Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 41

องค์พระผู้ช่วยแห่งอิสราเอล

1 “เกาะทั้งหลายเอ๋ย จงเงียบและฟังเรา!

ให้ประชาชาติต่างๆ ฟื้นกำลังขึ้นใหม่!

ให้พวกเขาก้าวออกมาพูดข้างหน้านี้

ให้เรามาพบกันในสถานพิพากษา

2 “ใครหนอดลใจบุคคลผู้นี้จากตะวันออก

ให้มาทำหน้าที่ของตนอย่างชอบธรรม?

พระองค์ทรงมอบประชาชาติต่างๆ แก่เขา

และสยบบรรดากษัตริย์ต่อหน้าเขา

พระองค์ทรงใช้ดาบของเขาฟาดฟันกษัตริย์เหล่านั้นเป็นธุลี

คันธนูของเขาทำให้กษัตริย์เหล่านั้นเหมือนแกลบปลิวฟุ้งไป

3 เขาตามล่าคนเหล่านั้นไปโดยไม่ได้รับอันตราย

ตามเส้นทางซึ่งเขาไม่เคยเหยียบย่างมาก่อน

4 ใครหนอกระทำเช่นนี้จนสำเร็จ

ที่เป็นผู้เรียกคนในชั่วอายุต่างๆ มาตั้งแต่ต้น?

เรา พระยาห์เวห์เป็นปฐมและอวสาน

เราคือผู้นั้น”

5 เกาะทั้งหลายเห็นแล้วก็หวาดกลัว

สุดปลายแผ่นดินโลกสั่นสะท้าน

พวกเขาเข้ามาใกล้และออกมาข้างหน้า

6 ต่างช่วยเหลือกัน

และกล่าวแก่พี่น้องของตนว่า “เข้มแข็งเข้าไว้!”

7 ช่างฝีมือให้กำลังใจช่างทอง

ผู้ใช้ค้อนก็ให้กำลังใจผู้ตีทั่ง

เขากล่าวถึงงานบัดกรีว่า “ดี”

เขาเอาตะปูตอกรูปเคารพ มันจะได้ไม่ล้มคว่ำลง

8 “ส่วนเจ้า อิสราเอลผู้รับใช้ของเรา

ยาโคบผู้ซึ่งเราได้เลือกสรรไว้

เจ้าผู้เป็นลูกหลานของอับราฮัมสหายของเรา

9 เราพาเจ้ามาจากสุดปลายแผ่นดินโลก

เราเรียกเจ้ามาจากมุมไกลโพ้นที่สุด

เราบอกเจ้าว่า ‘เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา’

เราได้เลือกสรรเจ้า และไม่เคยทอดทิ้งเจ้า

10 ดังนั้น อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า

อย่าท้อแท้ เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า

เราจะทำให้เจ้าเข้มแข็งขึ้นและจะช่วยเจ้า

เราจะชูเจ้าไว้ด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา

11 “บรรดาผู้ที่เกรี้ยวกราดต่อเจ้า

จะอับอายขายหน้าและอัปยศอดสูอย่างแน่นอน

ผู้ที่ต่อต้านเจ้า

จะสิ้นค่าและพินาศไป

12 ถึงแม้เจ้าจะมองหาศัตรู

เจ้าก็จะไม่พบ

บรรดาผู้ที่รบกับเจ้า

จะหมดค่าอย่างสิ้นเชิง

13 เพราะเราคือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า

ผู้จับมือขวาของเจ้าไว้

และบอกกับเจ้าว่า อย่ากลัวเลย

เราจะช่วยเจ้า

14 อย่ากลัวเลย เจ้าหนอนยาโคบเอ๋ย

อิสราเอลน้อยๆ เอ๋ย

เพราะเราเองจะช่วยเจ้า”องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ไถ่เจ้า

15 “ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าเป็นดั่งเลื่อนนวดข้าว

ที่ใหม่และคม มีฟันหลายซี่

เจ้าจะนวดและบดขยี้ภูเขาต่างๆ

ทำให้เนินเขาทั้งหลายเป็นเหมือนแกลบ

16 เจ้าจะซัดมัน ลมจะหอบมันขึ้น

และพายุจะพัดมันกระจายไป

ส่วนเจ้าจะปีติยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า

และภาคภูมิใจในองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

17 “คนยากไร้และขัดสนเสาะหาน้ำดื่ม แต่ไม่มีเลย

ลิ้นของเขาแห้งผากด้วยความกระหาย

แต่เรา พระยาห์เวห์จะตอบเขา

เรา พระเจ้าแห่งอิสราเอลจะไม่ทอดทิ้งพวกเขาเลย

18 เราจะทำให้แม่น้ำไหลบนที่สูงซึ่งแห้งแล้ง

และให้มีธารน้ำพุในหุบเขา

เราจะเปลี่ยนถิ่นกันดารเป็นสระน้ำ

และเปลี่ยนผืนดินแตกระแหงให้กลายเป็นธารน้ำพุ

19 เราจะปลูกต้นสนซีดาร์และต้นกระถินเทศ

ต้นน้ำมันเขียวและต้นมะกอกในทะเลทราย

และเราจะปลูกต้นสนชนิดต่างๆ ไว้ในถิ่นกันดาร

ทั้งสนเฟอร์และสนไซเปรสด้วย

20 เพื่อคนทั้งปวงจะเห็นและรู้

จะพิเคราะห์และเข้าใจ

ว่าพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำการนี้

องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลทรงสร้างมันขึ้น”

21 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงเสนอคดีความของเจ้า”

องค์กษัตริย์ของยาโคบตรัสว่า “จงแสดงข้อพิสูจน์ของเจ้ามาเถิด”

22 “จงนำบรรดารูปเคารพของเจ้าเข้ามาบอกพวกเรา

ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น

จงเล่าความเป็นไปแต่เดิม

เพื่อเราจะพิจารณาและรับรู้จุดจบ

หรือจะเล่าให้พวกเราฟังถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น

23 จงบอกพวกเรามาเถิดว่าอนาคตจะมีอะไรบ้าง

เพื่อเราจะรู้ว่าพวกเจ้าเป็นเทพเจ้า

ทำอะไรสักอย่างสิ จะดีหรือชั่วก็ได้

เพื่อเราจะได้ท้อแท้และหวาดหวั่น

24 แต่พวกเจ้าต่ำต้อยด้อยค่ายิ่งกว่าศูนย์

และผลงานของเจ้าล้วนไร้ค่า

ผู้ที่เลือกเจ้าก็น่าชิงชัง

25 “เราได้เรียกบุคคลผู้หนึ่งจากทางเหนือ และเขาก็มา

เขามาจากที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เขาร้องเรียกนามของเรา

เขาเหยียบย่ำบรรดาผู้ปกครองเหมือนย่ำปูน

ราวกับช่างปั้นย่ำดินเหนียว

26 ใครเล่าบอกถึงสิ่งนี้ให้เรารู้มาตั้งแต่ต้น

หรือบอกไว้ตั้งแต่แรก เราจึงพูดได้ว่า ‘ถูกอย่างที่เขาบอก’?

ไม่มีใครพูดไว้

ไม่มีใครแจ้งไว้ก่อน

ไม่มีใครได้ยินอะไรจากเจ้าเลย

27 เราเป็นคนแรกที่บอกศิโยนว่า ‘ดูเถิด พวกเขามาแล้ว!’

เรามอบทูตแห่งข่าวดีให้เยรูซาเล็ม

28 เรามองดูแต่ไม่มีใครสักคน

ไม่มีแม้สักคนเดียวในพวกเขาที่จะให้คำปรึกษาแนะนำ

ไม่มีใครตอบเมื่อเราถาม

29 ดูเถิด พวกเขาล้วนแต่จอมปลอม!

