Categories
โฮเชยา

โฮเชยา 9

การลงโทษอิสราเอล

1 อิสราเอลเอ๋ย อย่าชื่นชมยินดี

อย่าเปรมปรีดิ์เหมือนชาติอื่นๆ

เพราะเจ้าไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าของเจ้า

เจ้ารักค่าจ้างของหญิงโสเภณี

ตามลานนวดข้าวทุกแห่ง

2 ลานนวดข้าวและบ่อย่ำองุ่นจะไม่พอเลี้ยงประชากร

เหล้าองุ่นใหม่ดับความกระหายของเขาไม่ได้

3 พวกเขาจะไม่ได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เอฟราอิมจะกลับไปอียิปต์

และกินอาหารที่มีมลทินในอัสซีเรีย

4 พวกเขาจะไม่ได้รินเหล้าองุ่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

และเครื่องบูชาของเขาก็ไม่เป็นที่พอพระทัยพระองค์

เครื่องบูชาเหล่านี้จะเป็นเหมือนอาหารผู้ไว้ทุกข์สำหรับเขา

ผู้ที่กินเข้าไปจะเป็นมลทิน

อาหารนี้จะมีไว้เพื่อตัวเขาเอง

ไม่เหมาะที่จะนำเข้ามาในวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า

5 พวกเจ้าจะทำอะไรในงานเลี้ยงฉลองตามกำหนด

ในวันเทศกาลขององค์พระผู้เป็นเจ้า?

6 ถึงแม้พวกเขาจะรอดพ้นจากความพินาศย่อยยับ

อียิปต์ก็จะรวบรวมพวกเขา

และเมมฟิสจะฝังพวกเขาไว้

คลังเงินของพวกเขาจะถูกปกคลุมด้วยพืชหนาม

ต้นหนามจะงอกขึ้นท่วมเต็นท์ของพวกเขา

7 วันแห่งการลงโทษกำลังมาถึง

วันลงอาญามาใกล้แล้ว

อิสราเอลจงรู้เถิด

เพราะบาปของพวกเจ้ามากมายนัก

เจตนาร้ายของพวกเจ้าใหญ่หลวงนัก

ผู้เผยพระวจนะถูกนับว่าเป็นคนโง่

ผู้ที่พระเจ้าดลใจกลับถูกหาว่าเป็นคนบ้าคลั่ง

8 ผู้เผยพระวจนะพร้อมกับพระเจ้าของข้าพเจ้า

เป็นยามดูแลเอฟราอิม

แต่กับดักรอเขาอยู่ตลอดเส้นทาง

และมีศัตรูในพระนิเวศของพระเจ้าของพวกเขา

9 พวกเขาจมดิ่งลงในความเสื่อมทราม

เหมือนสมัยกิเบอาห์

พระเจ้าจะทรงระลึกถึงความชั่วช้าของพวกเขา

และลงโทษบาปทั้งหลายของพวกเขา

10 “เมื่อเราพบอิสราเอล

ก็เหมือนพบองุ่นในถิ่นกันดาร

เมื่อเราเห็นบรรพบุรุษของพวกเจ้า

ก็เหมือนเห็นผลมะเดื่อรุ่นแรก

แต่เมื่อพวกเขามาที่บาอัลเปโอร์

พวกเขาก็อุทิศตัวแก่เทวรูปอันน่าอับอายนั้น

และชั่วช้าไปเหมือนสิ่งที่พวกเขารัก

11 ศักดิ์ศรีของเอฟราอิมจะบินหายลับไปเหมือนนก

ไม่มีการเกิด ไม่มีการตั้งครรภ์ และไม่มีการปฏิสนธิ

12 ถึงแม้พวกเขาจะเลี้ยงดูลูกๆ ได้

เราก็จะพรากทุกคนไปจากพวกเขา

วิบัติแก่พวกเขา

เมื่อเราหันหนีไปจากพวกเขา!

13 เราได้เห็นเอฟราอิม

ถูกปลูกไว้ในที่ร่มรื่นเช่นเดียวกับเมืองไทระ

แต่เอฟราอิมจะพาลูกๆ ของพวกเขา

ออกมาให้เพชฌฆาต”

14 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอโปรดประทาน

พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่พวกเขา?

โปรดประทานครรภ์ที่แท้ง

และทรวงอกที่ไม่มีน้ำนม

15 “เพราะความชั่วร้ายทั้งปวงของพวกเขาในกิลกาล

ที่นั่นเราจึงเกลียดชังพวกเขา

เพราะการกระทำอันบาปหนาของพวกเขา

เราจะขับไล่พวกเขาออกจากนิเวศของเรา

เราจะไม่รักพวกเขาอีกต่อไป

ผู้นำทั้งหมดของพวกเขาเป็นคนชอบกบฏ

16 เอฟราอิมย่อยยับไปแล้ว

รากของพวกเขาเหี่ยวเฉา

พวกเขาไม่เกิดผล

ถึงแม้พวกเขามีลูก

เราก็จะประหารวงศ์วานที่รักยิ่งของพวกเขา”

17 พระเจ้าของข้าพเจ้าจะปฏิเสธพวกเขา

เพราะพวกเขาไม่เชื่อฟังพระองค์

พวกเขาจะเป็นคนเร่ร่อนอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/9-c3df2f6d1bba7f22c46ba5e8c0cfbe9d.mp3?version_id=179—

Categories
โฮเชยา

โฮเชยา 10

1 อิสราเอลเป็นองุ่นเถางาม

เขาเกิดผลเพื่อตัวเอง

เมื่อผลยิ่งดก

เขาก็ยิ่งสร้างแท่นบูชาเพิ่ม

เมื่อดินแดนของเขารุ่งเรืองขึ้น

เขาก็ตกแต่งหินศักดิ์สิทธิ์

2 จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหลอกลวง

และบัดนี้พวกเขาต้องรับโทษ

พระองค์จะทรงพังแท่นบูชาของพวกเขา

และทำลายหินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา

3 แล้วพวกเขาจะพูดว่า “เราไม่มีกษัตริย์

เพราะเราไม่ได้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

แต่ถึงเรามีกษัตริย์

พวกเขาจะทำอะไรให้เราได้?”

