Categories
สดุดี

สดุดี 81

(ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนองกิททีธ

ของอาสาฟ)

1 จงร้องเพลงชื่นบานถวายแด่พระเจ้าผู้ทรงเป็นกำลังของเรา

จงโห่ร้องสดุดีองค์พระเจ้าของยาโคบ

2 จงบรรเลงดนตรีเถิด จงเล่นรำมะนา

บรรเลงพิณใหญ่และพิณเขาคู่

3 จงเป่าแตรเขาแกะในวันขึ้นหนึ่งค่ำ

และเมื่อถึงวันเพ็ญและวันเทศกาลของเราทั้งหลาย

4 นี่คือกฎหมายสำหรับอิสราเอล

คือข้อปฏิบัติจากพระเจ้าของยาโคบ

5 เมื่อพระองค์ทรงจัดการกับอียิปต์

พระองค์ทรงสถาปนามันไว้เป็นกฎเกณฑ์สำหรับโยเซฟ

และเราได้ยินเสียงที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน

6 พระองค์ตรัสว่า “เราได้ขจัดภาระจากบ่าของพวกเขา

เราได้ปลดปล่อยพวกเขาจากงานตรากตรำ

7 ในยามทุกข์ลำเค็ญ เจ้าร้องเรียกเราและเราก็ได้ช่วยเจ้า

เราได้ตอบเจ้าจากเมฆทึบฟ้าคำรณ

เราได้ทดสอบเจ้าที่แหล่งน้ำแห่งเมรีบาห์

เสลาห์

8 “จงฟังเราเถิด ประชากรของเราเอ๋ย และเราจะเตือนเจ้า

อิสราเอลเอ๋ย ถ้าเพียงแต่เจ้าจะฟังเรา

9 อย่ามีพระอื่นใดท่ามกลางเจ้า

อย่ากราบไหว้พระต่างด้าว

10 เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์

จงอ้าปากให้กว้างเถิด เราจะป้อนเจ้าให้อิ่ม

11 “แต่ประชากรของเราไม่ยอมฟังเรา

อิสราเอลไม่ยอมจำนนต่อเรา

12 เราจึงปล่อยเขาไปตามจิตใจดื้อด้านของตน

ไปตามแผนการของเขาเอง

13 “ถ้าเพียงแต่ประชากรของเราจะฟังเรา

ถ้าอิสราเอลจะดำเนินตามทางของเรา

14 เราก็คงได้ปราบศัตรูของเขาไปโดยเร็ว

และตวัดมือสู้ข้าศึกของเขา!

15 บรรดาผู้ที่เกลียดชังองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสยบลงต่อหน้าพระองค์

และโทษทัณฑ์ของพวกเขาจะคงอยู่เป็นนิตย์

16 แต่เจ้าจะได้รับการเลี้ยงดูด้วยข้าวสาลีที่ดีที่สุด

เราจะให้เจ้าอิ่มเอมด้วยน้ำผึ้งจากศิลา”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/81-527560f0c8451c68177d5cf49d63a825.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 82

(บทสดุดีของอาสาฟ)

1 พระเจ้าทรงเป็นประธานในการประชุมใหญ่

พระองค์ทรงประกาศคำตัดสินท่ามกลาง “เทพเจ้าทั้งหลาย” ว่า

2 “พวกเจ้าจะตัดสินอย่างอยุติธรรม

และลำเอียงเข้าข้างคนชั่วไปนานสักเท่าใด?

เสลาห์

3 จงให้ความยุติธรรมแก่ผู้อ่อนแอและลูกกำพร้าพ่อ

จงผดุงสิทธิของผู้ตกทุกข์ได้ยากและผู้ถูกกดขี่ข่มเหง

4 จงช่วยกู้ผู้อ่อนแอและขัดสน

ปลดปล่อยเขาจากเงื้อมมือของคนชั่วร้าย

5 “พวกเขาไม่รู้ไม่เข้าใจอะไรเลย

พวกเขาต่างเดินวนเวียนอยู่ในความมืด

รากฐานทั้งมวลของโลกจึงสั่นคลอน

6 “เรากล่าวว่า ‘พวกเจ้าเป็น “เทพเจ้า”

และพวกเจ้าล้วนเป็นบุตรขององค์ผู้สูงสุด’

7 แต่เจ้าจะตายเยี่ยงมนุษย์ปุถุชน

เจ้าจะล้มลงเหมือนเจ้านายคนอื่นๆ ทุกคน”

