Categories
สดุดี

สดุดี 111

1 จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

ข้าพเจ้าจะเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าหมดหัวใจ

ในที่ประชุมของผู้ชอบธรรมและในที่ชุมนุม

2 พระราชกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่

ทุกคนที่ปีติยินดีในพระราชกิจเหล่านั้นก็คิดใคร่ครวญถึง

3 พระราชกิจของพระองค์สูงส่งและทรงเกียรติ

ความชอบธรรมของพระองค์ดำรงนิรันดร์

4 พระองค์ทรงกระทำให้การอัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่จดจำไม่รู้ลืม

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและทรงเอ็นดูสงสาร

5 พระองค์ประทานอาหารแก่ผู้ที่ยำเกรงพระองค์

พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดไป

6 พระองค์ทรงสำแดงอานุภาพแห่งพระราชกิจของพระองค์แก่เหล่าประชากรของพระองค์

ทรงประทานดินแดนของชนชาติอื่นๆ แก่พวกเขา

7 พระราชกิจแห่งพระหัตถ์ของพระองค์นั้นซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม

ข้อบังคับทั้งหมดของพระองค์เชื่อถือได้

8 สิ่งเหล่านี้ตั้งมั่นอยู่ชั่วนิรันดร์

กำหนดขึ้นจากความซื่อสัตย์และความเที่ยงธรรม

9 พระองค์ทรงชำระค่าไถ่สำหรับประชากรของพระองค์

พระองค์ทรงสถาปนาพันธสัญญาของพระองค์ไว้เป็นนิตย์

พระนามของพระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์ น่าเกรงขามยิ่งนัก

10 ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นของสติปัญญา

ทุกคนที่ปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์มีความเข้าใจดี

การสรรเสริญพระองค์คงอยู่ตราบนิรันดร

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/111-1d745cfc47469e63898b049b901eeb7e.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 112

1 จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

ความสุขมีแก่ผู้ที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ที่ปีติยินดีในพระบัญชาของพระองค์

2 ลูกหลานของพวกเขาจะเกรียงไกรในดินแดน

ผู้ชอบธรรมแต่ละชั่วอายุจะได้รับพระพร

3 ความมั่งคั่งและทรัพย์สมบัติอยู่ในเรือนของเขา

และความชอบธรรมของเขาดำรงอยู่นิรันดร์

4 แม้ในความมืด แสงสว่างก็ฉายเข้ามาสำหรับผู้เที่ยงธรรม

สำหรับผู้มีใจเมตตากรุณาและชอบธรรม

5 ผู้ที่มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และให้ยืมด้วยใจกว้างขวาง

ผู้ที่ดำเนินกิจการอย่างเที่ยงธรรมจะอยู่เย็นเป็นสุข

6 แน่ทีเดียว คนชอบธรรมจะไม่มีวันสั่นคลอน

พวกเขาจะเป็นที่จดจำเสมอไป

7 พวกเขาจะไม่หวาดวิตกต่อข่าวร้าย

จิตใจของพวกเขาแน่วแน่และวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

8 จิตใจของพวกเขามั่นคง ไม่มีความกลัว

สุดท้ายพวกเขาจะมองดูศัตรูอย่างผู้ชนะ

9 พวกเขาได้แจกจ่ายให้คนยากจน

ความชอบธรรมของพวกเขาดำรงอยู่นิรันดร์

พวกเขาจะยิ่งใหญ่และมีเกียรติ

10 คนชั่วร้ายจะเห็นและหัวเสีย

พวกเขาจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและย่อยยับไป

ความปรารถนาของคนชั่วร้ายจะสูญเปล่า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/112-64d87e4539241ab12994e0e598a07d38.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 113

1 จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

จงสรรเสริญเถิด บรรดาผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

จงสรรเสริญพระนามของพระยาห์เวห์

2 ขอให้พระนามของพระยาห์เวห์เป็นที่สรรเสริญ

ตั้งแต่บัดนี้และสืบไปนิรันดร

3 ตั้งแต่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จนถึงที่ดวงอาทิตย์ตก

พระนามของพระยาห์เวห์จะเป็นที่สรรเสริญ

4 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นที่ยกย่องเทิดทูนเหนือมวลประชาชาติ

พระเกียรติสิริของพระองค์สูงส่งกว่าฟ้าสวรรค์

5 ผู้ใดจะเสมอเหมือนพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา?