4 พวกเขาสัญญาไว้มากมาย

ทำข้อตกลง

และสาบานเท็จ

ฉะนั้นการฟ้องร้องคดีจึงงอกงาม

เหมือนวัชพืชที่เป็นพิษในทุ่งนาที่ไถแล้ว

5 ประชาชนที่อาศัยในสะมาเรีย

กลัวเทวรูปลูกวัวที่เบธอาเวน

คนของพระนั้นจะคร่ำครวญถึงมัน

ปุโรหิตผู้ลุ่มหลงมันก็เช่นกัน

และบรรดาผู้ที่ชื่นชมในความโอ่อ่าตระการของพระนั้นก็เป็นไปด้วย

เพราะมันจะถูกเนรเทศออกไป

6 มันจะถูกนำไปอัสซีเรีย

เป็นเครื่องบรรณาการแก่กษัตริย์ผู้เกรียงไกร

เอฟราอิมจะอับอายขายหน้า

อิสราเอลจะอดสูเนื่องด้วยเทวรูปซึ่งทำด้วยไม้ของพวกเขา

7 สะมาเรียและกษัตริย์ของมันจะลอยหายไป

เหมือนเศษไม้ที่อยู่บนผิวน้ำ

8 เทวสถานแห่งความชั่วร้ายซึ่งอยู่บนที่สูงของอิสราเอลจะถูกทำลาย

มันเป็นบาปของอิสราเอล

พืชหนามจะงอกขึ้น

ปกคลุมแท่นบูชาของเขา

แล้วพวกเขาจะกล่าวแก่ภูเขาทั้งหลายว่า “ปกคลุมเราไว้เถิด!”

และบอกเนินเขาทั้งหลายว่า “ล้มมาทับเราเถิด!”

9 “อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้ทำบาปมาตั้งแต่สมัยกิเบอาห์

และเจ้ายังทำอยู่อย่างนั้นเรื่อยมา

สงครามไม่ได้เล่นงานคนทำชั่ว

ในกิเบอาห์หรอกหรือ?

10 เมื่อเราเห็นชอบ เราจะลงโทษพวกเขา

ชนชาติต่างๆ จะรวมตัวกันต่อสู้พวกเขา

คุมขังพวกเขาเนื่องด้วยบาปซ้อนบาปของพวกเขา

11 เอฟราอิมเป็นวัวสาวที่ฝึกปรือแล้ว

มันชอบนวดข้าว

ฉะนั้นเราจะวางแอก

บนคออันสวยงามของมัน

เราจะลงประตักใส่เอฟราอิม

ยูดาห์ต้องลากคันไถ

และยาโคบต้องไถพรวนดิน

12 จงหว่านความชอบธรรมเพื่อตัวเจ้าเอง

จงเก็บเกี่ยวผลแห่งความรักมั่นคง

จงไถพรวนเนื้อดินที่ยังแข็งกระด้างของเจ้า

เพราะถึงเวลาที่จะแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า

จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา

และโปรยความชอบธรรมลงบนพวกเจ้าดั่งสายฝน

13 แต่เจ้ากลับปลูกความชั่วช้า

เจ้าเก็บเกี่ยวความอธรรม

เจ้ากินผลแห่งการหลอกลวง

เพราะเจ้าพึ่งกำลังตัวเอง

เจ้าพึ่งนักรบมากมายของเจ้า

14 เสียงโห่ร้องของสงครามจะดังขึ้นสู้คนของเจ้า

ดังนั้นป้อมปราการทั้งหลายของเจ้าจะถูกทำลายย่อยยับ

เมื่อแม่ทั้งหลายกับลูกๆ ของนางจะถูกจับฟาดกับพื้น

ก็จะเป็นเหมือนอย่างชัลมันทำลายล้างเบธอาร์เบลในยามศึก

15 เบธเอลเอ๋ย มันจะเกิดขึ้นกับเจ้าอย่างนั้นแหละ

เพราะเจ้าชั่วร้ายยิ่งนัก

เมื่อรุ่งอรุณวันนั้นเริ่มขึ้น

กษัตริย์อิสราเอลจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/10-2260e8ffb493b14ca5b242160799b13e.mp3?version_id=179—

Categories
โฮเชยา

โฮเชยา 11

ความรักของพระเจ้าต่ออิสราเอล

1 “เมื่ออิสราเอลยังเด็กอยู่ เรารักเขา

เราเรียกบุตรของเราออกจากอียิปต์

2 แต่ยิ่งเราเรียกอิสราเอลมากเท่าใด

พวกเขายิ่งไกลห่างจากเรามากเท่านั้น

พวกเขาถวายเครื่องบูชาแก่พระบาอัล

และเผาเครื่องหอมถวายรูปปั้นต่างๆ

3 เรานี่แหละสอนให้เอฟราอิมหัดเดิน

เราโอบอุ้มพวกเขาไว้ในอ้อมแขน

แต่พวกเขาไม่ตระหนัก

ว่าเรานี่แหละเป็นผู้รักษาพวกเขาให้หาย

4 เรานำพวกเขาด้วยสายใยแห่งความเมตตา

และด้วยพันธะแห่งความรัก

เราปลดแอกจากคอของพวกเขา

และก้มลงมาป้อนอาหารพวกเขา

5 “พวกเขาจะไม่กลับไปยังอียิปต์หรือ

และอัสซีเรียจะไม่ปกครองพวกเขาหรือ

ในเมื่อพวกเขาไม่ยอมกลับใจ?