การกระทำของเขาล้วนไร้ค่า

เทวรูปต่างๆ ของเขาเป็นเพียงลมและความสับสน

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/41-a634589022aea42fb6e48be96f836373.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 42

ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

1 “นี่คือผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเราเชิดชู

ผู้ที่เราเลือกสรรไว้ ซึ่งเราชื่นชม

เราจะส่งวิญญาณของเราลงมาเหนือเขา

และเขาจะนำความยุติธรรมไปถึงบรรดาประชาชาติ

2 เขาจะไม่ตะโกนหรือส่งเสียงร้อง

ไม่ส่งเสียงดังกลางถนน

3 ไม้อ้อช้ำแล้ว เขาจะไม่หัก

ไส้ตะเกียงที่ริบหรี่ เขาจะไม่ดับ

เขาจะนำความยุติธรรมมาอย่างซื่อสัตย์

4 เขาจะไม่สะดุดหรือท้อถอย

จนกว่าจะได้สถาปนาความยุติธรรมขึ้นในโลก

หมู่เกาะจะฝากความหวังไว้ที่บทบัญญัติของเขา”

5 นี่คือพระดำรัสของพระเจ้าพระยาห์เวห์

พระองค์ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และคลี่มันออก

ผู้ทรงแผ่แผ่นดินโลกและสรรพสิ่งที่บังเกิดจากโลก

ผู้ประทานลมปราณแก่มนุษย์

และประทานชีวิตแก่ทุกคนในโลก

6 “เรา พระยาห์เวห์ ได้เรียกเจ้ามาด้วยความชอบธรรม

เราจะจับมือเจ้าไว้

เราจะคุ้มครองเจ้า

และทำให้เจ้าเป็นพันธสัญญาสำหรับเหล่าประชากร

และเป็นแสงสว่างแก่บรรดาชนต่างชาติ

7 ให้เบิกตาของคนตาบอด

ปลดปล่อยเชลยจากคุก

และช่วยนำผู้ที่นั่งอยู่ในความมืดออกจากที่คุมขัง

8 “เราคือพระยาห์เวห์ นี่เป็นนามของเรา!

เกียรติสิริของเรา เราจะไม่ยกให้ใครอื่น

และคำสรรเสริญยกย่องของเรา เราจะไม่ให้แก่รูปเคารพต่างๆ

9 ดูเถิด สิ่งที่เราลั่นวาจาไว้ตั้งแต่แรกได้เกิดขึ้นแล้ว

และเราประกาศสิ่งใหม่ๆ

ตั้งแต่สิ่งเหล่านั้นยังไม่เกิดขึ้น

เราก็ประกาศแก่พวกเจ้าทั้งหลายแล้ว”

เพลงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

10 จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

จงสรรเสริญพระองค์จากสุดปลายแผ่นดินโลก

ท่านผู้ไปยังทะเล และสรรพสิ่งในทะเล

เกาะแก่งทั้งหลาย และคนทั้งปวงผู้อาศัยอยู่ที่นั่น

11 ถิ่นกันดารและเมืองต่างๆ จงเปล่งเสียง

ถิ่นฐานทั้งหลายที่ชาวเคดาร์อาศัยอยู่จงชื่นบาน

ชาวเสลาจงร้องเพลงเบิกบาน

ให้พวกเขาโห่ร้องจากยอดเขา

12 ให้พวกเขาถวายพระเกียรติสิริแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

และเปล่งเสียงสรรเสริญพระองค์ในเกาะแก่งทั้งหลาย

13 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาเยี่ยงบุรุษผู้เกรียงไกร

พระองค์ทรงกระตือรือร้นเฉกเช่นนักรบ

ทรงโห่ร้องเอาชัย

และพิชิตเหล่าศัตรูของพระองค์

14 “เรานิ่งอั้นไว้นานแล้ว

เราเงียบอยู่และสะกดใจไว้

แต่บัดนี้ เราร้องออกมาดั่งหญิงคลอดลูก

เราหายใจถี่และหอบ

15 เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาต่างๆ

ให้พืชพันธุ์ทั้งหลายในที่เหล่านั้นเหี่ยวแห้ง

เราจะทำให้แม่น้ำกลายเป็นเกาะ

และให้สระทั้งหลายแห้งเหือด

16 เราจะนำคนตาบอดไปตามทางที่พวกเขาไม่รู้จัก

เราจะพาพวกเขาไปตามเส้นทางที่พวกเขาไม่คุ้นเคย

เราจะเปลี่ยนความมืดให้เป็นความสว่างต่อหน้าพวกเขา

และทำที่ขรุขระให้ราบเรียบ

เราจะทำสิ่งเหล่านี้

เราจะไม่ทอดทิ้งเขาเลย

17 ส่วนบรรดาผู้ที่วางใจในรูปเคารพ

ผู้ที่พูดกับเทวรูปว่า ‘ท่านเป็นเทพเจ้าของเรา’

เราจะทำให้เขาหันกลับไปอย่างน่าอัปยศอดสูที่สุด

อิสราเอลตาบอดหูหนวก

18 “ฟังเถิด คนหูหนวกเอ๋ย

มองเถิด คนตาบอดเอ๋ย และจงเห็น!

19 ใครเล่าตาบอดนอกจากผู้รับใช้ของเรา?

ใครเล่าหูหนวกเหมือนผู้สื่อสารที่เราส่งไป?

ใครเล่าตาบอดเหมือนผู้ที่ถวายตัวต่อเรา?

ใครเล่าตาบอดเหมือนผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า?

20 เจ้าได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ไม่ใส่ใจ

หูเจ้าเปิดกว้าง แต่ไม่ได้ยินอะไร”

21 องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย

ที่จะทำให้บทบัญญัติของพระองค์ยิ่งใหญ่และมีเกียรติ

เพื่อเห็นแก่ความชอบธรรมของพระองค์

22 แต่นี่เป็นชนชาติที่ถูกปล้นและตกเป็นเชลย

พวกเขาล้วนตกอยู่ในหลุมพราง

หรือหลบซ่อนอยู่ในคุก

พวกเขาถูกปล้น

โดยไม่มีใครช่วย

พวกเขาตกเป็นเชลย

โดยไม่มีใครพูดว่า “ปล่อยพวกเขากลับไป”

23 ใครบ้างในพวกท่านจะรับฟังเรื่องนี้

หรือใส่ใจกับอนาคตที่จะมาถึง?

24 ใครเล่ายอมให้ยาโคบตกเป็นเชลย

และให้อิสราเอลถูกปล้น?

ไม่ใช่องค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ซึ่งพวกเราทำบาปต่อพระองค์หรอกหรือ?

เพราะพวกเขาไม่ทำตามวิถีทางของพระองค์

ไม่เชื่อฟังบทบัญญัติของพระองค์

25 ดังนั้นพระองค์จึงทรงระบายพระพิโรธอันรุนแรง

คือสงครามอันดุเดือดให้ตกแก่เขา

ให้เขาตกอยู่ในเปลวไฟ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ

ไฟเผาผลาญเขา แต่เขาก็ไม่ใส่ใจ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/42-b8956ecd0d37c8ce0b9f7258d6ad99f6.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 43

พระผู้ช่วยให้รอดองค์เดียวของอิสราเอล

1 แต่บัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า

ยาโคบเอ๋ย พระองค์ผู้ทรงสร้างท่าน

อิสราเอลเอ๋ย พระองค์ผู้ทรงปั้นท่าน

“อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าไว้แล้ว

เราได้เรียกชื่อเจ้า เจ้าเป็นของเรา

2 เมื่อเจ้าลุยน้ำ

เราจะอยู่กับเจ้า

เมื่อเจ้าลุยข้ามแม่น้ำ

น้ำจะไม่ซัดท่วมเจ้า

เมื่อเจ้าลุยไฟ

ไฟจะไม่เผาไหม้

เปลวไฟจะไม่เผาผลาญเจ้า

3 เพราะเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

เป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล พระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า

เราให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ของเจ้า

เอาคูชและเสบาแลกกับเจ้า

4 เพราะเจ้าล้ำค่าและมีเกียรติในสายตาของเรา

และเพราะเรารักเจ้า

เราจึงยอมเอาผู้คนแลกกับเจ้า

เอาประชากรแลกกับชีวิตของเจ้า

5 อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า

เราจะนำลูกหลานของเจ้ามาจากตะวันออก

และรวบรวมเจ้ามาจากตะวันตก

6 เราจะบอกกับทางเหนือว่า ‘ปล่อยพวกเขามา!’