8 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงลุกขึ้นพิพากษาโลก

เพราะมวลประชาชาติเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/82-38dcb36d07108ac837fb25d72bee4e05.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 83

(บทเพลง บทสดุดีของอาสาฟ)

1 ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าทรงเมินเฉย

ขออย่าทรงเงียบ ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าทรงนิ่งอยู่

2 ขอทรงดูว่าศัตรูของพระองค์โกลาหลวุ่นวายเพียงใด

บรรดาปฏิปักษ์ของพระองค์เชิดหน้าชูคอแค่ไหน

3 ด้วยเล่ห์เพทุบาย พวกเขาคบคิดกันเล่นงานคนของพระองค์

พวกเขาวางแผนจัดการกับผู้ที่พระองค์ทรงทะนุถนอม

4 เขาพูดกันว่า “มาเถอะ ให้เรากวาดล้างอิสราเอลให้สิ้นชาติ

จะได้สิ้นชื่อไม่มีใครนึกถึงอีกเลย”

5 พวกเขาพร้อมใจกันวางแผน

พวกเขารวมตัวเป็นพันธมิตรต่อต้านพระองค์

6 ได้แก่ชาวเอโดม อิชมาเอล

โมอับ และฮาการ์

7 ชาวเกบาลอัมโมน อามาเลข

ฟีลิสเตีย และไทระ

8 แม้แต่อัสซีเรียก็ยังเข้ามาสมทบด้วย

เพื่อเสริมกำลังลูกหลานของโลท

เสลาห์

9 ขอทรงกระทำต่อพวกเขาเหมือนที่ทรงกระทำต่อชาวมีเดียน

เหมือนอย่างที่ทรงกระทำต่อสิเสราและยาบินที่แม่น้ำคีโชน

10 ผู้ซึ่งพินาศย่อยยับที่เอนโดร์

และกลายเป็นเหมือนขยะบนพื้น

11 ขอทรงทำให้ขุนนางทั้งหลายของพวกเขาเป็นเหมือนโอเรบและเศเอบ

ให้เหล่าเจ้านายของเขาเป็นเหมือนเศบาห์ และศัลมุนนา

12 ผู้ซึ่งกล่าวว่า “ให้เรายึดทุ่งหญ้าของพระเจ้า

เป็นกรรมสิทธิ์”

13 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงกระทำให้พวกเขาเป็นเหมือนวัชพืช

เป็นเหมือนแกลบที่ปลิวไปตามลม

14 เหมือนไฟเผาผลาญป่าไม้

หรือเปลวไฟที่ทำให้ภูเขาลุกโชน

15 ดังนั้นขอทรงไล่ต้อนพวกเขาด้วยพายุ

ทำให้พวกเขาครั่นคร้ามด้วยมรสุมของพระองค์

16 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอให้ความอัปยศอดสูกลบหน้าพวกเขา

เพื่อพวกเขาจะได้แสวงหาพระนามของพระองค์

17 ขอให้พวกเขาท้อแท้และอับอายอยู่ร่ำไป

ขอให้พวกเขาย่อยยับในความอดสู

18 ให้พวกเขารู้ว่า พระองค์ผู้ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์

พระองค์แต่ผู้เดียวที่ทรงเป็นองค์ผู้สูงสุดเหนือมวลพิภพ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/83-9cec4728dff075a52d05803200ae7481.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 84

(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนองกิททีธ

บทสดุดีของบุตรโคราห์)

1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

ที่ประทับของพระองค์งดงามยิ่งนัก!

2 จิตวิญญาณของข้าพระองค์โหยหา

ปรารถนาที่จะเข้ามายังพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า

กายใจของข้าพระองค์ร่ำร้องถวิลหาพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่

3 แม้แต่นกกระจอกยังหาบ้านได้

และนกนางแอ่นยังพบที่ที่จะทำรังพักพิง

และกกลูกอ่อนของมัน

คือที่ใกล้ๆ แท่นบูชาของพระองค์

ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จอมราชัน และพระเจ้าของข้าพระองค์

