระเจ้าว่า ‘อย่ามายุ่งกับเรา!

องค์ทรงฤทธิ์จะทำอะไรเราได้?’

18 แต่พระเจ้านี่แหละทำให้บ้านของเขามีแต่ของดีๆ

ฉะนั้นข้าจึงไม่ใส่ใจคำแนะนำของคนชั่วร้าย

19 “บรรดาคนชอบธรรมเห็นความย่อยยับของพวกเขาแล้วก็ชื่นชมยินดี

ผู้บริสุทธิ์เย้ยหยันพวกเขาว่า

20 ‘แน่นอนว่าศัตรูของเราย่อมถูกทำลายล้าง

และไฟเผาผลาญทรัพย์สมบัติของพวกเขา’

21 “ยอมจำนนต่อพระเจ้าเถิด คืนดีกับพระองค์

แล้วความเจริญรุ่งเรืองจะมาถึงท่าน

22 จงน้อมรับคำสั่งสอนจากพระโอษฐ์ของพระองค์

และเก็บพระวจนะของพระองค์ไว้ในดวงใจของท่าน

23 หากท่านกลับมาหาองค์ทรงฤทธิ์ ท่านก็จะกลับสู่ความปกติสุข

หากท่านขจัดความชั่วร้ายให้ห่างไกลจากเรือนของท่าน

24 หากท่านละทิ้งแร่ทองคำของท่านไว้ในธุลีดิน

และโยนทองแห่งโอฟีร์ของท่านทิ้งหุบเหวไป

25 เมื่อนั้นองค์ทรงฤทธิ์เองจะทรงเป็นทองของท่าน

เป็นเงินเนื้อดีของท่าน

26 แน่นอนว่าท่านจะชื่นชมยินดีในองค์ทรงฤทธิ์

และเงยหน้าขึ้นหาพระเจ้า

27 ท่านจะอธิษฐานต่อพระเจ้า และพระองค์จะทรงฟังท่าน

แล้วท่านจะทำตามที่ถวายปฏิญาณไว้

28 สิ่งที่ท่านตัดสินใจจะสัมฤทธิ์ผล

และแสงสว่างจะส่องทางให้ท่าน

29 เมื่อมีคนถูกทำให้ตกต่ำลงและท่านทูลว่า ‘ขอทรงโปรดยกชูเขา!’

แล้วพระองค์ก็จะทรงช่วยกู้ผู้ที่ต่ำต้อยนั้น

30 พระองค์จะทรงกอบกู้แม้แต่ผู้ที่ทำผิด

มืออันบริสุทธิ์ของท่านจะช่วยกู้เขา”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/22-0fb3152de7104b456a684a90bfc7427a.mp3?version_id=179—

Categories
โยบ

โยบ 23

โยบ

1 แล้วโยบจึงตอบว่า

2 “คำร้องทุกข์ของข้าวันนี้ยังคงเป็นคำที่ขมขื่น

พระหัตถ์ของพระองค์ก็หนักหน่วงทั้งๆ ที่ข้าร้องครวญคราง

3 ถ้าเพียงแต่ข้ารู้ว่าจะหาพระเจ้าได้ที่ไหน

ถ้าเพียงแต่ข้าสามารถไปถึงที่ประทับของพระองค์!

4 ข้าจะทูลแถลงคดีของข้าต่อหน้าพระองค์

และขอโต้แย้งอย่างเต็มที่

5 แล้วข้าจะรู้ว่าพระองค์จะทรงตอบข้าว่าอย่างไร

และข้าจะใคร่ครวญสิ่งที่พระองค์ตรัส

6 พระองค์จะทรงใช้อำนาจอันยิ่งใหญ่ต่อต้านข้าหรือ?