บอกกับทางใต้ว่า ‘อย่ารั้งพวกเขาไว้’

จงพาลูกชายของเรามาจากที่ไกลโพ้น

และพาลูกสาวของเรามาจากสุดปลายแผ่นดินโลก

7 คือทุกคนที่ได้ชื่อตามชื่อของเรา

ผู้ที่เราได้สร้างขึ้นเพื่อเกียรติสิริของเรา

ผู้ที่เราได้ปั้นและสร้างขึ้นมา”

8 จงนำบรรดาผู้ที่มีตาแต่ตาบอด

ผู้ที่มีหูแต่หูหนวกมา

9 มวลประชาชาติประชุมกัน

ชนชาติทั้งหลายชุมนุมกัน

มีใครบ้างทำนายสิ่งนี้

และประกาศสิ่งที่ผ่านมาแล้วแก่พวกเรา?

ให้เขาเบิกพยานมายืนยันว่าเขาถูก

เพื่อคนอื่นจะได้ยินแล้วบอกว่า “เป็นความจริง”

10 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เจ้าเป็นพยานของเรา

เป็นผู้รับใช้ซึ่งเราได้เลือกสรรไว้แล้ว

เพื่อเจ้าจะรู้จักเราและเชื่อเรา

และเข้าใจว่าเราคือผู้นั้น

ก่อนหน้าเราไม่มีพระเจ้าอื่นใดถูกปั้นขึ้น

และหลังจากเราก็ไม่มีพระใดอีก

11 เรานี่แหละคือพระยาห์เวห์

นอกเหนือจากเราแล้ว ไม่มีพระผู้ช่วยให้รอดอื่นใดอีก

12 เราได้สำแดงแก่เจ้าแล้ว ช่วยเจ้าให้รอดแล้วและประกาศแก่เจ้าแล้ว

เราเอง ไม่ใช่พระต่างด้าวอื่นใดท่ามกลางพวกเจ้า”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เจ้าเป็นพยานของเราว่า เราเป็นพระเจ้า

13 เราคือพระเจ้าองค์นั้นตั้งแต่อดีตกาล

ไม่มีผู้ใดช่วยกู้จากมือของเราได้

เมื่อเราลงมือทำ ใครจะขัดขวางได้?”

พระเมตตาของพระเจ้า

และความไม่ซื่อสัตย์ของอิสราเอล

14 องค์พระผู้เป็นเจ้าพระผู้ไถ่ของเจ้า

องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลตรัสว่า

“เพื่อเห็นแก่เจ้า เราจะส่งกองทัพไปยังบาบิโลน

ทำให้ชาวบาบิโลนทั้งหลายกลายเป็นเชลย

ในเรือซึ่งพวกเขาเคยภาคภูมิใจ

15 เราคือพระยาห์เวห์องค์บริสุทธิ์ของเจ้า

พระผู้สร้างของอิสราเอลและกษัตริย์ของเจ้า”

16 องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างทางผ่านทะเล

ทำทางผ่านห้วงน้ำอันทรงพลัง

17 ผู้ทรงนำรถม้าศึกและม้า

นำกองทัพและแสนยานุภาพต่างๆ มาด้วยกัน

ทำให้พวกเขานอนจมอยู่ที่นั่น ไม่ได้ลุกขึ้นมาอีก

สูญสิ้นดับไปเหมือนไส้ตะเกียง

18 ตรัสว่า “จงลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้ว

อย่าฝังใจกับอดีต

19 ดูเถิด เรากำลังทำสิ่งใหม่!

มันเริ่มขึ้นแล้ว เจ้าไม่เห็นหรอกหรือ?

เรากำลังสร้างทางในถิ่นกันดาร

และสายธารต่างๆ ในที่แห้งแล้ง

20 สัตว์ป่าทั้งหลายเช่นหมาใน นกเค้าแมว

ต่างยกย่องเรา

เพราะเราให้น้ำในถิ่นกันดาร

ให้สายธารในที่แห้งแล้ง

เพื่อจะให้น้ำดื่มแก่ประชากรที่เราเลือกสรรไว้

21 ประชากรที่เราได้ปั้นไว้สำหรับเรา

เพื่อพวกเขาจะประกาศเกียรติภูมิของเรา

22 “ถึงกระนั้นยาโคบเอ๋ย เจ้าก็ไม่ได้เรียกหาเรา

อิสราเอลเอ๋ย เจ้าไม่ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อเรา

23 เจ้าไม่ได้ถวายแกะเป็นเครื่องเผาบูชาแก่เรา

เจ้าไม่ได้ให้เกียรติเราด้วยเครื่องบูชาของเจ้า

เราไม่ได้วางภาระเรื่องธัญบูชาแก่เจ้า

หรือให้เจ้าเหน็ดเหนื่อยเพราะเรื่องเครื่องหอม

24 เจ้าไม่ได้ซื้อเครื่องหอมมาให้เรา

ทั้งไม่ได้ทำให้เราพอใจด้วยไขมันเผาบูชา

แต่เจ้าได้วางภาระเรื่องบาปของเจ้าแก่เรา

และทำให้เราเอือมระอาด้วยการละเมิดทั้งหลายของเจ้า

25 “เรานี่แหละ

คือผู้ที่ลบล้างการล่วงละเมิดของเจ้าเพื่อเห็นแก่เราเอง

และจะไม่จดจำบาปของเจ้าอีกต่อไป

26 จงรื้อฟื้นอดีตเพื่อเรา ให้เรามาโต้กันเถิด

จงแถลงความมา เพื่อจะพิสูจน์ว่าเจ้าพ้นข้อกล่าวหา

27 ต้นตระกูลของเจ้าทำบาป

ผู้นำของเจ้าทรยศเรา

28 ฉะนั้นเราจะหยามผู้สูงศักดิ์ประจำวิหารของเจ้า

เราจะมอบยาโคบให้ถูกทำลายย่อยยับ

และปล่อยอิสราเอลให้เป็นที่ดูหมิ่น

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/43-87a7b086a54949ca090fd6b85568a6b3.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 44

อิสราเอลที่ทรงเลือกสรรไว้

1 “แต่บัดนี้ จงฟังเถิด ยาโคบ ผู้รับใช้ของเราเอ๋ย

อิสราเอลผู้ซึ่งเราได้เลือกสรรไว้

2 นี่คือพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ทรงปั้นเจ้า ผู้ทรงสร้างเจ้าไว้ในครรภ์

ผู้จะทรงช่วยเหลือเจ้า ตรัสดังนี้ว่า

อย่ากลัวเลย ยาโคบผู้รับใช้ของเรา

เยชูรูนซึ่งเราได้เลือกสรรไว้

3 เพราะเราจะเทน้ำลงบนดินที่แตกระแหง

ให้มีธารน้ำบนพื้นดินที่แห้งผาก

เราจะเทวิญญาณของเราลงเหนือวงศ์วานของเจ้า

และเทพรของเราให้ลูกหลานของเจ้า

4 พวกเขาจะงอกงามเหมือนหญ้าในทุ่งกว้าง

เหมือนต้นปอปลาร์ริมธารน้ำ

5 คนหนึ่งจะพูดขึ้นว่า ‘ฉันเป็นกรรมสิทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า’

อีกคนหนึ่งจะเรียกตัวเองตามชื่อของยาโคบ

ส่วนอีกคนจะเขียนที่มือของตนว่า ‘เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า’

และจะใช้ชื่ออิสราเอล

องค์พระผู้เป็นเจ้า

6 “พระยาห์เวห์ผู้ทรงเป็นองค์กษัตริย์และพระผู้ไถ่ของอิสราเอล

พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนี้ว่า

เราเป็นปฐมและอวสาน

นอกเหนือจากเราแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใด

7 ใครเล่าเสมอเหมือนเรา? ให้เขาประกาศออกมา

ให้เขาประกาศและแจกแจงต่อหน้าเรา

ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างนับตั้งแต่เราสถาปนาประชากรเก่าแก่ของเรา

และจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ให้เขาพยากรณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น

8 อย่ากลัวเลย อย่าสั่นสะท้าน

เราไม่ได้ประกาศเรื่องนี้และทำนายไว้เมื่อนานมาแล้วหรอกหรือ?

เจ้าเป็นพยานของเรา มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเราหรือ?