6 ดาบทั้งหลายจะกวัดแกว่งอยู่ในเมืองต่างๆ ของพวกเขา

จะทำลายดาลประตูของพวกเขา

และทำให้แผนการต่างๆ ของพวกเขาจบสิ้นลง

7 ประชากรของเราตั้งใจทิ้งเราไป

แม้ว่าพวกเขาจะร้องทูลต่อเราผู้สูงสุด

เราก็จะไม่เชิดชูพวกเขาเลย

8 “เอฟราอิมเอ๋ย เราจะปล่อยเจ้าหลุดมือไปได้อย่างไร?

อิสราเอลเอ๋ย เราจะยอมปล่อยเจ้าไปได้อย่างไร?

เราจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนอัดมาห์ได้หรือ?

เราจะทำให้เจ้าเหมือนเศโบยิมได้อย่างไร?

จิตใจที่อยู่ภายในเราก็เปลี่ยนไป

ความเมตตาเอ็นดูของเราก็ได้รับการปลุกขึ้น

9 เราจะไม่ลงโทษเจ้าตามความโกรธอันรุนแรงของเรา

หรือหันมาทำลายล้างเอฟราอิมอีก

เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์

เป็นองค์บริสุทธิ์ท่ามกลางเจ้า

เราจะไม่มาด้วยความโกรธ

10 เขาจะติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า

พระองค์จะทรงเปล่งพระสุรเสียงดุจราชสีห์

เมื่อพระองค์ทรงเปล่งเสียงกึกก้อง

ลูกๆ ของพระองค์จะสั่นสะท้านกลับมาจากทางตะวันตก

11 เขาจะรีบรุดตัวสั่น

มาจากอียิปต์เหมือนนก

และมาจากอัสซีเรียเหมือนนกพิราบ

เราจะพาพวกเขากลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนอีก”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

บาปของอิสราเอล

12 เอฟราอิมล้อมกรอบเราด้วยคำโกหก

พงศ์พันธุ์อิสราเอลห้อมล้อมเราด้วยการหลอกลวง

และยูดาห์ดื้อด้านแม้แต่กับพระเจ้า

ซึ่งเป็นองค์บริสุทธิ์ผู้ซื่อสัตย์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/11-5e49db1f39906d212896774897837f1d.mp3?version_id=179—

Categories
โฮเชยา

โฮเชยา 12

1 เอฟราอิมเลี้ยงชีพด้วยลม

เขาติดตามลมตะวันออกทั้งวัน

เขาทวีการโกหกและความอำมหิต

เขาทำสัญญากับอัสซีเรีย

และส่งน้ำมันมะกอกไปยังอียิปต์

2 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดำเนินคดีกับยูดาห์

พระองค์จะทรงลงโทษยาโคบตามวิถีทางความประพฤติของเขา

และตอบแทนเขาตามการกระทำของเขา

3 เขาฉวยส้นเท้าของพี่ชายไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

ครั้นหนุ่มใหญ่เขาก็ต่อสู้กับพระเจ้า

4 เขาสู้กับทูตสวรรค์และเอาชนะได้

เขาร่ำไห้อ้อนวอนขอความเมตตา

พระองค์ทรงพบเขาที่เบธเอล

และตรัสกับเขาที่นั่น

5 พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์

พระยาห์เวห์เป็นพระนามอันเกรียงไกรของพระองค์!

6 แต่เจ้าต้องกลับมาหาพระเจ้าของเจ้า

จงผดุงความรักและความยุติธรรม

และรอคอยพระเจ้าของเจ้าเสมอ

7 พวกพ่อค้าโกงตาชั่ง

เขารักการฉ้อฉล

8 เอฟราอิมโอ้อวดว่า

“เราร่ำรวยมากและกลายเป็นเศรษฐี

ด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเรา

พวกเขาจะไม่พบความชั่วช้าหรือบาปใดๆ ในเราเลย”

9 “เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

ผู้พาเจ้าออกมาจากอียิปต์

เราจะทำให้เจ้าอาศัยอยู่ในเต็นท์อีกครั้ง

เหมือนเมื่อครั้งเทศกาลงานเลี้ยงตามกำหนดของเจ้า

10 เราพูดกับบรรดาผู้เผยพระวจนะ

ให้นิมิตมากมายแก่พวกเขา

และกล่าวคำอุปมาผ่านทางพวกเขา”

11 กิเลอาดชั่วร้ายหรือ?

ชาวเมืองนั้นไร้ค่านัก!

พวกเขาถวายวัวผู้ในกิลกาลหรือ?

แท่นบูชาของพวกเขาจะเป็นเหมือนกองหิน

บนทุ่งที่ไถแล้ว

12 ยาโคบหนีไปยังแดนอารัม

อิสราเอลปรนนิบัติรับใช้เพื่อจะได้ภรรยา

เขาเลี้ยงแกะเพื่อจ่ายเป็นค่าตัวนาง

13 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งนำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์

ทรงใช้ผู้เผยพระวจนะดูแลอิสราเอล

14 แต่เอฟราอิมยั่วโทสะพระองค์อย่างรุนแรง

องค์พระผู้เป็นเจ้าของเขาจะทรงปล่อยให้ความผิดเพราะการนองเลือดตกอยู่กับเขา

และจะตอบแทนการหมิ่นประมาทของพวกเขา

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/12-316fa6195c4e1f386ebfe332809793d8.mp3?version_id=179—

Categories
โฮเชยา

โฮเชยา 13

พระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า

1 เมื่อเอฟราอิมกล่าว ผู้คนก็สั่นสะท้าน

เขาเป็นที่ยกย่องในอิสราเอล

แต่เขาก็มีความผิดและตายไปเพราะกราบไหว้พระบาอัล

2 บัดนี้ เขายิ่งทำบาปมากขึ้น

เขาใช้เงินทำรูปเคารพเพื่อตัวเขาเอง

เป็นเทวรูปที่ปั้นแต่งขึ้นอย่างชาญฉลาด

ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของช่างฝีมือ

ผู้คนกล่าวถึงคนเหล่านี้ว่า

“พวกเขาใช้มนุษย์เป็นเครื่องบูชา

และจูบเทวรูปลูกวัว”