หามิได้ พระองค์จะไม่ทรงตั้งข้อหาข้า

7 ที่นั่นคนชอบธรรมสามารถชี้แจงเหตุผลต่อพระองค์ได้

และข้าจะได้รับการปลดปล่อยโดยองค์ตุลาการของข้าให้พ้นมลทินตลอดไป

8 “แต่ถึงข้าไปทางตะวันออก พระองค์ก็ไม่อยู่ที่นั่น

ถ้าข้าไปทางตะวันตก ก็ไม่พบพระองค์

9 เมื่อพระองค์ทรงกระทำพระราชกิจอยู่ทางทิศเหนือ ข้าไม่เห็นพระองค์

เมื่อพระองค์หันมาทางใต้ ข้าหาพระองค์ไม่พบ

10 แต่พระองค์ทรงทราบทางที่ข้าไป

เมื่อพระองค์ทรงทดสอบข้าแล้ว ข้าจะเป็นดั่งทองคำ

11 ข้าดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์อย่างใกล้ชิด

ข้าอยู่ในทางของพระองค์โดยไม่หันเห

12 ข้าไม่ได้พรากจากพระบัญชาของพระองค์

ข้าเห็นว่าพระวจนะจากพระโอษฐ์ของพระองค์ล้ำค่ายิ่งกว่าอาหารประจำวัน

13 “แต่พระองค์ก็ยังทรงยืนกรานเด็ดเดี่ยว และใครเล่าจะต่อต้านพระองค์ได้?

พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งตามชอบพระทัย

14 พระองค์ทรงกระทำแก่ข้าตามที่ทรงมีประกาศิตไว้

และพระองค์ยังมีแผนการอื่นๆ เก็บไว้อีกมากมาย

15 ด้วยเหตุนี้ข้าจึงครั่นคร้ามต่อหน้าพระองค์

เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ข้าก็ยำเกรงพระองค์

16 พระเจ้าทรงกระทำให้จิตใจของข้าอ่อนระโหย

องค์ทรงฤทธิ์ทรงเขย่าขวัญข้า

17 ถึงกระนั้นความมืดทึบที่กลบหน้าข้า

ก็ไม่ทำให้ข้าเงียบลง

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/23-8bf1dd937b8103dc83eb92234f1614ef.mp3?version_id=179—

Categories
โยบ

โยบ 24

1 “ทำไมหนอองค์ทรงฤทธิ์จึงไม่ทรงกำหนดเวลาไว้เพื่อการพิพากษา?

ทำไมบรรดาผู้ที่รู้จักพระองค์ต้องชะเง้อหาวันเวลาเช่นนั้นโดยเปล่าประโยชน์?