ไม่มีเลย ไม่มีพระศิลาอื่นใดอีก เราไม่รู้จักสักองค์เดียว”

9 บรรดาผู้ที่ทำรูปเคารพก็ไร้ค่า

สิ่งต่างๆ ที่เขาเทิดทูนก็เปล่าประโยชน์

บรรดาผู้ออกรับแทนพวกเขาก็ตาบอด

พวกเขาโง่เง่าและต้องอับอาย

10 ใครปั้นเทวรูป ใครหล่อรูปเคารพ

ซึ่งไม่เป็นประโยชน์อะไรแก่ตน?

11 เขากับพรรคพวกจะต้องอัปยศอดสู

ช่างฝีมือก็เป็นแค่มนุษย์

ให้พวกเขามาชุมนุมกัน ยืนอยู่ในที่ของตน

พวกเขาจะถูกทำให้ตกลงไปในความสยดสยองและความเสื่อมเสีย

12 ช่างเหล็กหยิบเครื่องมือ

ง่วนอยู่กับรูปเคารพในเตาเผา

เขาใช้ค้อนแต่งเทวรูป

ทุบสุดกำลังแขน

เขาหิวและหมดกำลัง

เขาไม่ได้ดื่มน้ำและหมดแรง

13 ช่างไม้ขึงเชือกวัด

ทำโครงสร้างหยาบๆ

ใช้กบไส

เอาวงเวียนขีด

แต่งให้เป็นรูปคน

มีลักษณะงามครบถ้วนอย่างมนุษย์

ให้อยู่ในสถานบูชา

14 เขาโค่นสนซีดาร์ลง

บางทีก็ใช้สนไซเปรสหรือต้นโอ๊ก

เขาปล่อยให้มันโตขึ้นท่ามกลางต้นไม้ในป่า

บางทีก็ปลูกสน และฝนทำให้มันเติบโตขึ้น

15 มันเป็นฟืนให้คนเผา

บางส่วนเขานำมาใช้ผิงกาย

เขาจุดไฟปิ้งขนมปัง

แต่ที่เหลือจากนั้นก็เอามาตกแต่งเป็นเทพเจ้าและนมัสการมัน

เขาสร้างให้เป็นรูปเคารพและก้มกราบมัน

16 เขาใช้ไม้ครึ่งหนึ่งก่อไฟ

เตรียมอาหารย่างเนื้อกินจนอิ่ม

ทั้งใช้ผิงกายและพูดว่า

“เออ! อุ่นดี ข้าเห็นไฟแล้ว”

17 ส่วนที่เหลือเขาใช้ทำเทวรูป เป็นรูปเคารพของเขา

แล้วเขาก็หมอบกราบนมัสการมัน

เขาอธิษฐานต่อมันว่า

“ช่วยลูกด้วย เทพเจ้าของลูก”

18 พวกเขาไม่รู้ประสีประสา ไม่เข้าใจอะไร

ตาของเขาถูกปิดจึงมองไม่เห็น

ใจของเขาก็ถูกบังจึงไม่อาจเข้าใจ

19 ไม่มีใครหยุดเพื่อคิด

ไม่มีใครรู้หรือเข้าใจที่จะพิเคราะห์ว่า

“เราใช้ไม้ครึ่งหนึ่งทำฟืน

เราปิ้งขนมปังบนถ่านไม้

เราย่างเนื้อกิน

ควรหรือที่เราจะเอาไม้ส่วนที่เหลือมาทำสิ่งที่น่าเกลียดชัง?

ควรหรือที่เราจะหมอบกราบลงตรงหน้าท่อนไม้?”

20 เขายังชีพด้วยขี้เถ้า จิตใจที่ลุ่มหลงนำเขาหลงเจิ่นไป

เขาไม่อาจช่วยเหลือตัวเองหรือพูดว่า

“สิ่งที่อยู่ในมือขวาของเรานี้เป็นสิ่งหลอกลวงไม่ใช่หรือ?”

21 “ยาโคบเอ๋ย จงจดจำสิ่งเหล่านี้

อิสราเอลเอ๋ย เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา

เราได้สร้างเจ้ามา เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา

อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่ลืมเจ้า

22 เราได้กวาดล้างการละเมิดของเจ้าออกไปเหมือนเมฆ

ได้ลบล้างบาปของเจ้าเหมือนหมอกยามเช้า

จงกลับมาหาเรา

เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว”

23 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงร้องเพลงด้วยความยินดีเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทำการนี้

โลกเอ๋ย จงโห่ร้องให้กึกก้อง

จงร้องเพลงเถิด ภูเขาทั้งหลาย

ทั้งป่าไม้และพฤกษ์ไพรทั้งปวง

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงไถ่ยาโคบแล้ว

พระองค์ทรงสำแดงพระเกียรติสิริในอิสราเอล

เยรูซาเล็มจะมีผู้อยู่อาศัย

24 “พระยาห์เวห์พระผู้ไถ่ของเจ้า

ผู้ได้ทรงปั้นเจ้าในครรภ์มารดาตรัสดังนี้ว่า

“เราคือพระยาห์เวห์

ผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งปวง

เราแต่ผู้เดียวคลี่ฟ้าสวรรค์ออกมา

เราเองเป็นผู้กางแผ่นดินโลกออก

25 ผู้ทรงทำลายหมายสำคัญของผู้เผยพระวจนะเท็จ

และทำให้นักทำนายกลายเป็นคนโง่เง่า

ผู้ทรงคว่ำความรอบรู้ของคนฉลาด

และทรงเปลี่ยนมันเป็นสิ่งไร้สาระ

26 ผู้ประทานถ้อยคำแก่ผู้รับใช้ของพระองค์

และให้การคาดคะเนต่างๆ ของทูตของพระองค์กลายเป็นจริง

“ผู้ทรงกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีผู้อยู่อาศัย’

ทรงกล่าวถึงเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า ‘จะถูกสร้างขึ้น’

และทรงกล่าวถึงความหายนะของพวกเขาว่า ‘เราจะฟื้นฟูขึ้นใหม่’

27 ผู้ทรงกล่าวกับห้วงน้ำลึกว่า ‘จงแห้งไป

และเราจะทำให้สายธารทั้งหลายของเจ้าแห้งเหือด’

28 ผู้ทรงกล่าวถึงไซรัสว่า ‘เขาเป็นคนเลี้ยงแกะของเรา

และจะทำทุกสิ่งให้สำเร็จตามที่เราพอใจ

เขาจะกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า “ให้สร้างมันขึ้นใหม่”

และกล่าวถึงพระวิหารว่า “ให้วางฐานรากของมัน” ’

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/44-a2926a5062ea0f89f751adabdd0f3c61.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 45

1 “พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าถึงไซรัสผู้ที่พระองค์ทรงเจิมตั้งไว้