3 ฉะนั้นเขาจะเป็นเหมือนหมอกในยามเช้า

เหมือนน้ำค้างยามรุ่งอรุณซึ่งหายลับไป

เหมือนแกลบปลิวจากลานนวดข้าว

เหมือนควันที่ลอยออกไปทางหน้าต่าง

4 “แต่เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์

เจ้าจะไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา

และไม่มีผู้ช่วยให้รอดอื่นใดยกเว้นเรา

5 เราฟูมฟักดูแลเจ้าในทะเลทราย

ในดินแดนอันร้อนระอุ

6 เมื่อเราเลี้ยงดูพวกเขา พวกเขาก็อิ่มหนำ

เมื่ออิ่มหนำแล้ว พวกเขาก็หยิ่งผยองขึ้น

และลืมเรา

7 ดังนั้นเราจึงจู่โจมเข้าใส่พวกเขาเหมือนสิงโต

เราจะซุ่มอยู่ริมทางเหมือนเสือดาว

8 เหมือนแม่หมีที่ถูกขโมยลูกไป

เราจะเข้าโจมตีและฉีกพวกเขาออก

เราจะเป็นดั่งราชสีห์ที่กลืนกินพวกเขา

สัตว์ป่าจะฉีกพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ

9 “อิสราเอลเอ๋ย เจ้าถูกทำลายล้าง

เพราะเจ้าต่อสู้เราผู้ที่ช่วยเหลือเจ้า

10 ไหนล่ะกษัตริย์ของเจ้า ผู้ที่จะช่วยเจ้าได้?

ไหนล่ะเจ้าเมืองทั้งปวง

ที่เจ้าพูดว่า

‘ให้เรามีกษัตริย์และเจ้านายเถิด’?

11 ฉะนั้นเราจึงให้กษัตริย์แก่เจ้าด้วยโทสะของเรา

และเราก็พรากเขาไปด้วยความกริ้วโกรธของเรา

12 ความผิดของเอฟราอิมถูกสะสมไว้

และบาปของเขาถูกบันทึกไว้

13 เขาเจ็บปวดเหมือนหญิงใกล้คลอด

แต่เขาเป็นเด็กไร้สติปัญญา

เมื่อถึงเวลาแล้ว

เขาก็ไม่ยอมคลอดออกมา

14 “เราจะไถ่ตัวพวกเขาจากอำนาจของแดนผู้ตาย

เราจะไถ่เขาจากความตาย

ความตายเอ๋ย ไหนล่ะพิษสงของเจ้า?

แดนผู้ตายเอ๋ย ไหนล่ะหายนะของเจ้า?

“เราจะไม่มีความเมตตาสงสารเลย

15 ถึงแม้ว่าเขารุ่งโรจน์อยู่ในหมู่พี่น้อง

แต่ลมตะวันออกจากองค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง

พัดกระหน่ำมาจากทะเลทราย

น้ำพุของเขาจะไม่ไหล

บ่อน้ำของเขาจะเหือดแห้ง

และคลังของเขาจะถูกปล้นชิง

เอาทรัพย์สมบัติไปหมด

16 ชาวสะมาเรียต้องรับโทษความผิดของตน

เพราะพวกเขากบฏต่อพระเจ้าของพวกเขา

พวกเขาจะล้มลงด้วยดาบ

ลูกอ่อนของพวกเขาจะถูกจับฟาดกับพื้น

และหญิงมีครรภ์ของพวกเขาจะถูกผ่าท้อง”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/13-3f20f5a34d58df55ef8ea36db5f8eaaa.mp3?version_id=179—

Categories
โฮเชยา

โฮเชยา 14

การกลับใจใหม่ซึ่งนำพระพรมา

1 อิสราเอลเอ๋ย จงหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเถิด

ที่เจ้าล่มจมลงก็เพราะบาปทั้งหลายของเจ้า!

2 จงนำคำอ้อนวอนมาด้วย

และกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด

จงทูลพระองค์ว่า

“ขอทรงอภัยบาปทั้งสิ้นของข้าพระองค์ทั้งหลาย

ขอทรงรับข้าพระองค์ทั้งหลายไว้ด้วยพระคุณ

เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะถวายคำสรรเสริญจากริมฝีปากของข้าพระองค์ทั้งหลาย

3 อัสซีเรียไม่อาจช่วยเหล่าข้าพระองค์ได้

ข้าพระองค์ทั้งหลายจะไม่พึ่งม้าศึก

จะไม่เรียกสิ่งที่มือของข้าพระองค์ทั้งหลายสร้างขึ้นนั้นว่า

‘บรรดาพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย’ อีกต่อไป

เพราะลูกกำพร้าพ่อจะพบความเมตตาสงสารในพระองค์”

4 “เราจะรักษาความดื้อด้านของพวกเขา

และจะรักพวกเขาอย่างเต็มที่

เพราะเราหายโกรธพวกเขาแล้ว

5 เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรมให้อิสราเอล

เขาจะผลิบานดั่งดอกลิลลี่

เขาจะหยั่งรากลง

เหมือนสนซีดาร์แห่งเลบานอน

6 หน่ออ่อนของเขาจะเติบโตขึ้น

เขาจะงดงามรุ่งโรจน์เหมือนต้นมะกอก

และส่งกลิ่นหอมเหมือนสนซีดาร์แห่งเลบานอน

7 ผู้คนจะพักพิงในร่มเงาของเขาอีก

เขาจะเจริญงอกงามเหมือนเมล็ดข้าว

จะผลิบานเหมือนเถาองุ่น

ชื่อเสียงเลื่องลือเหมือนเหล้าองุ่นจากเลบานอน

8 เอฟราอิมเอ๋ย เราจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับรูปเคารพทั้งหลายอีก?