2 มีคนโยกย้ายหลักเขต

พวกเขาขโมยฝูงสัตว์มาเลี้ยง

3 พวกเขาริบเอาลาของลูกกำพร้าพ่อ

และยึดวัวของแม่ม่ายเป็นของค้ำประกัน

4 พวกเขาผลักไสคนขัดสนออกไปให้พ้นทาง

และบีบบังคับคนยากไร้ให้ต้องหลบๆ ซ่อนๆ

5 ดั่งลาป่าในถิ่นกันดาร

คนยากไร้ต้องตรากตรำ

กระเสือกกระสนหาอาหารจากถิ่นกันดารเพื่อเลี้ยงลูก

6 เขาเก็บหญ้าแห้งตามท้องทุ่ง

และเก็บของเหลือในสวนองุ่นของคนชั่ว

7 ยามค่ำคืนต้องนอนหนาวเหน็บไม่มีผ้าจะพันกาย

ไม่มีผ้าห่มกันหนาว

8 กายของเขาเปียกโชกเพราะสายฝนแห่งภูเขา

และเขาเกาะหินแน่นเพราะไม่มีที่กำบัง

9 ลูกกำพร้าพ่อถูกคร่าจากอกแม่

ทารกของคนยากไร้ถูกจับไปเพราะเป็นหนี้

10 พวกเขาจึงต้องระหกระเหินไปด้วยกายเปลือยเปล่า

ต้องแบกฟ่อนข้าวทั้งๆ ที่หิวโซ

11 เขาคั้นน้ำมันมะกอกในดงมะกอก

และย่ำน้ำองุ่นทั้งๆ ที่กำลังทุกข์ทรมานด้วยความกระหาย

12 เสียงครวญครางของคนใกล้ตายดังมาจากตัวเมือง

วิญญาณของผู้บาดเจ็บร้องวิงวอนขอความช่วยเหลือ

แต่พระเจ้าไม่เห็นเอาผิดกับใคร

13 “มีผู้กบฏต่อความสว่าง

ผู้ไม่รู้จัก

และไม่ยอมดำเนินในทางของความสว่างนั้น

14 เมื่อสิ้นแสงตะวันแล้ว ฆาตกรก็ลุกขึ้น

สังหารคนยากไร้และคนขัดสน

ยามค่ำคืนเขาลอบออกไปเหมือนขโมย

15 ตาของคนล่วงประเวณีจ้องรอคอยเวลาพลบค่ำ

เขาคิดว่า ‘ไม่มีใครเห็นเรา’

และคลุมหน้าเพื่อพรางตาคน

16 ในความมืดมีคนแอบย่องเข้าไปในบ้าน

แต่ตอนกลางวันเขาก็เก็บตัวอยู่

ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับความสว่าง

17 สำหรับพวกเขาทุกคน ความมืดสนิทเป็นยามเช้า

เขาเป็นมิตรกับความมืดมนอันน่าสยดสยอง

18 “ถึงกระนั้นเขาก็เป็นฟองบนผิวน้ำ

ที่ดินส่วนของเขาถูกสาปแช่ง

จึงไม่มีใครไปที่สวนองุ่นของเขา

19 ความร้อนระอุแห้งแล้งดูดซับหิมะที่ละลายไปฉันใด

แดนมรณาก็พรากผู้ที่ทำบาปไปฉันนั้น

20 ครรภ์มารดาก็ลืมเขา

ตัวหนอนรุมกินเขา

ไม่มีใครจดจำคนชั่วร้ายอีกต่อไป

แต่พวกเขาถูกโค่นลงเหมือนต้นไม้

21 เพราะพวกเขาเอารัดเอาเปรียบหญิงที่เป็นหมันและหญิงที่ไม่มีลูกๆ ดูแล

เขาไม่ปรานีหญิงม่าย

22 แต่พระเจ้าทรงลากผู้ยิ่งใหญ่ไปด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์

แม้พวกเขาเป็นปึกแผ่น แต่ก็ไม่มีความมั่นคงในชีวิต

23 พระองค์อาจจะปล่อยให้เขาพักอยู่ด้วยความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย

แต่ทรงจับตาดูวิถีทางของเขา

24 เขาได้รับการยกย่องเทิดทูนอยู่ชั่วครู่หนึ่ง แล้วก็ผ่านพ้นไป

พวกเขาต้องตกต่ำลงและถูกรวบไปเหมือนคนอื่นๆ

เขาถูกตัดออกเหมือนยอดรวงข้าว

25 “ถ้าไม่ได้เป็นอย่างนี้ ใครจะพิสูจน์ได้ว่าข้าพูดผิด

และทำให้เห็นว่าสิ่งที่ข้ากล่าวมานี้ไม่เป็นความจริง”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/24-0338c59305a335d0dda59478e45390c8.mp3?version_id=179—

Categories
โยบ

โยบ 25

บิลดัด

1 แล้วบิลดัดชาวชูอาห์ตอบว่า

2 “อำนาจครอบครองและความน่าเกรงขามเป็นของพระเจ้า

พระองค์ทรงสถาปนาความเป็นระเบียบไว้ในฟ้าสวรรค์เบื้องสูง

3 กองพลโยธาของพระองค์สามารถนับได้หรือ?

ผู้ใดเล่าที่แสงสว่างของพระองค์ส่องไปไม่ถึง?

4 มนุษย์จะชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้าได้อย่างไร?

ผู้ถือกำเนิดจากสตรีจะบริสุทธิ์ได้อย่างไร?

5 หากแม้แสงจันทร์ยังไม่กระจ่าง

และดวงดาวยังไม่บริสุทธิ์ในสายพระเนตรของพระองค์

6 มนุษย์ซึ่งเป็นเพียงตัวดักแด้

บุตรของมนุษย์ซึ่งเป็นเพียงตัวหนอน

จะยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด!”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/25-e7ff35a831a647757e0a5a4ce616bb17.mp3?version_id=179—

Categories
โยบ

โยบ 26

โยบ

1 โยบจึงตอบว่า

2 “ท่านช่วยคนหมดแรงได้มากเสียจริง!