ผู้ซึ่งทรงยึดไว้ด้วยพระหัตถ์ขวา

ให้พิชิตชนชาติต่างๆ ตรงหน้า

และทำลายแสนยานุภาพของเหล่ากษัตริย์

เป็นผู้เปิดประตูซึ่งอยู่ตรงหน้า

เพื่อไม่ให้มีประตูใดถูกปิดไว้

2 เราจะนำหน้าเจ้าไป

และปราบภูเขาทั้งหลายให้ราบ

เราจะทลายประตูทองสัมฤทธิ์

และตัดลูกกรงเหล็ก

3 เราจะยกสมบัติที่ซ่อนไว้ในความมืด

ขุมทรัพย์ในที่เร้นลับให้แก่เจ้า

เพื่อเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์

พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้เรียกเจ้ามาตามชื่อของเจ้า

4 เพื่อเห็นแก่ยาโคบผู้รับใช้ของเรา

อิสราเอลซึ่งเราเลือกสรรไว้

เราจึงเรียกเจ้ามาตามชื่อของเจ้า

และมอบตำแหน่งอันทรงเกียรติแก่เจ้า

แม้ว่าเจ้าจะไม่รู้จักเรา

5 เราคือพระยาห์เวห์ ไม่มีใครอื่น

นอกจากเราแล้ว ไม่มีพระเจ้าอื่นใด

เราจะทำให้เจ้าเข้มแข็งขึ้น

แม้ว่าเจ้าจะไม่รู้จักเรา

6 เพื่อจากที่ดวงอาทิตย์ขึ้น

จดที่ดวงอาทิตย์ตก

มนุษย์จะรู้ว่าไม่มีใครอื่นนอกจากเรา

เราคือพระยาห์เวห์ ไม่มีใครอื่น

7 เรากำหนดความสว่างและสร้างความมืด

เรานำความเจริญและบันดาลภัยพิบัติ

เรา พระยาห์เวห์ทำสิ่งทั้งปวงนี้

8 “ฟ้าสวรรค์เบื้องบนจงหลั่งรินความชอบธรรมลงมา

หมู่เมฆต่างๆ จงโปรยปรายความชอบธรรมลงมา

โลกจงเปิดกว้าง

ให้ความรอดผุดขึ้นมา

และให้ความชอบธรรมงอกงามไปด้วยกัน

เรา พระยาห์เวห์ได้สร้างสิ่งเหล่านี้

9 “วิบัติแก่ผู้ที่โต้เถียงกับพระผู้สร้างของเขา

เขาเป็นเพียงเศษหม้อดินชิ้นหนึ่งที่กองอยู่บนพื้น

ดินเหนียวจะพูดกับช่างปั้นได้หรือว่า

‘ท่านกำลังทำอะไร?’

หม้อดินจะกล่าวได้หรือว่า

‘ใบนั้นไม่มีหูหิ้ว’?

10 วิบัติแก่ผู้ที่กล่าวกับบิดาของตนว่า

‘ท่านให้กำเนิดอะไร?’

หรือกล่าวกับมารดาว่า

‘ท่านได้คลอดอะไรมา?’

11 “พระยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์

และพระผู้สร้างของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า

เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

เจ้ามาถามเราเรื่องลูกหลานของเรา

หรือสั่งเราเกี่ยวกับการงานแห่งน้ำมือของเราหรือ?

12 เรานี่แหละสร้างโลก

และสร้างมนุษยชาติบนโลก

มือของเรานี่แหละคลี่ฟ้าสวรรค์ออก

และบัญชาดวงดาวทั้งปวง

13 เราจะชูไซรัสขึ้นในความชอบธรรมของเรา

เราจะทำให้ทางทั้งสิ้นของเขาตรงไป

เขาจะสร้างนครของเราขึ้นใหม่

และปลดปล่อยประชากรของเราผู้ตกเป็นเชลย

ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อสินจ้างรางวัล

พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น”

14 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“ผลผลิตของอียิปต์ สินค้าของคูชและของคนเสบาร่างสูง

จะเป็นของเจ้า

คนเหล่านี้จะมาติดสอยห้อยตามเจ้า

ทั้งๆ ที่ยังติดโซ่ตรวน

พวกเขาจะมาหมอบกราบตรงหน้าเจ้า

และอ้อนวอนเจ้าว่า

‘แน่ทีเดียว พระเจ้าทรงอยู่กับท่าน ไม่มีใครอื่น

ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก’ ”

15 ข้าแต่พระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของอิสราเอล

แน่ทีเดียว พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ซ่อนพระองค์เองไว้

16 ทุกคนที่ทำรูปเคารพจะอัปยศอดสู

พวกเขาจะอับอายขายหน้าไปด้วยกัน

17 ส่วนอิสราเอลนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยกู้

ด้วยความรอดนิรันดร์

เจ้าจะไม่ต้องอับอายขายหน้าเลย

ตลอดไปทุกชั่วอายุ

18 องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์

พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า

พระองค์ผู้ทรงปั้นแต่งและสร้างโลก

ทรงสถาปนามันไว้

พระองค์ไม่ได้ทรงสร้างให้เป็นที่เวิ้งว้างว่างเปล่า

แต่ทรงสร้างโลกให้เป็นที่อยู่อาศัย

พระองค์ตรัสว่า

“เราคือพระยาห์เวห์

และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก

19 เราไม่ได้พูดแบบลับๆ

จากที่หนึ่งที่ใดในดินแดนแห่งความมืด

เราไม่ได้พูดกับลูกหลานของยาโคบว่า ‘จงแสวงหาเราในที่ยุ่งเหยิง’

เรา พระยาห์เวห์พูดความจริง

เราประกาศสิ่งที่ถูกต้อง

20 “จงมาชุมนุมกันเถิด จงรวบรวมกันมา

บรรดาผู้หนีภัยจากชาติต่างๆ

ผู้แห่รูปเคารพไม้ก็โง่เขลา

ผู้สวดอ้อนวอนต่อพระซึ่งช่วยอะไรเขาไม่ได้

21 จงแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้น เสนอมาสิ

ให้พวกเขาปรึกษาหารือกัน

ใครเล่าแจ้งเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้านานแล้ว?

ใครเล่าลั่นวาจาไว้ตั้งแต่อดีตกาลนานนม?

ไม่ใช่เราผู้เป็นพระยาห์เวห์หรอกหรือ?

นอกจากเราแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใด

พระเจ้าผู้ชอบธรรมและผู้ช่วยให้รอด

ไม่มีใครอื่นนอกจากเรา

22 “มวลมนุษย์ทั่วโลก

จงหันมาหาเราและรับการช่วยให้รอด

เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก

23 เราปฏิญาณไว้แล้วด้วยตัวของเราเอง

เราเองลั่นวาจาไว้ด้วยความชอบธรรม

ไม่มีวันคืนคำ

คือทุกคนจะคุกเข่ากราบลงต่อหน้าเรา

ทุกลิ้นจะปฏิญาณโดยอ้างถึงเรา

24 เขาทั้งปวงจะกล่าวถึงเราว่า

‘ในองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่มีความชอบธรรมและพลานุภาพ’ ”

ทุกคนที่โกรธแค้นพระองค์

จะมาเข้าเฝ้าพระองค์และอัปยศอดสูใจ

25 แต่ในองค์พระผู้เป็นเจ้าลูกหลานทั้งหมดของอิสราเอล

จะได้เป็นผู้ชอบธรรมและจะเทิดทูนสดุดี

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/45-a3d4b6483cda2e55d2fe10fd0a641bb9.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 46

เทพเจ้าของบาบิโลน

1 พระเบลหมอบลง พระเนโบก็ค้อมลง

เทวรูปของเขาบรรทุกมาบนหลังสัตว์

เทวรูปที่ถูกแบกมานั้นหนักอึ้ง

เป็นภาระแก่ผู้อ่อนระโหย

2 พระเหล่านั้นค้อมลงและหมอบลงด้วยกัน

ช่วยแบ่งเบาภาระอะไรไม่ได้เลย

เพราะมันเองก็ตกเป็นเชลยด้วยเหมือนกัน

3 “วงศ์วานยาโคบเอ๋ย จงฟังเรา

วงศ์วานอิสราเอลทั้งปวงที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่

ผู้ซึ่งเราได้อุ้มชูไว้ตั้งแต่ปฏิสนธิ

และฟูมฟักมาตั้งแต่เจ้าเกิด

4 จนกระทั่งเจ้าเข้าสู่วัยชราผมหงอก

เราคือผู้นั้น ผู้ซึ่งจะค้ำจุนเจ้า

เราได้สร้างเจ้าและจะฟูมฟักเจ้า

เราจะอุ้มชูและช่วยเจ้าให้รอด

5 “เจ้าจะเปรียบเราและถือว่าเราเท่าเทียมกับผู้ใด?

เจ้าจะหาผู้ใดมาเทียบเราได้?