4 ความสุขมีแก่ผู้ที่พำนักในพระนิเวศของพระองค์

พวกเขาสรรเสริญพระองค์ตลอดเวลา

เสลาห์

5 ความสุขมีแก่ผู้ที่กำลังของเขาอยู่ในพระองค์

ผู้ซึ่งใฝ่ใจมุ่งหน้าไปยังเยรูซาเล็ม

6 เมื่อเขาเดินผ่านหุบเขาแห่งน้ำตา

พวกเขาทำให้มันกลายเป็นแหล่งน้ำพุ

และฝนฤดูใบไม้ร่วงก็ทำให้ที่นั่นเต็มไปด้วยแอ่งน้ำ

7 พวกเขามีกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

จนแต่ละคนได้มาเข้าเฝ้าพระเจ้าในศิโยน

8 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ โปรดสดับฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าของยาโคบ ขอทรงฟังเถิด

เสลาห์

9 ข้าแต่พระเจ้า โปรดทอดพระเนตรโล่ของข้าพระองค์ทั้งหลาย

ขอทรงมองดูผู้ที่ทรงเจิมตั้งไว้ด้วยความโปรดปราน

10 วันเดียวในพระนิเวศของพระองค์

ก็ดีกว่าพันวันในที่อื่น

ข้าพเจ้าขอเป็นคนเฝ้าประตูประจำพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพเจ้า

ดีกว่าอยู่ในเต็นท์ของเหล่าคนชั่ว

11 เพราะพระเจ้าพระยาห์เวห์ทรงเป็นดวงตะวันและโล่กำบัง

องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานพระคุณและเกียรติ

ไม่มีสิ่งดีอันใดที่ทรงหน่วงเหนี่ยวไว้

จากผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ที่ติ

12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

ความสุขมีแก่บรรดาผู้ที่วางใจในพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/84-53d7aad16c4adb9bd22ebc686de09563.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 85

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของบุตรโคราห์)

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงสำแดงความโปรดปรานแก่ดินแดนของพระองค์

และทรงให้ยาโคบคืนสู่สภาพดี

2 พระองค์ทรงอภัยความชั่วช้าของเหล่าประชากรของพระองค์

ทรงลบมลทินบาปทั้งสิ้นของเขา

เสลาห์

3 พระองค์ทรงระงับพระพิโรธ

และหันเหจากความกริ้วโกรธของพระองค์

4 ข้าแต่พระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอด ขอทรงนำข้าพระองค์ทั้งหลายกลับสู่สภาพดีอีกครั้ง

ขอทรงระงับความขุ่นพระทัยต่อข้าพระองค์ทั้งหลายเถิด

5 พระองค์จะกริ้วอยู่เป็นนิตย์หรือ?

พระองค์จะทรงพระพิโรธสืบไปทุกชั่วอายุอย่างนั้นหรือ?

6 พระองค์จะไม่ทรงฟื้นฟูข้าพระองค์ทั้งหลายอีกครั้งหรือ?

เพื่อประชากรของพระองค์จะชื่นชมยินดีในพระองค์

7 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงสำแดงความรักมั่นคงของพระองค์

และโปรดประทานความรอดแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย

8 ข้าพเจ้าจะฟังสิ่งที่พระเจ้าพระยาห์เวห์จะตรัส

พระองค์ทรงสัญญาว่าจะประทานสันติสุขแก่ประชากรผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์

แต่อย่าให้พวกเขาหวนกลับไปหาความโง่เขลาอีก

9 แน่ทีเดียว ความรอดของพระองค์อยู่ใกล้บรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์

เพื่อพระเกียรติสิริของพระองค์จะดำรงอยู่ในแผ่นดินของเรา

10 ความรักและความซื่อสัตย์มาพบกัน

ความชอบธรรมและสันติสุขมาจุมพิตกัน

11 ความซื่อสัตย์พุ่งขึ้นจากแผ่นดินโลก

และความชอบธรรมมองลงมาจากฟ้าสวรรค์

12 แท้จริงแล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานสิ่งที่ดี

แผ่นดินของเราจะให้พืชผลอุดม

13 ความชอบธรรมนำหน้าพระองค์

เพื่อเตรียมทางสำหรับย่างพระบาทของพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/85-6dd8aabc8a5748fc16af60d27a4683dd.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 86

(คำอธิษฐานของดาวิด)

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงสดับฟังและตอบข้าพระองค์ด้วยเถิด

เพราะข้าพระองค์ยากจนและขัดสน

2 ขอทรงปกป้องชีวิตของข้าพระองค์เพราะข้าพระองค์อุทิศตนเพื่อพระองค์

พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์

โปรดช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่งวางใจในพระองค์

3 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงเมตตาข้าพระองค์

เพราะข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์วันยังค่ำ

4 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดประทานความชื่นชมยินดีแก่ผู้รับใช้ของพระองค์