ผู้ประทับบนบัลลังก์เบื้องสูง

6 ผู้ทรงโน้มพระองค์ลงมา

ทอดพระเนตรฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก

7 พระองค์ทรงยกคนยากจนขึ้นจากฝุ่นธุลี

ทรงยกคนขัดสนขึ้นจากกองขี้เถ้า

8 พระองค์ทรงให้เขานั่งร่วมกับเจ้านาย

กับเจ้านายแห่งชนชาติของเขา

9 พระองค์ประทานเหย้าเรือนแก่ผู้หญิงที่เป็นหมัน

เพื่อเธอจะเป็นมารดาผู้มีสุขของลูกๆ

จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/113-c88c86a4c5c9b6bf278de693c359fd4e.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 114

1 เมื่ออิสราเอลออกจากอียิปต์

วงศ์วานของยาโคบออกจากชนต่างภาษา

2 ยูดาห์กลายเป็นสถานนมัสการของพระเจ้า

อิสราเอลเป็นอาณาจักรของพระองค์

3 ทะเลมองดูแล้วถอยหนี

แม่น้ำจอร์แดนหันกลับ

4 ภูเขาทั้งหลายโลดเต้นเหมือนแกะผู้

เนินเขากระโดดเหมือนลูกแกะ

5 ทะเลเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงถอยหนี?

แม่น้ำจอร์แดนเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงหันกลับ?

6 ภูเขาเอ๋ย เหตุใดจึงโลดเต้นเหมือนแกะผู้?

เนินเขาเอ๋ย เหตุใดจึงกระโดดเหมือนลูกแกะ?

7 แผ่นดินโลกเอ๋ย จงสั่นสะท้านต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

ต่อหน้าพระเจ้าของยาโคบ

8 ผู้ทรงทำให้หินกลายเป็นแอ่งน้ำ

ศิลาแกร่งกลายเป็นธารน้ำพุ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/114-279bff5dc7982cc7feb43df81365993d.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 115

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเกียรติสิริไม่ได้มีแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย ไม่ได้มีแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย

แต่มีแด่พระนามของพระองค์

เนื่องด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ของพระองค์

2 เหตุใดประชาชาติทั้งหลายกล่าวว่า

“พระเจ้าของพวกเขาอยู่ที่ไหน?”

3 พระเจ้าของเราประทับในสวรรค์

พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งตามชอบพระทัย

4 ส่วนรูปเคารพของพวกเขาทำจากเงินและทอง

ทำด้วยน้ำมือมนุษย์

5 มีปากแต่พูดไม่ได้

มีตาแต่มองไม่เห็น

6 มีหูแต่ไม่ได้ยิน

มีจมูกแต่ไม่ได้กลิ่น

7 มีมือแต่สัมผัสไม่ได้

มีเท้าแต่เดินไม่ได้

ไม่มีแม้แต่เสียงจากลำคอ

8 ผู้ที่สร้างพวกมันก็จะเป็นเหมือนพวกมัน

และผู้ที่วางใจในพวกมันก็จะเป็นเหมือนกัน

9 วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

พระองค์ทรงเป็นความช่วยเหลือและเป็นโล่กำบังของพวกเขา

10 วงศ์วานของอาโรนเอ๋ย จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

พระองค์ทรงเป็นความช่วยเหลือและเป็นโล่กำบังของพวกเขา

11 ท่านทั้งหลายผู้ยำเกรงพระองค์ จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

พระองค์ทรงเป็นความช่วยเหลือและเป็นโล่กำบังของพวกเขา

12 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงระลึกถึงเราและจะทรงอวยพรเรา

พระองค์จะทรงอวยพรวงศ์วานของอิสราเอล

พระองค์จะทรงอวยพรวงศ์วานของอาโรน

13 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงอวยพรบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์

ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อย

14 ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ท่านเพิ่มทวีขึ้น

ทั้งตัวท่านและลูกหลานของท่าน

15 ขอให้ท่านได้รับพรจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก

16 ฟ้าสวรรค์สูงสุดเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า

แต่แผ่นดินโลกพระองค์ประทานให้แก่มนุษย์

17 คนตายแล้วไม่อาจสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

คือคนที่ลงสู่ความเงียบสงัด

18 แต่เป็นพวกเราที่ยกย่องเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้า

ทั้งบัดนี้และสืบไปนิรันดร

จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/115-fda2138577f239935833160e68c9d540.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 116

1 ข้าพเจ้ารักองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงได้ยินเสียงของข้าพเจ้า

พระองค์ทรงได้ยินคำร้องทูลขอความเมตตาของข้าพเจ้า

2 เพราะพระองค์ทรงเอียงพระกรรณมาฟัง

ข้าพเจ้าจึงจะทูลพระองค์ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่

3 บ่วงความตายมัดข้าพเจ้าไว้

ความทุกข์ทรมานแห่งหลุมฝังศพรุมเร้าข้าพเจ้าอยู่

ความเดือดร้อนและความโศกเศร้าท่วมท้นข้าพเจ้า

4 แล้วข้าพเจ้าก็ร้องออกพระนามพระยาห์เวห์ว่า

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดช่วยข้าพระองค์ให้รอดด้วย!”