6 มีคนเททองคำออกมาจากถุง

และชั่งเงินบนตาชั่ง

เขาจ้างช่างทองให้ทำเทพเจ้าขึ้นมา

แล้วเขาก็หมอบกราบนมัสการเทวรูปนั้น

7 เขายกมันขึ้นบนบ่าแบกไป

เขาตั้งมันไว้ประจำที่ รูปนั้นก็อยู่ที่นั่น

เพราะมันขยับเขยื้อนไม่ได้

แม้มีคนสวดอ้อนวอน มันก็ไม่ตอบ

มันไม่สามารถช่วยให้เขาพ้นทุกข์ได้

8 “จงจำข้อนี้ไว้ จำฝังใจไม่ลืมเลือน

จงจำใส่ใจ เจ้ากบฏทั้งหลาย

9 จงจดจำสิ่งต่างๆ แต่เดิมเมื่อนานมาแล้ว

เราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระอื่นใด

เราเป็นพระเจ้า ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน

10 เราแจ้งอวสานตั้งแต่ตอนต้น

แจ้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งโบราณ

เราลั่นวาจาไว้ว่าความมุ่งหมายของเราจะคงอยู่

เราจะทำทุกสิ่งตามที่เห็นชอบ

11 เราจะเรียกนกล่าเหยื่อมาจากตะวันออก

ชายคนหนึ่งผู้ทำให้ลุล่วงตามความมุ่งหมายของเราจะมาจากแดนไกลลิบ

เราพูดอะไรไว้ เราจะทำให้เกิดขึ้น

เราวางแผนอะไรไว้ เราจะทำตามแผนนั้น

12 จงฟังเรา เจ้าคนดื้อด้าน

ผู้ห่างไกลความชอบธรรม

13 เรานำความชอบธรรมของเราเข้ามาใกล้แล้ว

มันอยู่ไม่ไกลเลย

ความรอดของเราจะมาถึงโดยไม่ล่าช้า

เราจะให้ความรอดของเราแก่ศิโยน

และความรุ่งเรืองของเราแก่อิสราเอล

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/46-b97248d709b81329e73f1d47e9927bf1.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 47

บาบิโลนล่มสลาย

1 “ธิดาพรหมจารีแห่งบาบิโลน

จงนั่งลงคลุกฝุ่นเถิด

จงนั่งลงกับพื้นโดยปราศจากบัลลังก์

ธิดาแห่งชาวบาบิโลน

เจ้าจะไม่ได้รับการขนานนาม

ว่าบอบบางน่าทะนุถนอมอีกต่อไป

2 จงเอาโม่หินมาโม่แป้งเถิด

ปลดผ้าคลุมหน้าของเจ้าออก

จงถลกกระโปรงเผยให้เห็นขา

และเดินลุยน้ำไป

3 เจ้าจะเปลือยเปล่า

และอัปยศอดสู

เราจะแก้แค้นเจ้า

จะไม่ละเว้นผู้ใดเลย”

4 พระผู้ไถ่ของเราผู้ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

เป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

5 “ธิดาแห่งชาวบาบิโลนเอ๋ย

ไปนั่งเงียบๆ ในความมืดมนเถิด

เจ้าจะไม่ได้ชื่อว่า

นางพญาแห่งราชอาณาจักรทั้งหลายอีกต่อไป

6 เราโกรธเคืองประชากรของเรา

และเหวี่ยงมรดกของเราทิ้ง

เรามอบเขาไว้ในมือเจ้า

และเจ้าก็ไม่ได้เมตตาปรานีเขา

แม้แต่คนเฒ่าคนแก่

เจ้าก็บังคับให้แบกแอกหนักอึ้ง

7 เจ้ากล่าวว่า ‘ข้าจะเป็นนางพญา

ตลอดไปเป็นนิตย์!’

แต่เจ้าไม่ได้พิจารณาสิ่งเหล่านี้

ไม่ได้ใคร่ครวญสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น

8 “ฉะนั้นจงฟังเถิด เจ้าคนเสเพล

ผู้เอกเขนกอยู่อย่างปลอดภัย

และบอกตัวเองว่า

‘ข้านี่แหละ ไม่มีใครอื่นนอกจากข้า

ข้าจะไม่มีวันเป็นม่าย

หรือต้องสูญเสียลูก’

9 ทั้งสองสิ่งนี้จะจู่โจมเจ้า

ในชั่วพริบตา ภายในวันเดียว

ทั้งความเป็นม่ายและการสูญเสียลูก

มันจะมาถึงเจ้าเต็มขนาด

ทั้งๆ ที่เจ้ามีเวทมนตร์

และคาถาอาคมขลัง

10 เจ้าวางใจในความชั่วร้ายของเจ้า

และพูดว่า ‘ไม่มีใครเห็นเราหรอก’

สติปัญญาและความรู้ของเจ้าพาเจ้าหลงเจิ่น

เมื่อเจ้าบอกตัวเองว่า

‘ข้านี่แหละ ไม่มีใครอื่นนอกจากข้า’

11 ภัยพิบัติจะมาถึงเจ้า

และเจ้าจะไม่รู้ว่าต้องขจัดปัดเป่ามันไปอย่างไร

ภัยพิบัติจะตกแก่เจ้า

ซึ่งเจ้าไม่อาจไถ่ถอน

หายนะซึ่งเจ้าไม่อาจเล็งเห็นล่วงหน้า

จะมาถึงเจ้าโดยฉับพลัน

12 “จงเล่นคาถาอาคมของเจ้า

และร่ายเวทมนตร์ทั้งหลายต่อไปเถิด

อย่างที่เจ้าทำมาตั้งแต่เด็ก

บางทีเจ้าอาจจะทำสำเร็จ

บางทีเจ้าอาจจะบันดาลความน่าสะพรึงกลัว

13 คำปรึกษาทั้งสิ้นที่เจ้าได้รับ มีแต่จะทำให้เจ้าทรุดโทรมไป!

ให้นักโหราศาสตร์ทั้งหลายของเจ้าออกมา

ให้นักดูดาวทั้งหลายซึ่งทำนายโชคชะตาราศีแต่ละเดือน

มาช่วยเจ้าให้พ้นจากสิ่งที่จะเกิดขึ้น

14 แน่นอน พวกเขาเป็นเหมือนตอข้าว

ไฟจะเผาผลาญเขาสิ้น

เขาไม่อาจจะช่วยแม้แต่ตัวเอง

ให้พ้นจากฤทธิ์ของเปลวไฟ

นี่ไม่ใช่ถ่านไฟให้ผิงกาย

ไม่ใช่ไฟซึ่งทำให้อุ่นสบาย

15 คนเหล่านี้ที่เจ้าร่วมงาน

และติดต่อมาตั้งแต่เยาว์วัย

ก็ทำให้เจ้าได้แค่นี้เอง

พวกเขาแต่ละคนหลงไปตามความผิดพลาดของตน

ไม่มีสักคนเดียวที่สามารถช่วยเจ้าได้

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/47-461cbe4b7bd5744191e4b6574cc5bba8.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 48

อิสราเอลผู้ดื้อดึง

1 “จงฟังเถิด วงศ์วานของยาโคบเอ๋ย

เจ้าซึ่งได้ชื่อตามอิสราเอล

และสืบเชื้อสายจากยูดาห์

เจ้าผู้ปฏิญาณในพระนามของพระยาห์เวห์

และอ้างพระเจ้าแห่งอิสราเอล

แต่ไม่ใช่ด้วยความจริงหรือความชอบธรรม

2 เจ้าผู้อ้างตนเป็นพลเมืองของนครศักดิ์สิทธิ์

และพึ่งในพระเจ้าแห่งอิสราเอล

ผู้ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

3 เราได้กล่าวถึงสิ่งเก่าก่อนไว้ล่วงหน้านานมาแล้ว

เราเองได้พูดไว้และบอกให้รู้ทั่วกัน

แล้วเราก็ทำตามนั้นทันที มันก็เป็นไป

4 เพราะเรารู้ว่าเจ้าดื้อด้านหัวแข็งเพียงไร

เอ็นคอของเจ้าเป็นเหล็ก

หน้าผากของเจ้าคือทองสัมฤทธิ์

5 ฉะนั้นเราจึงบอกสิ่งเหล่านี้แก่เจ้าไว้ล่วงหน้านานแล้ว

ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เราก็ได้แจ้งเจ้าแล้ว

เพื่อเจ้าจะไม่อาจพูดได้ว่า

‘รูปเคารพของข้าพเจ้าทำสิ่งเหล่านี้

เทวรูปไม้และพระโลหะของข้าพเจ้าบัญชาให้เกิดขึ้น’

6 เจ้าได้ยินถึงสิ่งเหล่านี้มาแล้ว จงพิเคราะห์ดูให้ถี่ถ้วน

เจ้าจะไม่ยอมรับหรือ?