เราจะตอบเขาและห่วงใยดูแลเขา

เราเป็นเหมือนต้นสนเขียวชอุ่ม

เจ้าจะมีผลงอกงามเพราะเรา”

9 ผู้ใดเฉลียวฉลาด? ผู้นั้นจะประจักษ์สิ่งเหล่านี้

ผู้ใดมีวิจารณญาณ? ผู้นั้นจะเข้าใจ

วิถีทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าล้วนถูกต้อง

ผู้ชอบธรรมดำเนินในวิถีทางเหล่านี้

แต่ผู้กบฏต่อพระเจ้าก็สะดุดอยู่ในทางของพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/HOS/14-c7516445c1516d8428f7aa74a14bd1bc.mp3?version_id=179—

Categories
โยเอล

โยเอล 1

1 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมีมาถึงโยเอล

บุตรเปธูเอล ความว่า

ตั๊กแตนบุก

2 ท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย จงฟังเถิด

ประชาชนทั้งปวง จงฟังเถิด

เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้บ้างไหม

ทั้งในสมัยของท่านหรือสมัยบรรพบุรุษของท่าน?

3 จงเล่าให้ลูกๆ ของท่านฟัง

และให้ลูกบอกหลาน

ให้หลานบอกเหลนต่อๆ กันไป

4 ตั๊กแตนวัยเดินกินอะไรเหลือ

ตั๊กแตนใหญ่ก็มากิน

ตั๊กแตนใหญ่กินอะไรเหลือ

ตั๊กแตนอ่อนก็มากิน

ตั๊กแตนอ่อนกินอะไรเหลือ

ตั๊กแตนอื่นๆก็มากิน

5 ลุกขึ้นเถิด คนขี้เมาเอ๋ย จงร่ำไห้!

จงคร่ำครวญเถิด บรรดานักดื่มเหล้าองุ่นเอ๋ย

จงโอดครวญเพราะเหล้าใหม่

เพราะมันถูกฉวยเอาไปจากริมฝีปากของเจ้าแล้ว

6 กองทัพชาติหนึ่งมาบุกรุกดินแดนของข้าพเจ้า

มันมีกำลังมากและมีจำนวนนับไม่ถ้วน

ฟันของมันคมดั่งฟันของราชสีห์

เขี้ยวดั่งเขี้ยวของนางสิงห์

7 มันทำลายเถาองุ่น

และทำให้ต้นมะเดื่อของข้าพเจ้าป่นปี้

มันลอกเปลือกออกโยนทิ้ง

เหลือไว้แต่กิ่งก้านขาวโพลน

8 จงร่ำไห้ดั่งหญิงพรหมจารีสวมเสื้อผ้ากระสอบ

ซึ่งคร่ำครวญถึงเจ้าบ่าวในวัยแรกรุ่นของเธอ

9 ธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชา

สูญสิ้นไปจากพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เหล่าปุโรหิตผู้ปรนนิบัติรับใช้อยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าไว้ทุกข์

10 ท้องทุ่งย่อยยับ

พื้นดินแตกระแหง

เมล็ดข้าวก็ถูกทำลาย

เหล้าองุ่นใหม่เหือดแห้ง

และไม่มีน้ำมันมะกอก

11 ชาวนาทั้งหลาย จงสิ้นหวัง

ชาวสวนองุ่น จงร่ำไห้

จงทุกข์โศกเรื่องข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์

เพราะพืชผลพินาศสิ้นจากแผ่นดิน

12 เถาองุ่นเหี่ยวเฉา

ต้นมะเดื่อแห้งเหี่ยวไป

ทั้งต้นทับทิม ต้นอินทผลัม และต้นแอปเปิ้ล

คือต้นไม้ทั้งปวงในท้องทุ่งเหี่ยวแห้ง

ความปีติแห่งมวลมนุษยชาติ

ร่วงโรยไปแน่แล้ว

เรียกร้องให้กลับใจ

13 ปุโรหิตทั้งหลายเอ๋ย จงสวมเสื้อผ้ากระสอบและไว้ทุกข์

ท่านผู้ปฏิบัติงานหน้าแท่นบูชา จงร่ำไห้

มาเถิดท่านผู้ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า

จงสวมเสื้อผ้ากระสอบไว้ตลอดคืน

เพราะธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชา

ขาดไปจากพระนิเวศของพระเจ้าของท่านแล้ว

14 จงประกาศให้มีการถืออดอาหารอันบริสุทธิ์

จงเรียกประชุมอันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์

จงเรียกเหล่าผู้อาวุโส

และทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น

ให้มายังพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

และร้องทูลอ้อนวอนองค์พระผู้เป็นเจ้า

15 ช่างเป็นวันที่น่ากลัวยิ่งนัก!

เพราะวันขององค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว

จะมาเหมือนหายนะจากองค์ทรงฤทธิ์

16 อาหารสูญสิ้นไป

ต่อหน้าต่อตาเราแล้วไม่ใช่หรือ?

ความชื่นชมยินดีและความเปรมปรีดิ์

สูญสิ้นไปจากพระนิเวศของพระเจ้าของเราแล้วไม่ใช่หรือ?

17 เมล็ดพืชเหี่ยวเฉาคาดิน

ยุ้งฉางย่อยยับปรักหักพัง

เพราะเมล็ดข้าวเหี่ยวแห้งไปหมด

18 ฝูงวัวร้องครวญครางเพียงไร!