5 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระคุณและชอบธรรม

พระเจ้าของเราทรงเปี่ยมด้วยความเอ็นดูสงสาร

6 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปกป้องคุ้มครองคนซื่อ

เมื่อข้าพเจ้าตกต่ำ พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพเจ้า

7 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงพักสงบอีกครั้งเถิด

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดีต่อเจ้าเสมอมา

8 เพราะพระองค์ได้ทรงปลดปล่อยจิตวิญญาณของข้าพระองค์จากความตาย

ทรงปกป้องดวงตาของข้าพระองค์จากหยาดน้ำตา

ทรงปกป้องเท้าของข้าพระองค์ไม่ให้สะดุดล้ม

9 เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

ในดินแดนของผู้มีชีวิตอยู่

10 ข้าพเจ้ายังเชื่อ แม้ข้าพเจ้ากล่าวว่า

“ข้าพเจ้าทุกข์ระทมยิ่งนัก”

11 แม้ในยามท้อแท้ ข้าพเจ้ากล่าวว่า

“ทุกคนโกหก”

12 ข้าพเจ้าจะตอบแทนองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไร

ให้สมกับที่ทรงดีต่อข้าพเจ้าถึงเพียงนี้?

13 ข้าพเจ้าจะชูถ้วยแห่งความรอด

และร้องทูลออกพระนามพระยาห์เวห์

14 ข้าพเจ้าจะทำตามที่ได้ถวายปฏิญาณไว้ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า

ต่อหน้ามวลประชากรของพระองค์

15 ความตายของประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า

มีค่าในสายพระเนตรของพระองค์

16 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าแท้จริงข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์

ข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เป็นบุตรของหญิงผู้รับใช้ของพระองค์

พระองค์ได้ทรงปลดปล่อยข้าพระองค์จากเครื่องพันธนาการ

17 ข้าพระองค์จะถวายเครื่องบูชาขอบพระคุณแด่พระองค์

และร้องทูลออกพระนามพระยาห์เวห์

18 ข้าพเจ้าจะทำตามที่ได้ถวายปฏิญาณไว้ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า

ต่อหน้ามวลประชากรของพระองค์

19 ในลานแห่งพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ในท่ามกลางเจ้า โอ เยรูซาเล็ม

จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/116-3b18b7956654bd6f1bb91bbb54dc58a0.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 117

1 ปวงประชาชาติเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด

ชนชาติทั้งสิ้นเอ๋ย จงยกย่องเทิดทูนพระองค์

2 เพราะความรักที่พระองค์ทรงมีต่อเรานั้นใหญ่หลวงนัก

และความซื่อสัตย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าดำรงอยู่เป็นนิตย์

จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/117-3fced9f7c0b26aef8a076c0c8e66f0f2.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 118

1 จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงแสนดี

ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์

2 ให้อิสราเอลกล่าวเถิดว่า

“ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”

3 ให้พงศ์พันธุ์ของอาโรนกล่าวเถิดว่า

“ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”

4 ให้บรรดาผู้ที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวเถิดว่า

“ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”

5 ในยามทุกข์ยากข้าพเจ้าร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า

และพระองค์ทรงตอบโดยปลดปล่อยข้าพเจ้าให้เป็นไท

6 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่กับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่กลัว

มนุษย์จะทำอะไรข้าพเจ้าได้เล่า?