“นับแต่นี้ไปเราจะแจ้งสิ่งใหม่ๆ

แจ้งสิ่งเร้นลับที่เจ้าไม่รู้นั้นแก่เจ้า

7 เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่ใช่นานมาแล้ว

ก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อน

เจ้าจึงไม่อาจพูดได้ว่า

‘เรารู้แล้ว’

8 เจ้าไม่เคยได้ยินหรือเข้าใจมาก่อน

แต่เดิมมาหูของเจ้าไม่ได้เปิดออก

เรารู้ดีว่าเจ้าคิดคดทรยศเพียงไร

เจ้าได้ชื่อว่ากบฏมาตั้งแต่เกิด

9 เพราะเห็นแก่นามของเรา เราจึงกลั้นโทสะไว้

เพราะเห็นแก่เราซึ่งเป็นที่สรรเสริญ เราจึงยับยั้งไว้

ไม่ตัดเจ้าออกไป

10 ดูเถิด เราได้ถลุงเจ้า แม้ไม่ใช่อย่างถลุงเงิน

เราทดสอบเจ้าในเตาหลอมแห่งความทุกข์ระทม

11 เพราะเห็นแก่เราเอง เราทำการนี้เพราะเห็นแก่เราเอง

เราจะปล่อยให้ตัวเองเสียชื่อได้อย่างไร?

เกียรติสิริของเรา เราไม่ยกให้ใครอื่น

อิสราเอลเป็นอิสระ

12 “ยาโคบเอ๋ย จงฟังเรา

อิสราเอลซึ่งเราเรียกมา

เราคือผู้นั้น

เราคือปฐมและอวสาน

13 มือของเราเองนี่แหละที่วางฐานรากของโลก

มือขวาของเราคลี่ฟ้าสวรรค์ออกมา

เมื่อเราเรียก

มันก็มาชุมนุมกัน

14 “เจ้าทุกคนจงมาชุมนุมกันและฟังเถิด

รูปเคารพไหนเล่าได้ทำนายสิ่งเหล่านี้ไว้?

พันธมิตรที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกสรรไว้

จะทำให้ความมุ่งหมายของพระองค์ต่อบาบิโลนสำเร็จ

พระกรของพระองค์จะลงโทษชาวบาบิโลน

15 เราเองเป็นผู้ลั่นวาจาไว้

เราได้เรียกบุคคลผู้นั้น

เราจะนำเขามา

และเขาจะทำพันธกิจของเขาสำเร็จ

16 “จงเข้ามาใกล้เราและฟังเถิด

“นับตั้งแต่แรกที่เราลั่นวาจาไว้ เราไม่ได้พูดแบบลับๆ

เราอยู่ที่นั่นแล้วตั้งแต่มันเกิดขึ้น”

และบัดนี้พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต

ทรงใช้ข้าพเจ้ามาด้วยพระวิญญาณของพระองค์

17 องค์พระผู้เป็นเจ้าพระผู้ไถ่ของท่าน

องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลตรัสว่า

“เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

ผู้สอนเจ้าว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเจ้า

ผู้นำเจ้าไปตามทางที่เจ้าควรไป

18 ถ้าเพียงแต่เจ้าใส่ใจในคำบัญชาของเรา

ป่านนี้เจ้าก็มีสันติสุขหลั่งไหลดั่งแม่น้ำ

มีความชอบธรรมเหมือนคลื่นในทะเล

19 ลูกหลานของเจ้าจะเป็นเหมือนเม็ดทราย

เหมือนเมล็ดข้าวนับไม่ถ้วน

ชื่อของพวกเขาจะไม่ถูกตัดออก

หรือถูกทำลายไปต่อหน้าเรา”

20 จงออกจากบาบิโลน

หนีให้พ้นจากชาวบาบิโลน!

จงประกาศเช่นนี้ด้วยเสียงโห่ร้องยินดี

จงป่าวร้องเถิด

จงแจ้งไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลกว่า

“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงไถ่ยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว”

21 พวกเขาไม่กระหายเมื่อพระองค์ทรงนำพวกเขาผ่านทะเลทราย

พระองค์ทรงทำให้น้ำไหลออกจากศิลาเพื่อพวกเขา

พระองค์ทรงแยกศิลา

และน้ำก็พุ่งขึ้นมา

22 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ไม่มีสันติสุขสำหรับคนชั่ว”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/48-e330af03f4dd8a52cac543c0a1929dca.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 49

ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

1 จงฟังข้าพเจ้าเถิด บรรดาเกาะแก่งทั้งหลายเอ๋ย

ชนชาติไกลโพ้นทั้งหลาย ฟังทางนี้

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้ายังไม่เกิด

ทรงเอ่ยชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าถือกำเนิด

2 พระองค์ทรงทำให้ปากของข้าพเจ้าเหมือนดาบคมกริบ

ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาแห่งพระหัตถ์

ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกธนูคมปลาบ

และทรงเก็บข้าพเจ้าไว้ในแล่งธนูของพระองค์

3 พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา

เราจะสำแดงเกียรติบารมีของเราในตัวเจ้า”

4 แต่ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าตรากตรำไปอย่างไร้จุดหมาย

ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์และไร้ค่า

ถึงกระนั้นสิ่งที่ข้าพเจ้าควรได้ก็อยู่ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

บำเหน็จของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้าของข้าพเจ้า”

5 และบัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

พระองค์ผู้ทรงสร้างข้าพเจ้าในครรภ์มารดา เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์

เพื่อนำยาโคบกลับมายังพระองค์

และรวบรวมอิสราเอลมายังพระองค์เอง

เพราะข้าพเจ้ามีเกียรติในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า

และพระเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า

6 พระองค์ตรัสว่า

“เป็นการเล็กน้อยเกินไปที่จะให้เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา

เพื่อฟื้นฟูชนเผ่าต่างๆ ของยาโคบให้กลับสู่สภาพเดิม

และนำชนอิสราเอลเหล่านั้นซึ่งเราสงวนไว้กลับมาหาเรา

เราจะให้เจ้าเป็นแสงสว่างสำหรับชนต่างชาติด้วย

เพื่อเจ้าจะนำความรอดของเราไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก”

7 พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่

องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

ตรัสแก่ผู้นั้นซึ่งเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของชาติ

ผู้เป็นคนรับใช้ของบรรดาผู้ครอบครองนั้นว่า

“กษัตริย์ทั้งหลายจะเห็นเจ้าแล้วยืนขึ้น

เจ้านายทั้งปวงจะเห็นเจ้าแล้วหมอบกราบ

เนื่องด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงซื่อสัตย์

องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ทรงเลือกสรรเจ้า”

การกอบกู้อิสราเอล

8 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“ในเวลาแห่งความโปรดปราน เราจะตอบเจ้า

และในวันแห่งความรอด เราจะช่วยเจ้า

เราจะปกป้องเจ้า

และทำให้เจ้าเป็นพันธสัญญาแก่เหล่าประชากร

เพื่อให้ดินแดนนั้นกลับคืนสู่ปกติสุข

และรื้อฟื้นกรรมสิทธิ์ซึ่งถูกทิ้งร้างขึ้นมาใหม่

9 เพื่อกล่าวแก่เชลยว่า ‘ออกมาเถิด’

และกล่าวแก่ผู้อยู่ในความมืดมนว่า ‘จงเป็นอิสระ!’

“พวกเขาจะเลี้ยงชีพอยู่ริมทาง

และพบทุ่งหญ้าบนเนินเขาแห้งแล้งทุกแห่ง

10 เขาจะไม่หิวหรือกระหาย

แสงอาทิตย์แรงกล้าและลมทะเลทรายอันร้อนระอุจะไม่แผดเผาเขาอีกต่อไป

พระองค์ผู้ทรงเอ็นดูสงสารเขาจะนำเขา

และพาเขามายังริมธารน้ำพุ

11 เราจะเปลี่ยนภูเขาทุกลูกของเราให้เป็นทางเรียบ

และทางหลวงของเราจะถูกยกขึ้น

12 ดูเถิด พวกเขาจะมาจากแดนไกล

บางคนมาจากทางเหนือ บางคนมาจากทางตะวันตก

บางคนก็มาจากอัสวาน”

13 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงโห่ร้องยินดี

โลกเอ๋ย จงเปรมปรีดิ์

ภูเขาทั้งหลายเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องเพลง!