เพราะข้าพระองค์ชูจิตวิญญาณของข้าพระองค์ขึ้นต่อพระองค์

5 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงแสนดีและพร้อมที่จะอภัยโทษ

ทรงเปี่ยมด้วยความรักมั่นคงต่อทุกคนที่ร้องทูลพระองค์

6 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์เถิด

ขอทรงสดับคำทูลวิงวอนขอความเมตตาของข้าพระองค์

7 ในยามเดือดร้อน ข้าพระองค์จะร้องทูลพระองค์

เพราะพระองค์จะทรงตอบข้าพระองค์

8 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ท่ามกลางพระทั้งหลาย ไม่มีพระองค์ใดเสมอเหมือนพระองค์

และไม่มีกิจใดๆ เทียบเท่าพระราชกิจของพระองค์

9 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า มวลประชาชาติซึ่งพระองค์ทรงสร้าง

จะมากราบนมัสการต่อหน้าพระองค์

พวกเขาจะถวายพระเกียรติสิริแด่พระนามของพระองค์

10 เพราะพระองค์ทรงยิ่งใหญ่และกระทำการอัศจรรย์

พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

11 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงสอนวิถีทางของพระองค์แก่ข้าพระองค์

เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินในความจริงของพระองค์

ขอทรงประทานจิตใจแน่วแน่

เพื่อข้าพระองค์จะยำเกรงพระนามของพระองค์

12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์หมดหัวใจ

ข้าพระองค์จะเทิดทูนพระนามของพระองค์เป็นนิตย์

13 เพราะความรักที่ทรงมีต่อข้าพระองค์นั้นใหญ่หลวงนัก

พระองค์ทรงกอบกู้ข้าพระองค์จากห้วงลึกของหลุมฝังศพ

14 ข้าแต่พระเจ้า คนยโสโอหังโจมตีข้าพระองค์

กลุ่มคนโหดร้ายหมายเอาชีวิตข้าพระองค์

พวกเขาไม่ยำเกรงพระองค์

15 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเมตตากรุณาและทรงพระคุณ

ทรงพระพิโรธช้า เปี่ยมด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์

16 ขอทรงหันมาและเมตตาข้าพระองค์

ประทานกำลังของพระองค์แก่ผู้รับใช้ของพระองค์

และช่วยบุตรของหญิงรับใช้ของพระองค์ด้วยเถิด

17 ขอประทานเครื่องหมายแห่งความโปรดปรานของพระองค์

เพื่อศัตรูของข้าพระองค์จะได้อับอาย

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงช่วยและทรงปลอบโยนข้าพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/86-9dbcab10a9943d19b0c58d1a4919c0a9.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 87

(บทสดุดีของบุตรโคราห์ บทเพลง)

1 พระองค์ทรงวางรากฐานเมืองของพระองค์ไว้บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์

2 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักประตูเมืองศิโยน

ยิ่งกว่าที่พำนักใดๆ ของยาโคบ

3 นครของพระเจ้าเอ๋ย

เจ้าจะเป็นที่ยกย่อง

เสลาห์

4 “เราจะเอ่ยถึงราหับและบาบิโลน

ในหมู่ผู้ที่รู้จักเรา

จะเอ่ยถึงฟีลิสเตียและไทระพร้อมกับคูช

และจะกล่าวว่า ‘คนนี้เกิดในศิโยน’ ”

5 แท้จริง ผู้คนจะกล่าวถึงศิโยนว่า

“คนนั้นคนนี้เกิดในศิโยน

และองค์ผู้สูงสุดจะทรงสถาปนานครนี้ไว้เอง”

6 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงบันทึกลงในทะเบียนชนชาติต่างๆ ว่า

“คนนี้เกิดในศิโยน”

เสลาห์

7 ขณะบรรเลงเพลง พวกเขาจะขับร้องว่า

“น้ำพุทั้งสิ้นของข้าพเจ้าอยู่ในนครนี้”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/87-156c9d26b7d22b1a9bb79f69c5665fd1.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 88

(บทเพลง บทสดุดีของบุตรโคราห์ ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนองมาหะลัทเลอันโนท

มัสคิล

ของเฮมานวงศ์เอสราห์)