ช่วยพยุงแขนที่อ่อนล้าได้เยี่ยมจริงนะ!

3 คำแนะนำที่ท่านให้แก่คนไม่มีปัญญานั้นช่างยอดเยี่ยม!

ท่านได้แสดงความเข้าใจที่ลึกซึ้งเสียนี่กระไร!

4 ใครหนอช่วยให้ท่านพูดออกมาอย่างนี้ได้?

วิญญาณดวงใดหนอที่พูดออกมาผ่านปากของท่าน?

5 “บรรดาผู้ตายต้องทุกข์ทรมาน

ทั้งบรรดาคนที่อยู่ใต้น้ำและทุกชีวิตในนั้น

6 แดนมรณาเปลือยเปล่าต่อหน้าพระเจ้า

แดนพินาศไร้สิ่งปกปิด

7 พระเจ้าทรงคลี่ท้องฟ้าด้านเหนือบนความว่างเปล่า

และทรงแขวนโลกไว้เหนือที่เวิ้งว้าง

8 พระองค์ทรงห่อหุ้มน้ำไว้ในเมฆของพระองค์

และเมฆก็ไม่ได้แตกกระจายเพราะน้ำหนักของมัน

9 พระองค์ทรงคลี่เมฆ

ทรงบดบังจันทร์เพ็ญ

10 พระองค์ทรงกำหนดเส้นขอบฟ้าที่ทะเล

เป็นพรมแดนระหว่างความสว่างกับความมืด

11 เสาของฟ้าสวรรค์สั่นคลอน

เมื่อพระองค์ทรงกำราบ

12 และโดยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ทะเลก็สงบราบคาบ

โดยพระปรีชาญาณ ทรงหั่นราหับออกเป็นชิ้นๆ

13 ฟ้าสวรรค์งดงามโดยลมปราณของพระเจ้า

พระหัตถ์ของพระองค์ทรงแทงพญางูที่กำลังเลื้อยไป

14 เหล่านี้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่พระองค์ทรงกระทำ

เป็นแค่เสียงกระซิบแผ่วๆ ที่เราได้ยินเกี่ยวกับพระองค์เท่านั้น!

แล้วใครเล่าจะสามารถเข้าใจความเกรียงไกรแห่งฤทธิ์อำนาจของพระองค์ได้?”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/26-f00dbd45f248a6d164eac5e61de872a6.mp3?version_id=179—

Categories
โยบ

โยบ 27

1 โยบกล่าวต่อไปว่า

2 “ตราบใดที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะให้ความยุติธรรมแก่ข้า

องค์ทรงฤทธิ์ผู้ทำให้ข้าลิ้มรสความขมขื่นในวิญญาณ

3 ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่

ตราบใดที่ข้ายังมีลมปราณจากพระเจ้า

4 ตราบนั้นริมฝีปากของข้าจะไม่กล่าวคำชั่ว

และลิ้นของข้าจะไม่กล่าวคำหลอกลวง

5 ข้าจะไม่มีวันยอมรับว่าพวกท่านเป็นฝ่ายถูก

จนตายข้าก็ขอยืนยันว่าข้าซื่อสัตย์สุจริต

6 ข้าจะยึดมั่นในความชอบธรรมของข้าและไม่มีวันปล่อยวาง

มโนธรรมของข้าจะไม่ตำหนิข้าตราบชั่วชีวิต

7 “ขอให้ศัตรูของข้าเป็นเหมือนคนชั่ว

ขอให้ปฏิปักษ์ของข้าเป็นเหมือนคนอยุติธรรม!

8 เพราะคนอธรรมจะมีความหวังอะไรเมื่อเขาถูกตัดขาด

เมื่อพระเจ้าทรงคร่าชีวิตเขาไป?

9 เมื่อความทุกข์ลำบากมาถึงเขา

พระเจ้าทรงฟังเสียงร่ำร้องของเขาหรือ?