มันเดินงุ่นง่าน

เพราะไม่มีทุ่งหญ้า

แม้แต่ฝูงแกะก็ทุกข์ทรมาน

19 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์

เพราะไฟเผาผลาญทุ่งโล่งที่ใช้เลี้ยงสัตว์

เปลวไฟแผดเผาต้นไม้ทั้งปวงในท้องทุ่งวอดวาย

20 แม้แต่สัตว์ป่าก็ครวญหาพระองค์

ธารน้ำเหือดแห้งไปสิ้น

และไฟก็เผาผลาญทุ่งโล่งซึ่งใช้เลี้ยงสัตว์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOL/1-a4a5e8852718d56248791df1b10d9c6a.mp3?version_id=179—

Categories
โยเอล

โยเอล 2

กองทัพตั๊กแตน

1 จงเป่าแตรในศิโยน

ให้สัญญาณเตือนบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา

ประชาชนทั้งปวงจงสั่นสะท้าน

เพราะวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังมาถึงแล้ว

วันนั้นใกล้เข้ามาทุกที

2 เป็นวันแห่งความมืดมิดและหม่นหมอง

เป็นวันเมฆครึ้มและดำทะมึน

เหมือนแสงอรุณสาดฉายทั่วภูเขา

กองทัพยิ่งใหญ่เกรียงไกรยกมา

อย่างที่ไม่เคยมีในอดีต

และจะไม่มีอีกเลยในอนาคต

3 เบื้องหน้ามันมีไฟเผาผลาญ

เบื้องหลังมีเปลวไฟแผดกล้า

ตรงหน้ามันมีดินแดนงดงามเหมือนสวนเอเดน

คล้อยหลังมันเหลือแต่แดนร้าง

ไม่มีสิ่งใดพ้นเงื้อมมือมันไปได้

4 มันมีลักษณะคล้ายม้า

ขับควบมาเหมือนขบวนม้าศึก

5 มันโลดแล่นอยู่บนยอดเขา

เสียงดังเหมือนรถม้าศึก

ดั่งเสียงไฟแตกปะทุซึ่งเผาตอไม้

และเหมือนทัพใหญ่ยกขึ้นมารบ

6 ประชาชาติต่างๆ เห็นมันแล้วก็กระสับกระส่าย

ทุกคนใบหน้าซีดเผือด

7 มันบุกเข้ามาเหมือนนักรบ

ปีนกำแพงเหมือนทหาร

มันเดินขบวนเข้ามาเป็นแนว

ไม่มีแตกแถวเลย

8 มันไม่เบียดเสียดกัน

แต่ละตัวเดินตรงไปข้างหน้า

ตะลุยฝ่าเครื่องกีดขวาง

โดยไม่แตกแถว

9 มันรีบรุดเข้าเมือง

มันวิ่งไปตามกำแพง

ปีนเข้าไปในบ้าน

เข้าไปทางหน้าต่างเหมือนขโมย

10 โลกสั่นคลอนต่อหน้าพวกมัน

ฟ้าสวรรค์สั่นสะท้าน

ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มืดไป

ดวงดาวอับแสง

11 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปล่งพระสุรเสียงกึกก้อง

ทรงนำกองทัพของพระองค์มา

กองกำลังของพระองค์สุดคณานับ

ผู้ที่เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ก็มีอานุภาพมาก

วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่

และน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

ใครเล่าจะทนอยู่ได้?

จงฉีกใจของเจ้า

12 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า

“บัดนี้จงกลับมาหาเราอย่างสุดใจ

ด้วยการถืออดอาหาร ร้องไห้ และคร่ำครวญ”

13 จงฉีกใจ

ไม่ใช่ฉีกเสื้อผ้า

จงหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

เพราะพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสาร

ทรงกริ้วช้าและเปี่ยมด้วยความรัก

ทรงอดพระทัยไว้ไม่ลงโทษ

14 ใครจะรู้ได้ พระองค์อาจหวนกลับมาสงสาร

และทรงอำนวยพระพร

ทรงให้มีธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชา

เพื่อถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

15 จงเป่าแตรในศิโยน

จงประกาศการถืออดอาหารอันบริสุทธิ์

และเรียกชุมนุมอันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์

16 จงรวบรวมประชาชน

ชำระให้เป็นที่ประชุมอันบริสุทธิ์

จงประชุมผู้อาวุโส

รวบรวมเด็กๆ

แม้เด็กที่ยังกินนมแม่

ให้เจ้าบ่าวออกมาจากห้อง

และให้เจ้าสาวออกมาจากหอ

17 ให้ปุโรหิตผู้ปฏิบัติงานอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

ร่ำไห้อยู่ระหว่างมุขพระวิหารกับแท่นบูชา

ให้พวกเขาทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงสงวนประชากรของพระองค์

อย่าให้มรดกของพระองค์เป็นที่เย้ยหยัน

เป็นคำเปรียบเปรยในหมู่ประชาชาติ

อย่าให้ชนชาติทั้งหลายพูดกันว่า

‘ไหนล่ะพระเจ้าของพวกเขา?’ ”

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบ

18 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงหวงแหนดินแดนของพระองค์

และจะทรงเวทนาสงสารประชากรของพระองค์

19 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงตอบพวกเขาว่า

“เราจะส่งเมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันมาให้

จนเจ้าทั้งหลายอิ่มหนำสำราญ

เราจะไม่ทำให้เจ้าตกเป็นเป้าของการเย้ยหยัน

ของประชาชาติต่างๆ อีกต่อไป

20 “เราจะขับไล่กองทัพแดนเหนือไปไกลจากเจ้า

ไสส่งเขาไปยังถิ่นที่แห้งแล้งกันดาร

ให้กองหน้าของมันลงทะเลด้านตะวันออกไป

ส่วนกองหลังลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

และส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง

โชยขึ้นมา”

พระองค์ได้ทรงกระทำการยิ่งใหญ่มากอย่างแน่นอน!

21 แผ่นดินเอ๋ย อย่ากลัวเลย

จงยินดีปรีดา

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำการยิ่งใหญ่มากอย่างแน่นอน!