1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด

ข้าพระองค์เฝ้าร้องทูลต่อหน้าพระองค์ทั้งวันทั้งคืน

2 ขอให้คำอธิษฐานของข้าพระองค์ขึ้นมาถึงต่อหน้าพระองค์

โปรดเอียงพระกรรณสดับคำร้องทูลของข้าพระองค์

3 เพราะจิตวิญญาณของข้าพระองค์ทุกข์ร้อนยิ่งนัก

และชีวิตของข้าพระองค์เฉียดใกล้หลุมฝังศพ

4 ข้าพระองค์ถูกนับรวมอยู่ในกลุ่มคนที่ลงสู่หลุม

ข้าพระองค์เหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง

5 ข้าพระองค์ถูกแยกไว้ในหมู่คนตาย

เหมือนผู้ที่ถูกฆ่าซึ่งนอนอยู่ในหลุมฝังศพ

ผู้ที่พระองค์จะไม่ทรงนึกถึงอีกต่อไป

ผู้ที่พระองค์จะไม่ทรงเหลียวแลอีกต่อไป

6 พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์จมลงในหลุมที่ลึกที่สุด

ในห้วงลึกที่มืดมิดที่สุด

7 พระพิโรธของพระองค์ตกหนักอยู่เหนือข้าพระองค์

พระองค์ทรงให้กระแสคลื่นของพระองค์ซัดท่วมข้าพระองค์

เสลาห์

8 พระองค์ทรงทำให้เพื่อนสนิทตีตัวออกห่างจากข้าพระองค์

ทรงทำให้ข้าพระองค์น่ารังเกียจชิงชัง

ข้าพระองค์ถูกกักกันและหมดทางหนี

9 ดวงตาของข้าพระองค์หม่นหมองเพราะความทุกข์โศก

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทูลวิงวอนต่อพระองค์ทุกวัน

ข้าพระองค์ยกมือต่อพระองค์

10 พระองค์ทรงสำแดงการอัศจรรย์แก่คนตายหรือ?

ผู้ที่ตายแล้วลุกขึ้นสรรเสริญพระองค์หรือ?

เสลาห์

11 ความรักมั่นคงของพระองค์ถูกประกาศในหลุมฝังศพหรือ?

ความซื่อสัตย์ของพระองค์ถูกประกาศในแดนพินาศหรือ?

12 การอัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่รู้จักในแดนแห่งความมืดมิดหรือ?

พระราชกิจอันชอบธรรมของพระองค์เป็นที่รู้จักในแดนที่ถูกลืมหรือ?

13 แต่ข้าพระองค์ร้องทูลให้ทรงช่วย ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า

ยามเช้าคำอธิษฐานของข้าพระองค์ขึ้นถึงพระองค์

14 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเหตุใดทรงทอดทิ้งข้าพระองค์?

เหตุใดทรงซ่อนพระพักตร์หนีจากข้าพระองค์?

15 ตั้งแต่เยาว์วัย ข้าพระองค์ทุกข์ทรมานและเฉียดใกล้ความตาย

ข้าพระองค์เผชิญความน่าสะพรึงกลัวของพระองค์และหมดหวัง

16 พระพิโรธของพระองค์ท่วมท้นข้าพระองค์

ความน่าสะพรึงกลัวของพระองค์ทำลายข้าพระองค์

17 สิ่งเหล่านั้นโหมกระหน่ำข้าพระองค์ตลอดทั้งวันเหมือนน้ำหลาก

ท่วมข้าพระองค์จนมิด

18 พระองค์ทรงพรากคนรัก และญาติมิตรไปหมด

เหลือแต่ความมืดที่เป็นเพื่อนสนิทของข้าพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/88-0837d3e26e96e34042f943c80b879472.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 89

(มัสคิล

ของเอธาน วงศ์เอสราห์)

1 ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดนิรันดร์

ปากของข้าพระองค์จะประกาศให้คนทุกชั่วอายุทราบถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์

2 ข้าพระองค์จะประกาศว่าความรักของพระองค์นั้นยืนยงมั่นคงนิรันดร์

ประกาศว่าพระองค์ทรงสถาปนาความซื่อสัตย์ของพระองค์ไว้ในฟ้าสวรรค์นั่นเอง

3 พระองค์ตรัสว่า “เราได้กระทำพันธสัญญากับผู้ซึ่งเราเลือกสรร

เราได้ปฏิญาณต่อดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า

4 ‘เราจะสถาปนาวงศ์วานของเจ้าตลอดไป

และให้บัลลังก์ของเจ้ายืนยงอยู่ทุกชั่วอายุ’ ”

เสลาห์

5 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าฟ้าสวรรค์สรรเสริญการอัศจรรย์ของพระองค์

และสรรเสริญความซื่อสัตย์ของพระองค์ในที่ชุมนุมของผู้บริสุทธิ์ด้วย

6 เพราะตลอดทั่วฟ้าเบื้องบน ผู้ใดเล่าเสมอเหมือนองค์พระผู้เป็นเจ้า?