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลอบโยนประชากรของพระองค์

และจะทรงเอ็นดูสงสารผู้ที่ทุกข์ทรมานของพระองค์

14 แต่ศิโยนกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทอดทิ้งข้าแล้ว

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลืมข้าไปแล้ว”

15 “แม่จะลืมลูกน้อยในอก

และจะไม่เอ็นดูสงสารลูกที่นางให้กำเนิดได้หรือ?

แม้นางอาจจะลืมได้

แต่เราจะไม่ลืมเจ้า!

16 ดูเถิด เราได้สลักชื่อของเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา

กำแพงของเจ้าอยู่ตรงหน้าเราเสมอ

17 ลูกๆ ของเจ้ารีบรุดมา

และบรรดาผู้ที่ทำให้เจ้าเริศร้างก็ไปจากเจ้า

18 เงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ เถิด

ลูกๆ ทั้งหมดของเจ้าพากันมาหาเจ้า”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด

พวกเขาจะเป็นเครื่องประดับตกแต่งของเจ้าฉันนั้น

เจ้าจะเหมือนเจ้าสาว มีพวกเขาเป็นอาภรณ์ประดับ

19 “ถึงแม้ว่าเจ้าถูกทำให้เป็นซากปรักหักพังและเริศร้าง

ดินแดนของเจ้าถูกทิ้งร้าง

แต่บัดนี้เจ้าจะกลับคับแคบเกินไปสำหรับประชากรของเจ้า

และผู้ที่ล้างผลาญเจ้าจะไปไกลลิบลับ

20 ลูกหลานซึ่งเกิดในช่วงที่เจ้าเป็นเชลย

จะพูดให้เจ้าได้ยินว่า

‘ที่นี่คับแคบเกินไปสำหรับเรา

ขอที่อาศัยกว้างขวางกว่านี้เถิด’

21 แล้วเจ้าจะรำพึงว่า

‘ใครหนอได้ให้กำเนิดคนทั้งหมดนี้แก่เรา?

เราถูกพลัดพรากและเป็นหมัน

ตกเป็นเชลยและถูกทอดทิ้ง

ใครหนอเลี้ยงดูคนเหล่านี้ขึ้นมา?

เราถูกทิ้งไว้เดียวดาย

แล้วคนเหล่านี้มาจากไหนกัน?’ ”

22 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า

“ดูเถิด เราจะส่งสัญญาณแก่บรรดาชนชาติต่างๆ

เราจะชูธงของเราให้ชนชาติทั้งหลาย

พวกเขาจะอุ้มลูกชายของเจ้าไว้ในอ้อมแขนพากลับมาหาเจ้า

ส่วนลูกสาวของเจ้าจะให้ขี่คอเขามา

23 กษัตริย์ทั้งหลายจะเป็นพ่อบุญธรรมของเจ้า

และราชินีทั้งหลายเป็นแม่ผู้เลี้ยงดูเจ้า

พวกเขาจะหมอบกราบซบหน้าลงที่พื้นตรงหน้าเจ้า

เขาจะเลียธุลีแทบเท้าเจ้า

เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์

ผู้ที่หวังในเราจะไม่ผิดหวัง”

24 จะแย่งชิงเหยื่อไปจากนักรบ

หรือจะช่วยเชลยจากบรรดาผู้ดุร้ายได้หรือ?

25 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“เชลยจะถูกริบคืนจากนักรบ

สิ่งที่ถูกปล้นจะถูกริบคืนจากผู้ดุร้าย

เราจะต่อสู้กับบรรดาผู้ที่ต่อสู้เจ้า

และเราจะช่วยลูกๆ ของเจ้าให้รอด

26 เราจะทำให้ผู้ที่กดขี่ข่มเหงเจ้ากินเนื้อของตนเอง

พวกเขาจะเมาด้วยเลือดของตนเองเหมือนเมาเหล้าองุ่น

และมวลมนุษยชาติจะรู้ว่า

เรา พระยาห์เวห์ คือพระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า

เป็นพระผู้ไถ่ของเจ้า องค์ทรงฤทธิ์ของยาโคบ”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/49-d31b6482beec9076e71146bf68fa5f85.mp3?version_id=179—

Categories
อิสยาห์

อิสยาห์ 50

บาปของอิสราเอลและการเชื่อฟังของผู้รับใช้

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“หนังสือหย่าของแม่เจ้าที่เราใช้ไล่นางไป

อยู่ที่ไหน?

หรือเราขายเจ้าไป

ให้เจ้าหนี้คนไหน?

ที่แท้เจ้าถูกขายไปเพราะบาปของเจ้า

แม่ของเจ้าถูกไล่ออกไปเพราะการล่วงละเมิดของเจ้า

2 เมื่อเรามาถึง ทำไมจึงไม่มีใครสักคน?

เมื่อเราเรียก ทำไมไม่มีใครตอบ?

แขนของเราสั้นเกินกว่าที่จะไถ่เจ้าหรือ?

เราขาดกำลังที่จะช่วยเจ้าให้รอดหรือ?

เราสั่งเพียงคำเดียว ทะเลก็แห้งเหือด

เราทำให้แม่น้ำกลับกลายเป็นทะเลทราย

ปลาของพวกเขาเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำ

และตายเพราะความกระหาย

3 เราเอาความมืดห่อหุ้มท้องฟ้า

เอาผ้ากระสอบคลุมมันเสีย”

4 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประทานลิ้นที่ฝึกปรือแล้วแก่ข้าพเจ้า

เพื่อจะรู้จักถ้อยคำซึ่งช่วยค้ำชูผู้อ่อนระโหย

ทุกๆ เช้าพระองค์ทรงปลุกข้าพเจ้า

ทรงปลุกหูของข้าพเจ้าให้รับฟังอย่างผู้ที่พระองค์ทรงสอน

5 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงเปิดหูของข้าพเจ้า

และข้าพเจ้าไม่ได้ขัดขืน

หรือถอยหนี

6 ข้าพเจ้ายอมหันหลังให้แก่ผู้ที่โบยตีข้าพเจ้า

และเอียงแก้มให้แก่ผู้ที่ทึ้งเคราของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าไม่ได้หันหน้าหนี

จากผู้ที่เย้ยหยันและถ่มน้ำลายรด

7 เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงช่วยข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าจะไม่อัปยศอดสู

ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงตั้งหน้าไว้ประหนึ่งหินเหล็กไฟ

และรู้ว่าตัวเองจะไม่ต้องอับอาย

8 พระองค์ผู้ทรงพิสูจน์ว่าข้าพเจ้าเป็นฝ่ายถูกนั้นอยู่ใกล้

แล้วใครจะมาฟ้องร้องข้าพเจ้า?

ให้เรามาประจันหน้ากัน!

ใครเป็นโจทก์ของข้าพเจ้า?

ให้เขามาเผชิญหน้ากับข้าพเจ้า!

9 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตนี่แหละทรงช่วยข้าพเจ้า

ใครที่ไหนจะตัดสินโทษข้าพเจ้า?

พวกเขาจะเปื่อยยุ่ยไปเหมือนเสื้อผ้า

และถูกตัวแมลงกินหมด

10 ใครบ้างในพวกท่านที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

และเชื่อฟังถ้อยคำผู้รับใช้ของพระองค์?

ผู้ที่ดำเนินในความมืด

ผู้ที่ไม่มีแสงสว่าง

จงวางใจในพระนามของพระยาห์เวห์

และพึ่งพิงพระเจ้าของตน

11 แต่บัดนี้เจ้าทุกคนที่จุดไฟ

ผู้ชูคบไฟลุกโชติช่วงให้ตัวเอง

จงไปเดินอยู่ในแสงสว่างจากไฟของเจ้า

จากคบไฟที่เจ้าจุดโชติช่วง

สิ่งที่เจ้าจะได้รับจากมือของเรา คือ

เจ้าจะนอนลงในความทุกข์ทรมาน

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/ISA/50-e656c77c976505cb1a3808858888336f.mp3?version_id=179—