7 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่กับข้าพเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าจะมองดูศัตรูอย่างผู้ชนะ

8 การลี้ภัยในองค์พระผู้เป็นเจ้า

ก็ดีกว่าการวางใจในมนุษย์

9 การลี้ภัยในองค์พระผู้เป็นเจ้า

ก็ดีกว่าการวางใจในเจ้านาย

10 ประชาชาติทั้งปวงรุมล้อมข้าพเจ้า

แต่ในพระนามของพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะทำลายพวกเขาให้สิ้น

11 พวกเขาล้อมข้าพเจ้าไว้ทุกด้าน

แต่ในพระนามของพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะทำลายพวกเขาให้สิ้น

12 พวกเขารายล้อมข้าพเจ้าเหมือนฝูงผึ้ง

แต่เขามอดดับลงอย่างรวดเร็วเหมือนไฟไหม้หนาม

ในพระนามของพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะทำลายพวกเขาให้สิ้น

13 ข้าพเจ้าถูกรุมกระหน่ำจะล้มลงอยู่แล้ว

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้า

14 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นกำลังและเป็นบทเพลงของข้าพเจ้า

พระองค์ทรงเป็นความรอดของข้าพเจ้า

15 เสียงโห่ร้องยินดีและเสียงไชโย

ดังก้องในเต็นท์ของคนชอบธรรม

ว่า “พระหัตถ์ขวาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่!

16 พระหัตถ์ขวาขององค์พระผู้เป็นเจ้าชูขึ้นสูง

พระหัตถ์ขวาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่!”

17 ข้าพเจ้าจะไม่ตาย แต่มีชีวิตอยู่

และจะประกาศพระราชกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้า

18 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตีสอนข้าพเจ้าอย่างหนัก

แต่ไม่ได้ทรงมอบข้าพเจ้าให้แก่ความตาย

19 จงเปิดประตูแห่งความชอบธรรมให้ข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าจะเข้าไปและถวายคำขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า

20 นี่คือประตูขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ชอบธรรมจะเข้าไปทางประตูนี้

21 ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์เพราะพระองค์ทรงตอบข้าพระองค์

พระองค์ทรงมาเป็นความรอดของข้าพระองค์

22 ศิลาซึ่งช่างก่อได้ทิ้งแล้ว

บัดนี้กลับกลายเป็นศิลามุมเอก

23 องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำการนี้

เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในสายตาของเรา

24 นี่คือวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้าง

ให้เราชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์

25 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้รอด

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอโปรดประทาน ความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย

26 สรรเสริญพระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามของพระยาห์เวห์

ข้าพระองค์ทั้งหลายขอสรรเสริญพระองค์จากพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า

27 พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า

พระองค์ทรงให้ความสว่างของพระองค์ส่องเหนือเรา

ให้เราถือกิ่งไม้ร่วมขบวนเฉลิมฉลอง

ไปถึงเชิงงอนของแท่นบูชา

28 พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์

ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์

พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์

ข้าพระองค์จะเทิดทูนพระองค์

29 จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงแสนดี

ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/118-6384236d299a39dd020ebfc272ea924c.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 119

1 ความสุขมีแก่ผู้ที่วิถีทางของเขาไร้ที่ติ

ผู้ซึ่งประพฤติตามบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า

2 ความสุขมีแก่ผู้ที่รักษากฎเกณฑ์ของพระองค์

และแสวงหาพระองค์หมดทั้งใจ

3 เขาไม่ทำสิ่งที่ผิด

แต่ดำเนินอยู่ในทางของพระองค์

4 พระองค์ประทานข้อบังคับ

ซึ่งต้องเชื่อฟังอย่างเต็มที่

5 ขอให้วิถีทางของข้าพระองค์มั่นคงแน่วแน่

ในการปฏิบัติตามกฎหมายของพระองค์!

6 แล้วข้าพระองค์จะไม่ต้องอับอาย

เมื่อข้าพระองค์พิเคราะห์พระบัญชาทั้งสิ้นของพระองค์

7 ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยจิตใจเที่ยงตรง

เมื่อเรียนรู้บทบัญญัติอันชอบธรรมของพระองค์

8 ข้าพระองค์จะเชื่อฟังกฎหมายของพระองค์

ขออย่าทรงละทิ้งข้าพระองค์ไป

9 คนหนุ่มสาวจะรักษาทางของตนให้บริสุทธิ์ได้อย่างไร?