ในหมู่ชาวสวรรค์ทั้งปวง ใครจะเปรียบกับองค์พระผู้เป็นเจ้าได้?

7 พระเจ้าทรงเป็นที่ยำเกรงอย่างยิ่งในที่ประชุมของผู้บริสุทธิ์

พระองค์ทรงน่าครั่นคร้ามเกรงขามยิ่งกว่าบรรดาผู้ที่อยู่ล้อมรอบพระองค์ทั้งหมด

8 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์?

ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเดชานุภาพ และความซื่อสัตย์ของพระองค์รายล้อมพระองค์

9 พระองค์ทรงครอบครองอยู่เหนือท้องทะเลที่ปั่นป่วน

เมื่อคลื่นซัดโหมกระหน่ำ พระองค์ทรงทำให้สงบ

10 พระองค์ทรงบดขยี้ราหับดั่งผู้ที่ถูกฆ่า

และทรงทำให้ศัตรูของพระองค์กระเจิด

กระเจิงไปด้วยพระหัตถ์อันเข้มแข็ง

11 ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ แผ่นดินโลกก็เป็นของพระองค์ด้วย

พระองค์ทรงสร้างโลกและสรรพสิ่งในโลก

12 พระองค์ทรงสร้างทิศเหนือและทิศใต้

ภูเขาทาโบร์ และภูเขาเฮอร์โมนแซ่ซ้องพระนามของพระองค์อย่างชื่นบาน

13 พระกรของพระองค์ทรงฤทธานุภาพ

พระหัตถ์ของพระองค์แข็งแกร่ง พระหัตถ์ขวาของพระองค์ก็เป็นที่เชิดชู

14 ความชอบธรรมและความยุติธรรมคือฐานแห่งราชบัลลังก์ของพระองค์

ความรักและความซื่อสัตย์นำเสด็จพระองค์

15 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าความสุขมีแก่บรรดาผู้ที่รู้จักโห่ร้องสรรเสริญพระองค์

คือผู้ที่เดินในความสว่างต่อหน้าพระองค์

16 พวกเขายินดีในพระนามของพระองค์ตลอดทั้งวัน

ชื่นชมในความชอบธรรมของพระองค์

17 เพราะพระองค์ทรงเป็นเกียรติสิริและเป็นกำลังของพวกเขา

โดยความโปรดปรานของพระองค์ พระองค์ทรงเชิดชูพลังอำนาจของข้าพระองค์ทั้งหลาย

18 แน่ทีเดียว โล่ของเราทั้งหลายเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า

กษัตริย์ของเราเป็นขององค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

19 ครั้งหนึ่งพระองค์ตรัสผ่านทางนิมิต

กับเหล่าประชากรผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์ว่า

“เราได้ประทานกำลังแก่นักรบผู้หนึ่ง

เราได้เชิดชูชายหนุ่มคนหนึ่งจากหมู่ชน

20 เราได้พบดาวิดผู้รับใช้ของเรา

เราเจิมเขาด้วยน้ำมันบริสุทธิ์ของเรา

21 มือของเราจะค้ำชูเขา

แน่ทีเดียว แขนของเราจะช่วยให้เขาเข้มแข็ง

22 ข้าศึกจะไม่มีชัยเหนือเขา

คนชั่วร้ายจะไม่กดขี่ข่มเหงเขา

23 เราจะขยี้คู่อริของเขาต่อหน้าเขา

และโค่นล้มบรรดาปฏิปักษ์ของเขา

24 ความรักมั่นคงของเราจะคงอยู่กับเขา

พลังอำนาจของเขาจะได้รับการเชิดชูโดยนามของเรา

25 เราจะวางมือของเขาเหนือทะเล

วางมือขวาของเขาเหนือแม่น้ำทั้งหลาย

26 เขาจะร้องต่อเราว่า ‘พระองค์ทรงเป็นบิดา

เป็นพระเจ้า พระศิลา และพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์’