22 สัตว์ป่าทั้งหลาย อย่ากลัวเลย

เพราะทุ่งโล่งซึ่งใช้เลี้ยงสัตว์จะกลับเขียวขจี

ต้นไม้จะผลิผล

มะเดื่อและเถาองุ่นจะออกผลงาม

23 ประชากรศิโยนเอ๋ย จงเปรมปรีดิ์

จงชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน

เพราะพระองค์ได้ประทาน

สายฝนฤดูใบไม้ร่วงด้วยความชอบธรรมให้แก่ท่าน

พระองค์ทรงให้ฝนตกชุก

ทั้งฝนฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิเหมือนแต่ก่อน

24 ลานนวดข้าวจะมีข้าวอยู่เต็ม

บ่อเก็บมีเหล้าองุ่นใหม่และน้ำมันมะกอกเต็มล้น

25 “เราจะชดเชยให้สำหรับช่วงปีที่ตั๊กแตนกัดกิน

ทั้งตั๊กแตนใหญ่ ตั๊กแตนอ่อน

ตั๊กแตนวัยเดิน และตั๊กแตนอื่นๆ

คือกองทัพใหญ่ที่เราส่งมายังเจ้า

26 เจ้าจะมีกินอย่างเหลือเฟือจนอิ่มหนำ

และเจ้าจะสรรเสริญพระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

ผู้ทรงกระทำการอัศจรรย์เพื่อเจ้า

ประชากรของเราจะไม่ต้องอัปยศอดสูอีกเลย

27 แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราอยู่ในอิสราเอล

เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

ไม่มีอื่นใดอีก

ประชากรของเราจะไม่ต้องอัปยศอดสูอีก

วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า

28 “และต่อมาภายหลัง

เราจะเทวิญญาณของเราลงเหนือประชากรทั้งปวง

บุตรชายบุตรสาวของเจ้าจะเผยพระวจนะ

คนชราของเจ้าจะฝันเห็น

คนหนุ่มของเจ้าจะเห็นนิมิต

29 เมื่อถึงเวลานั้นเราจะเทวิญญาณของเรา

ลงมาเหนือผู้รับใช้ของเราทั้งชายและหญิง

30 เราจะสำแดงการอัศจรรย์ในฟ้าสวรรค์

และที่แผ่นดินโลก

มีเลือด ไฟ และกลุ่มควัน

31 ดวงอาทิตย์จะถูกเปลี่ยนเป็นความมืด

และดวงจันทร์จะกลายเป็นเลือด

ก่อนวันอันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง

32 และทุกคนที่ร้องออกพระนามของพระยาห์เวห์

จะได้รับการช่วยให้รอด

เพราะบนภูเขาศิโยน

และในเยรูซาเล็มจะมีการช่วยกู้

ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้

ท่ามกลางผู้รอดชีวิตอยู่

ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกไว้

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOL/2-f48acc326d210e84e9a425057b4b23bd.mp3?version_id=179—

Categories
โยเอล

โยเอล 3

ประชาชาติทั้งหลายถูกพิพากษา

1 “เมื่อถึงเวลานั้น

เมื่อเราฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของยูดาห์และเยรูซาเล็ม

2 เราจะรวบรวมประชาชาติทั้งปวง

พาเขาลงมายังหุบเขาเยโฮชาฟัท

ที่นั่นเราจะเริ่มพิพากษาพวกเขา

เรื่องประชากรอิสราเอลกรรมสิทธิ์ของเรา

เพราะพวกเขาทำให้ประชากรของเรากระจัดกระจายไปในหมู่ประชาชาติ

และแบ่งดินแดนของเรา

3 เขาจับสลากแบ่งประชากรของเรา

และเอาเด็กผู้ชายไปแลกหญิงโสเภณีมา

พวกเขาได้ขายเด็กผู้หญิงแลกกับเหล้าองุ่น

ที่พวกเขาจะได้ดื่ม

4 “นี่แน่ะไทระและไซดอนกับภูมิภาคทั้งปวงของฟีลิสเตียเอ๋ย เจ้าจะเอาเรื่องกับเราว่าอย่างไร? เจ้าจะตอบสนองสิ่งที่เราทำไปหรือ? หากเจ้าแก้แค้น เราก็จะให้กรรมที่เจ้าก่อไว้ตกอยู่แก่เจ้าเองอย่างฉับพลันทันที

5 เพราะเจ้ายึดเอาเงินและทองคำกับสมบัติล้ำค่าของเราไปไว้ที่วิหารต่างๆ ของเจ้า

6 เจ้าขายชนยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มให้แก่ชาวกรีกเพื่อจะได้เนรเทศพวกเขาไปไกลจากบ้านเกิดเมืองนอน

7 “ดูเถิด เราจะกระตุ้นพวกเขาออกมาจากที่ต่างๆ ซึ่งเจ้าขายพวกเขาไป และเราจะให้กรรมที่เจ้าก่อไว้ตกอยู่แก่เจ้าเอง

8 เราจะขายบุตรชายบุตรสาวของเจ้าให้แก่ชาวยูดาห์ ซึ่งจะขายต่อให้ชาวเสบา ชนชาติซึ่งอยู่ไกลลิบ”องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น

9 จงประกาศในหมู่ประชาชาติดังนี้ว่า

เตรียมรบเถิด!

จงปลุกใจเหล่านักรบ!

ให้พลรบทั้งปวงเข้ามาใกล้และบุกทันที

10 จงเอาผาลไถนามาตีเป็นดาบ

และตีขอลิดให้เป็นทวน

ให้คนอ่อนแอพูดว่า

“ฉันเข้มแข็ง!”

11 ประชาชาติทั้งปวงจากรอบทิศเอ๋ย

มาเร็วเถิด มาชุมนุมกันที่นั่น

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า! ขอทรงส่งนักรบของพระองค์ลงมาเถิด!