10 เขาจะปีติยินดีในองค์ทรงฤทธิ์หรือ?

เขาจะร้องทูลพระเจ้าตลอดเวลาหรือ?

11 “ข้าจะสอนท่านถึงเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า

จะไม่ปิดบังวิถีทางขององค์ทรงฤทธิ์

12 ท่านเองก็รู้เห็นทั้งหมดนี้แล้ว

ทำไมจึงยังพูดเหลวไหลอย่างนี้อีก?

13 “นี่คือชะตากรรมที่พระเจ้าทรงกำหนดให้แก่คนชั่วร้าย

และเป็นมรดกที่คนอำมหิตได้รับจากองค์ทรงฤทธิ์

14 ถึงแม้ลูกหลานของเขาจะมากมาย แต่ก็จะตกเป็นเหยื่อของคมดาบ

และวงศ์วานของเขาจะไม่มีวันได้กินอิ่ม

15 ผู้ที่รอดชีวิตอยู่ก็จะถูกนำไปสู่หลุมศพด้วยโรคระบาด

ภรรยาม่ายของพวกเขาก็ไม่คร่ำครวญถึงพวกเขา

16 ถึงแม้เขาสะสมเงินไว้มากมายดั่งฝุ่นธุลี

และมีเสื้อผ้าเป็นกองๆ เหมือนกองดินเหนียว

17 ผู้ชอบธรรมจะนำสิ่งที่เขาสะสมไว้มาสวมใส่

และคนไร้ผิดจะเอาเงินของเขามาแบ่งปันกัน

18 บ้านที่เขาสร้างขึ้นเหมือนรังของดักแด้

เหมือนกระท่อมที่คนยามสร้างขึ้น

19 เขานอนลงบนกองเงินกองทอง แต่เขาจะไม่ได้ทำเช่นนั้นอีกต่อไป

เพราะเมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ทุกอย่างก็สูญสิ้นไป

20 ความสยดสยองจู่โจมเขาจนตั้งตัวไม่ติดเหมือนน้ำท่วมฉับพลัน

และพายุร้ายซัดเขาหายไปในยามราตรี

21 ลมตะวันออกพัดพาเขาหายไป

กวาดเขาไปจากที่อยู่

22 มันม้วนตัวซัดกระหน่ำเขาอย่างไม่ปรานี

ขณะที่เขาพยายามจะหลบหนีให้พ้นอำนาจของมัน

23 มันก็ปรบมือเยาะเย้ย

และซัดเขาหลุดลอยไปจากที่ของเขา

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/27-dfbfba774f7ba5e5742484a158cf86aa.mp3?version_id=179—

Categories
โยบ

โยบ 28

1 “มีเหมืองเงิน

และแหล่งถลุงทองคำ

2 แร่เหล็กได้มาจากพื้นดิน

และทองแดงถลุงมาจากสินแร่

3 มนุษย์ไล่ความมืดออกไป

ค้นหาแหล่งแร่ที่ลึกลับที่สุด

ในความมืดทึบ

4 เขาขุดปล่องในที่ห่างไกลจากถิ่นที่ผู้คนอาศัย

ในที่ซึ่งเท้าของมนุษย์ไม่ได้เหยียบย่างเข้าไป

เขาไต่เชือกและแกว่งตัวไปมาในที่ห่างไกลจากผู้คน

5 แผ่นดินโลกเป็นแหล่งอาหาร

แต่เบื้องล่างหลอมตัวราวกับถูกไฟเผา

6 แก้วไพฑูรย์มาจากหินของมัน

และที่นั่นก็มีผงทองคำ

7 ไม่มีนกล่าเหยื่อตัวใดรู้เส้นทางที่ซ่อนอยู่นั้น

ไม่มีตาของเหยี่ยวตัวใดสังเกตเห็น

8 สัตว์ป่าที่สง่างามไม่ย่างกรายไปที่นั่น

ไม่มีราชสีห์ตัวใดผ่านไปที่นั่น

9 มือมนุษย์ทำลายหินที่แข็งแกร่ง

และทลายภูเขาลงถึงราก

10 เขาขุดอุโมงค์ทะลุหินผา

และตาของเขามองเห็นของมีค่าในนั้น

11 เขาเสาะหาต้นน้ำลำธาร

และนำสิ่งที่ซ่อนเร้นมาสู่ความสว่าง

12 “แต่จะพบสติปัญญาได้จากที่ไหน?