27 เราจะตั้งเขาเป็นบุตรหัวปีของเรา

ให้เขาได้รับการยกย่องเทิดทูนสูงสุดในหมู่กษัตริย์ของแผ่นดินโลก

28 เราจะถนอมความรักของเราที่มีต่อเขาไปตลอดกาล

และพันธสัญญาของเราต่อเขาจะไม่มีวันสิ้นสุด

29 เราจะสถาปนาเชื้อสายของเขาไว้เป็นนิตย์

บัลลังก์ของเขาจะยืนยงอยู่คู่ฟ้าสวรรค์

30 “หากลูกหลานของเขาละทิ้งบทบัญญัติของเรา

ไม่ได้ประพฤติตามกฎเกณฑ์ของเรา

31 หากพวกเขาฝ่าฝืนกฎหมายของเรา

ไม่ทำตามคำบัญชาของเรา

32 เราจะลงโทษบาปของเขาด้วยไม้เรียว

และเฆี่ยนตีเขาเพราะความชั่วช้า

33 แต่เราจะไม่ริบความรักของเราคืนจากเขา

และจะไม่มีวันผิดคำมั่นสัญญาของเรา

34 เราจะไม่ละเมิดพันธสัญญาของเรา

เราจะไม่กลับกลอกคืนคำ

35 เราได้ลั่นวาจาปฏิญาณเป็นคำขาดโดยความบริสุทธิ์ของเรา

และเราจะไม่มุสาต่อดาวิด

36 คือเชื้อสายของเขาจะดำรงอยู่นิรันดร์

และบัลลังก์ของเขาจะยั่งยืนต่อหน้าเราดุจดวงอาทิตย์

37 จะตั้งมั่นคงอยู่ตลอดกาลดั่งดวงจันทร์

ซึ่งเป็นพยานที่ซื่อสัตย์ในท้องฟ้า”

เสลาห์

38 แต่บัดนี้พระองค์ได้ทรงปฏิเสธและได้เหวี่ยงข้าพระองค์ทิ้งแล้ว

พระองค์ได้ทรงพระพิโรธอย่างยิ่งต่อผู้ที่ทรงเจิมตั้งไว้

39 พระองค์ได้ทรงยกเลิกพันธสัญญาที่ให้ไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์

และได้ทรงโยนมงกุฎของเขาลงคลุกฝุ่นให้เป็นมลทิน

40 พระองค์ได้ทรงทลายกำแพงทั้งหมดของเขา

และปล่อยให้ที่มั่นของเขากลายเป็นซากปรักหักพัง

41 ทุกคนที่ผ่านไปมาได้ปล้นเขา

เขากลายเป็นขี้ปากของเพื่อนบ้าน

42 พระองค์ทรงยกชูมือขวาของปฏิปักษ์ของเขา

พระองค์ทรงทำให้เหล่าศัตรูของเขาเปรมปรีดิ์

43 พระองค์ทรงพลิกผันคมดาบของเขา

และไม่ได้สนับสนุนเขาในศึกสงคราม

44 พระองค์ทรงยุติความโอ่อ่าตระการของเขา

และพลิกคว่ำบัลลังก์ของเขาลงกับพื้น

45 พระองค์ทรงบั่นทอนวัยฉกรรจ์ของเขา

และให้เขาต้องอัปยศอดสู

เสลาห์

46 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าอีกนานเท่าใด? พระองค์จะทรงซ่อนพระองค์ตลอดกาลหรือ?

อีกนานเท่าใดที่พระพิโรธของพระองค์จะเผาผลาญดุจไฟ?

47 ขอทรงระลึกว่าชีวิตของข้าพระองค์ผ่านไปเร็วเพียงใด

พระองค์ทรงสร้างมวลมนุษย์ไว้อย่างเปล่าประโยชน์ยิ่งนัก!

48 ใครเล่าที่อยู่ค้ำฟ้าและไม่ต้องตาย

หรือใครเล่าที่หนีพ้นอำนาจของหลุมฝังศพได้?

เสลาห์

49 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความรักยิ่งใหญ่ในกาลก่อนของพระองค์

ซึ่งทรงสัญญาไว้แก่ดาวิดด้วยความซื่อสัตย์ของพระองค์นั้นอยู่ที่ไหน?