12 “จงปลุกใจประชาชาติทั้งหลาย

ให้รุดหน้ามายังหุบเขาเยโฮชาฟัท

เพราะที่นั่นเราจะนั่งลงตัดสิน

ประชาชาติทั้งปวงรอบทิศ

13 จงแกว่งเคียว

เพราะข้าวสุกพร้อมให้เกี่ยวแล้ว

มาเถิด มาย่ำองุ่น

เพราะบ่อย่ำองุ่นเต็มแล้ว

และบ่อเก็บมีเหล้าองุ่นเต็มล้น

ความชั่วร้ายของพวกเขามากมายนัก!”

14 ผู้คนมากันมืดฟ้ามัวดิน

ในหุบเขาแห่งการพิพากษา!

เพราะวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว

ในหุบเขาแห่งการพิพากษา

15 ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จะมืดมิดไป

และดวงดาวจะอับแสง

16 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปล่งพระสุรเสียงกึกก้องจากศิโยน

ทรงเปล่งพระสุรเสียงจากเยรูซาเล็ม

แผ่นดินและผืนฟ้าจะสั่นสะท้าน

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเป็นที่ลี้ภัยสำหรับประชากรของพระองค์

เป็นที่มั่นสำหรับประชากรอิสราเอล

พระพรสำหรับประชากรของพระเจ้า

17 “เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

พำนักอยู่ในศิโยนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา

เยรูซาเล็มจะบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์

คนต่างชาติจะไม่มาย่ำยีมันอีก

18 “ในวันนั้นจะมีน้ำองุ่นหยดจากภูเขา

และมีน้ำนมไหลมาจากเนินเขา

ลำห้วยทั้งปวงของยูดาห์จะมีน้ำนอง

ธารน้ำพุจะไหลออกมาจากพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ให้ความชุ่มชื่นแก่หุบเขาต้นกระถินเทศ

19 แต่อียิปต์จะเริศร้าง

เอโดมกลายเป็นถิ่นกันดาร

เพราะความอำมหิตที่ทำไว้กับชาวยูดาห์

พวกเขาทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งเลือดในดินแดนนั้น

20 ยูดาห์และเยรูซาเล็มจะมีผู้อยู่อาศัย

ตลอดไปทุกชั่วอายุ

21 ความผิดที่พวกเขาทำให้โลหิตตกซึ่งเราไม่ได้อภัยให้นั้น

เราจะให้อภัย”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประทับอยู่ในศิโยน!

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/JOL/3-50d08d3235792b0d25b7ae4e5d62d8b1.mp3?version_id=179—

Categories
อาโมส

อาโมส 1

1 ถ้อยคำของอาโมส คนเลี้ยงแกะคนหนึ่งในเทโคอา สิ่งที่อาโมสได้เห็นเกี่ยวกับอิสราเอลสองปีก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว เมื่อครั้งอุสซียาห์เป็นกษัตริย์ยูดาห์ และเยโรโบอัมบุตรเยโฮอาชเป็นกษัตริย์อิสราเอล

2 อาโมสกล่าวว่า

“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปล่งพระสุรเสียงกึกก้องจากศิโยน

ทรงเปล่งพระสุรเสียงจากเยรูซาเล็ม

แล้วทุ่งหญ้าของคนเลี้ยงแกะก็เหี่ยวเฉา

และยอดเขาคารเมลก็เหี่ยวแห้งไป”

คำพิพากษาบรรดาเพื่อนบ้านของอิสราเอล

3 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“เนื่องจากดามัสกัสทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง

เราจึงไม่หายโกรธ

เพราะมันนวดกิเลอาดด้วยเลื่อน

ซึ่งมีฟันเป็นเหล็ก

4 เราจะส่งไฟมายังบ้านของฮาซาเอล

ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของเบนฮาดัด

5 เราจะทลายประตูเมืองดามัสกัส

เราจะทำลายล้างกษัตริย์ซึ่งอยู่ในหุบเขาอาเวน

และทำลายผู้ถือคทาในเบธเอเดน

ชาวอารัมจะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่เมืองคีร์”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น

6 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“เนื่องจากกาซาทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง

เราจึงไม่หายโกรธ

เพราะเขากวาดต้อนคนทั้งชุมชนไปเป็นเชลย

และขายให้แก่เอโดม

7 เราจะส่งไฟมายังกำแพงเมืองกาซา

ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของมัน

8 เราจะทำลายกษัตริย์แห่งอัชโดด

และทำลายผู้ถือคทาในอัชเคโลน

เราจะตวัดมือฟาดเอโครน

จวบจนชาวฟีลิสเตียคนสุดท้ายตายไป”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนั้น

9 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“เนื่องจากไทระทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง

เราจึงไม่หายโกรธ

เพราะเขาขายเชลยทั้งชุมชนให้แก่เอโดม

ไม่คำนึงถึงสัญญาไมตรีฉันพี่น้อง

10 เราจะส่งไฟมายังกำแพงเมืองไทระ

ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของมัน”

11 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“เนื่องจากเอโดมทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง

เราจึงไม่หายโกรธ

เพราะเขาถือดาบตามล่าน้องชาย

โดยไม่ปรานี

เพราะโทสะของเขาพลุ่งพล่านอยู่ตลอดเวลา

และเกรี้ยวกราดไม่ได้หยุดหย่อน

12 เราจะส่งไฟมายังเทมาน

ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของโบสราห์”

13 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“เนื่องจากอัมโมนทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง

เราจึงไม่หายโกรธ

เพราะเขาผ่าท้องหญิงมีครรภ์ในกิเลอาด

เพื่อขยายเขตแดน

14 เราจะส่งไฟลงมายังกำแพงเมืองรับบาห์

ซึ่งจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของมัน

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องคะนองศึกในวันสงคราม

ท่ามกลางสายลมปั่นป่วนในวันที่มีพายุจัด

15 กษัตริย์ของอัมโมนกับเหล่าข้าราชบริพาร

จะตกเป็นเชลย”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/AMO/1-12d629611a360231913934ce258cbae2.mp3?version_id=179—