ความเข้าใจอยู่ที่ไหน?

13 มนุษย์ไม่เข้าใจถึงคุณค่าของสติปัญญา

หาไม่พบในดินแดนของผู้มีชีวิต

14 ห้วงลึกกล่าวว่า ‘มันไม่ได้อยู่ในนี้’

ทะเลกล่าวว่า ‘มันไม่ได้อยู่ที่นี่’

15 เราไม่สามารถซื้อปัญญาด้วยทองเนื้อดีที่สุด

หรือตีราคาเป็นเงิน

16 หรือแลกซื้อด้วยทองคำแห่งเมืองโอฟีร์

หรือด้วยโกเมนล้ำค่าหรือไพฑูรย์

17 ไม่ว่าทองคำหรือแก้วมณีก็ไม่อาจเทียบปัญญาได้

อีกทั้งเพชรพลอยหรือเครื่องทองก็ไม่อาจแลกได้

18 หินปะการังและแก้วผลึกยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง

ค่าของสติปัญญาสูงกว่าทับทิม

19 บุษราคัมแห่งเอธิโอเปียไม่อาจเทียบเคียง

แม้แต่ทองคำบริสุทธิ์ก็ไม่อาจแลกซื้อได้

20 “ถ้าเช่นนั้นสติปัญญามาจากที่ไหน?

ความเข้าใจอยู่ที่ไหน?

21 มันถูกซ่อนจากสายตาของทุกชีวิต

และถูกปิดบังไว้จากนกในอากาศ

22 หายนะและความตายกล่าวว่า

‘เราเพียงแต่ได้ยินข่าวเล่าลือมา’

23 พระเจ้าทรงเข้าใจหนทางสู่สติปัญญา

และพระองค์เพียงผู้เดียวทรงทราบว่ามันอยู่ที่ไหน

24 เพราะพระองค์ทรงแลเห็นถึงสุดปลายแผ่นดินโลก

เห็นทุกสิ่งภายใต้ฟ้าสวรรค์

25 เมื่อพระเจ้าทรงกำหนดแรงลม

และชั่งตวงห้วงน้ำ

26 เมื่อทรงตั้งกฎเกณฑ์ของสายฝน

และจัดทางให้แก่พายุฟ้าคำรน

27 แล้วพระองค์ทรงทอดพระเนตรสติปัญญาและทรงประเมินค่า

พระองค์ทรงยืนยันและทดสอบ

28 และพระองค์ตรัสแก่มนุษย์ว่า

‘ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าคือสติปัญญา

การหลีกหนีจากความชั่วคือความเข้าใจ’ ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/28-e13f8926193740cdc00dd80a6f5d84a2.mp3?version_id=179—

Categories
โยบ

โยบ 29

1 โยบกล่าวต่อไปว่า

2 “ข้าใฝ่หาปีเดือนที่ผ่านไปยิ่งนัก

คิดถึงเมื่อครั้งที่พระเจ้าทรงดูแลข้า

3 ยามที่ดวงประทีปของพระองค์ส่องเหนือศีรษะของข้า

ความสว่างของพระองค์นำให้ข้าเดินฝ่าความมืดได้!