50 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงระลึกว่าผู้รับใช้ของพระองค์ถูกเย้ยหยันเพียงใด

และข้าพระองค์ต้องทนกล้ำกลืนคำสบประมาทของประชาชาติทั้งปวงไว้ในใจมากเพียงใด

51 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทนคำเยาะเย้ยที่ศัตรูของพระองค์ถากถาง

เขาได้เหยียดหยามทุกย่างก้าวของผู้ที่พระองค์ทรงเจิมตั้งไว้

52 ขอถวายสรรเสริญแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดนิรันดร!

อาเมนและอาเมน

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/89-f873aefbe2aebc4accaea6c1c261b54e.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 90

(คำอธิษฐานของโมเสส คนของพระเจ้า)

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นที่พักพิงของข้าพระองค์ทั้งหลาย

ตลอดทุกชั่วอายุ

2 ก่อนภูเขาถือกำเนิด

ก่อนที่พระองค์จะทรงให้แผ่นดินและโลกเกิดขึ้น

พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าตั้งแต่นิรันดร์กาล ตลอดชั่วนิรันดร์กาล

3 พระองค์ทรงทำให้มนุษย์กลับคืนสู่ธุลีดิน

โดยตรัสว่า “บรรดาบุตรของมนุษย์เอ๋ย จงคืนสู่ธุลีดินเถิด”

4 เพราะพันปีในสายพระเนตรของพระองค์เป็นเหมือนวันเดียวที่เพิ่งผ่านไป

หรือเหมือนชั่วยามเดียวในเวลากลางคืน

5 พระองค์ทรงกวาดมนุษย์ไปในความตาย

พวกเขาเป็นเหมือนหญ้าเขียวสดในยามเช้า

6 แม้รุ่งเช้ามันงอกขึ้นมาใหม่

แต่เมื่อตกเย็นก็เหี่ยวเฉาโรยราไป

7 ข้าพระองค์ทั้งหลายถูกเผาผลาญโดยพระพิโรธของพระองค์

และอกสั่นขวัญแขวนโดยความกริ้วของพระองค์

8 พระองค์ทรงตีแผ่ความชั่วช้าต่างๆ ของข้าพระองค์ทั้งหลายต่อหน้าพระองค์

บาปต่างๆ ที่ซ่อนเร้นประจักษ์แจ้งในความสว่างต่อหน้าพระองค์

9 วันคืนทั้งสิ้นของข้าพระองค์ทั้งหลายหมดไปภายใต้พระพิโรธของพระองค์

ปีเดือนของข้าพระองค์ทั้งหลายจบลงด้วยการครวญคราง

10 ช่วงชีวิตของข้าพระองค์ทั้งหลายคือเจ็ดสิบปี

หรือแปดสิบปีแล้วแต่กำลัง

กระนั้นชั่วชีวิตก็มีแต่ความเดือดร้อนโศกเศร้า

เพราะไม่ช้าก็ผ่านพ้นและเราก็จากไป

11 ผู้ใดเล่าที่ทราบถึงอานุภาพแห่งพระพิโรธของพระองค์?

เพราะพระพิโรธของพระองค์นั้นใหญ่หลวงพอๆ กับความน่ายำเกรงของพระองค์

12 ขอทรงสอนข้าพระองค์ทั้งหลายให้นับวันคืนของตน

เพื่อจะได้มีจิตใจที่กอปรด้วยสติปัญญา

13 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า! ขอทรงกรุณาเถิด จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานสักเท่าใด?

ขอทรงเอ็นดูสงสารบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์

14 ขอให้ข้าพระองค์ทั้งหลายอิ่มเอมด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ในยามเช้า

เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะร้องเพลงด้วยความชื่นชมยินดีและปลื้มปีติตลอดชั่วชีวิต

15 โปรดประทานวันเวลาอันผาสุกยืนยาว

ชดเชยกับปีเดือนที่พระองค์ได้ทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์โศก

16 ขอทรงสำแดงพระราชกิจของพระองค์แก่ผู้รับใช้ของพระองค์

สำแดงพระบารมีของพระองค์แก่บรรดาลูกหลานของพวกเขา

17 ขอให้ความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย

ขอทรงสถาปนาการงานที่มือของข้าพระองค์ทั้งหลายทำเถิดพระเจ้าข้า

ขอทรงสถาปนาการงานที่มือของข้าพระองค์ทั้งหลายทำ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/90-e3f1113eacc7c7b71d35c99157157fb0.mp3?version_id=179—