4 คิดถึงวัยฉกรรจ์

เมื่อมิตรภาพแน่นแฟ้นของพระเจ้าเป็นพรแก่บ้านของข้า

5 เมื่อองค์ทรงฤทธิ์ยังสถิตกับข้า

และลูกๆ ของข้าห้อมล้อมข้า

6 เมื่อกิจการของข้าเจริญรุ่งเรือง

แม้แต่หินผายังหลั่งน้ำมันมะกอกให้

7 “เมื่อข้าไปที่ประตูเมือง

และนั่งประจำตำแหน่งที่ลานชุมชน

8 พวกหนุ่มๆ เห็นข้าก็หลีกทางให้

และผู้สูงอายุก็ลุกขึ้นยืนต้อนรับข้า

9 คนระดับผู้นำสงบนิ่ง

และเอามือปิดปากไว้

10 เจ้านายสงบเสียง

ลิ้นแตะเพดานปาก

11 ทุกคนที่ฟังข้าก็ชมข้า

ทุกคนที่เห็นข้าก็ยกย่องข้า

12 เพราะข้าช่วยเหลือผู้ยากไร้ซึ่งร้องขอความช่วยเหลือ

และช่วยลูกกำพร้าพ่อซึ่งไม่มีใครช่วย

13 คนใกล้ตายให้พรข้า

ข้าทำให้หัวใจของหญิงม่ายร้องเพลง

14 ข้าสวมความชอบธรรมเป็นอาภรณ์

ความยุติธรรมเป็นเสื้อคลุมและผ้าโพกศีรษะของข้า

15 ข้าเป็นดวงตาให้คนตาบอด

เป็นเท้าให้คนง่อย

16 ข้าเป็นบิดาให้คนยากไร้

และเป็นธุระในคดีของคนแปลกหน้า

17 ข้าหักเขี้ยวเล็บของคนชั่ว

และช่วยเหยื่อออกมาจากปากของพวกเขา

18 “ข้าคิดว่า ‘ข้าจะตายในบ้านของข้า

วันคืนของข้าคงมากมายดั่งเม็ดทราย

19 รากของข้าจะหยั่งถึงน้ำ

และน้ำค้างจะพรมกิ่งก้านของข้าตลอดคืน

20 ศักดิ์ศรีของข้าจะคงอยู่เสมอ

ลูกธนูในมือของข้าจะใหม่อยู่เสมอ’

21 “ผู้คนฟังข้าอย่างจดจ่อ

สงบรอคอยคำแนะนำของข้า

22 และหลังจากที่ข้าพูดแล้ว พวกเขาก็ไม่พูดอะไรอีก

เพราะเขาพึงพอใจคำแนะนำของข้า

23 เขารอฟังข้าเหมือนคอยสายฝน

และดื่มด่ำถ้อยคำของข้าเหมือนฝนในฤดูใบไม้ผลิ

24 เมื่อข้ายิ้มให้ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตา

ใบหน้ายิ้มแย้มของข้ามีคุณค่าแก่เขา

25 ข้าเลือกทางให้พวกเขาและทำหน้าที่เป็นหัวหน้าของพวกเขา

เป็นเหมือนกษัตริย์ท่ามกลางกองทัพ

และเป็นผู้ปลอบโยนบรรดาผู้ไว้ทุกข์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/29-e79a55de53273594bbca0357bdb57b58.mp3?version_id=179—

Categories
โยบ

โยบ 30

1 “แต่เดี๋ยวนี้ผู้ที่อ่อนอาวุโสกว่าข้า เย้ยหยันข้า

ซึ่งบิดาของเขาเหล่านั้นข้ายังรังเกียจ

ไม่ให้มาอยู่กับสุนัขเลี้ยงแกะของข้า

2 มืออันเปี่ยมพลังของพวกเขามีประโยชน์อันใดสำหรับข้า

ในเมื่อกำลังวังชาเสื่อมถอยจากพวกเขาแล้ว

3 พวกเขาผอมโซเพราะหิวโหยและขาดอาหาร

ซัดเซพเนจรไปในถิ่นกันดารยามค่ำคืน

4 พวกเขาเก็บผักตามพุ่มไม้

และเก็บรากไม้เป็นอาหาร

5 พวกเขาถูกขับไล่ไสส่งจากเพื่อนพ้อง

ผู้คนตะโกนไล่หลังราวกับว่าเขาเป็นขโมย

6 พวกเขาถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในพื้นลำธารซึ่งแห้งขอด

ตามโพรงหรือตามซอกหิน

7 พวกเขาส่งเสียงร้องอยู่กลางพุ่มไม้

และซุกตัวกันใต้พุ่มหนาม

8 พวกเขาเป็นคนถ่อยด้อยสกุล

ถูกขับไล่จากแผ่นดิน

9 “และบัดนี้ลูกๆ ของพวกเขาร้องเพลงเย้ยข้า

ข้าตกเป็นขี้ปากของพวกเขา

10 พวกเขารังเกียจข้าและไม่ยอมเข้ามาใกล้ข้า

พวกเขาถ่มน้ำลายรดหน้าข้าอย่างไม่ลังเล

11 ในเมื่อพระเจ้าทรงปลดธนูของข้าและทำให้ข้าทุกข์ยาก

พวกเขาไม่มีความยับยั้งชั่งใจต่อหน้าข้า

12 ข้าถูกพวกเขาจู่โจมเข้ามาด้านขวามือ

พวกเขาวางกับดักหลุมพรางไว้

และโอบล้อมเข้ามาต่อสู้กับข้า

13 พวกเขาปิดกั้นทางหนีของข้า

และทำลายล้างข้า

พวกเขากล่าวว่า ‘ไม่มีใครช่วยเขาได้เลย’

14 พวกเขาตรงรี่เข้ามาหาตามรอยแยก

ทะลักเข้ามาท่ามกลางซากปรักหักพัง

15 ความอกสั่นขวัญแขวนจู่โจมข้า

ศักดิ์ศรีของข้าสูญสิ้นเหมือนถูกลมพัดไป

สวัสดิภาพของข้าลอยลับไปดั่งเมฆ

16 “บัดนี้ชีวิตของข้าตกต่ำไป

วันคืนอันทุกข์ทรมานยึดข้าไว้

17 ค่ำคืนทิ่มแทงกระดูกของข้า

ความเจ็บปวดกัดกินข้าไม่หยุดหย่อน

18 โดยฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ เสื้อผ้าของข้าถูกกระชากออก

ข้าถูกคว้าที่คอเสื้อ

19 พระองค์ทรงเหวี่ยงข้าลงในโคลน

ข้ากลายเป็นเหมือนฝุ่นและขี้เถ้า

20 “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ

ข้าพระองค์ยืนขึ้น พระองค์ก็เพียงแต่ทอดพระเนตร

21 พระองค์กลับโหดร้ายต่อข้าพระองค์

และทรงเล่นงานข้าพระองค์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์

22 พระองค์ทรงฉวยข้าพระองค์ขึ้นและให้ลมพัดพาข้าพระองค์ไป

และทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ไปมาในพายุ

23 ข้าพระองค์ทราบว่าพระองค์จะนำข้าพระองค์ไปสู่ความตาย

ไปยังที่ซึ่งกำหนดไว้สำหรับทุกชีวิต

24 “แน่ทีเดียว ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยคนที่แตกสลาย

เมื่อเขาทุกข์ยากและร้องขอให้ช่วย

25 ข้าไม่ได้ร่ำไห้เพื่อผู้ตกทุกข์ได้ยากหรือ?

จิตวิญญาณของข้าไม่ได้เศร้าเสียใจเพื่อผู้ยากไร้หรือ?

26 ถึงกระนั้นเมื่อข้ามุ่งหวังสิ่งที่ดีกลับได้สิ่งที่เลวร้าย

เมื่อข้ามองหาความสว่างกลับได้ความมืดมน

27 จิตใจของข้าทุกข์ร้อนไม่หยุดหย่อน

พานพบแต่วันคืนอันทุกข์ทรมาน

28 ผิวข้าหมองคล้ำแต่ไม่ใช่เพราะกรำแดด

ข้ายืนขึ้นร้องขอความช่วยเหลือต่อชุมชน

29 ข้าถูกมองว่าเป็นพี่น้องกับหมาป่า

และเป็นเพื่อนกับนกเค้าแมว

30 ผิวของข้าดำและตกสะเก็ด

กายข้าร้อนรุ่มด้วยพิษไข้

31 เสียงพิณของข้ากลายเป็นเสียงคร่ำครวญ

และเสียงปี่ของข้ากลายเป็นเสียงโหยไห้

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOB/30-8b581b6548ad502c7ff565b4b161ce89.mp3?version_id=179—