ก็โดยการดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระองค์

10 ข้าพระองค์แสวงหาพระองค์หมดทั้งใจ

ขออย่าให้ข้าพระองค์เตลิดจากพระบัญชาของพระองค์

11 ข้าพระองค์จดจำพระวจนะของพระองค์ไว้ในใจ

เพื่อจะได้ไม่ทำบาปต่อพระองค์

12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าสรรเสริญพระองค์

ขอทรงสอนกฎหมายของพระองค์แก่ข้าพระองค์

13 ด้วยริมฝีปากของข้าพระองค์

ข้าพระองค์ท่องจำบทบัญญัติทั้งสิ้นที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์

14 ข้าพระองค์ปีติยินดีในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระองค์

เหมือนผู้ที่ชื่นชมในทรัพย์สมบัติมหาศาล

15 ข้าพระองค์ใคร่ครวญข้อบังคับของพระองค์

และพิเคราะห์วิถีทางของพระองค์

16 ข้าพระองค์ชื่นชมยินดีในกฎหมายของพระองค์

ข้าพระองค์จะไม่ละเลยพระวจนะของพระองค์

17 ขอทรงดีต่อผู้รับใช้ของพระองค์ แล้วข้าพระองค์จะมีชีวิตอยู่

และจะเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์

18 ขอทรงเปิดตาของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเห็น

สิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลายในบทบัญญัติของพระองค์

19 ข้าพระองค์เป็นคนแปลกหน้าในโลกนี้

ขออย่าทรงซ่อนพระบัญชาไว้จากข้าพระองค์

20 จิตวิญญาณของข้าพระองค์ถูกเผาผลาญด้วยความโหยหา

บทบัญญัติของพระองค์ตลอดเวลา

21 พระองค์ทรงกำราบคนเย่อหยิ่งผู้ที่ถูกสาปแช่ง

ผู้ซึ่งเตลิดจากพระบัญชาของพระองค์

22 ขอทรงเอาการดูถูกดูแคลนออกไปจากข้าพระองค์

เพราะข้าพระองค์รักษากฎเกณฑ์ของพระองค์

23 ถึงแม้บรรดาเจ้านายจะนั่งลงร่วมกันกล่าวร้ายข้าพระองค์

ผู้รับใช้ของพระองค์จะยังใคร่ครวญกฎหมายของพระองค์

24 กฎเกณฑ์ของพระองค์เป็นความปีติยินดีของข้าพระองค์

และเป็นที่ปรึกษาของข้าพระองค์

25 ข้าพระองค์ตกต่ำลงจนคลุกฝุ่น

ขอทรงสงวนชีวิตของข้าพระองค์ตามพระวจนะของพระองค์

26 ข้าพระองค์กราบทูลถึงวิถีทางของข้าพระองค์พระองค์ก็ทรงตอบ

ขอทรงสอนกฎหมายของพระองค์แก่ข้าพระองค์

27 ขอทรงให้ข้าพระองค์เข้าใจคำสอนจากข้อบังคับของพระองค์

แล้วข้าพระองค์จะใคร่ครวญพระราชกิจมหัศจรรย์ของพระองค์

28 จิตวิญญาณของข้าพระองค์อ่อนล้าเพราะความทุกข์โศก

ขอทำให้ข้าพระองค์เข้มแข็งขึ้นตามพระวจนะของพระองค์

29 ขอทรงปกป้องข้าพระองค์ให้พ้นจากวิถีจอมปลอมทั้งหลาย

ขอทรงเมตตาปรานีข้าพระองค์และสอนบทบัญญัติของพระองค์แก่ข้าพระองค์

30 ข้าพระองค์ได้เลือกหนทางแห่งความจริง

ข้าพระองค์ปักใจแน่วแน่ในบทบัญญัติของพระองค์

31 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ยึดมั่นในกฎเกณฑ์ของพระองค์

ขออย่าให้ข้าพระองค์ต้องอับอาย

32 ข้าพระองค์กระตือรือร้นที่จะทำตามพระบัญชาของพระองค์

เพราะพระองค์ทรงกระทำให้จิตใจของข้าพระองค์เป็นไท

33 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงสอนข้าพระองค์ให้ปฏิบัติตามกฎหมายของพระองค์

แล้วข้าพระองค์จะรักษาไว้จนถึงที่สุด

34 โปรดประทานความเข้าใจ แล้วข้าพระองค์จะรักษาบทบัญญัติของพระองค์

และปฏิบัติตามด้วยสุดใจ

35 ขอทรงนำข้าพระองค์ไปตามทางที่ทรงบัญชา

เพราะข้าพระองค์ชื่นชมในทางนั้น

36 ขอทรงหันจิตใจของข้าพระองค์สู่กฎเกณฑ์ของพระองค์

ไม่มุ่งหาประโยชน์อย่างเห็นแก่ตัว

37 ขอทรงหันสายตาของข้าพระองค์จากสิ่งที่ไร้ค่า

ขอทรงสงวนชีวิตของข้าพระองค์ตามพระวจนะของพระองค์

38 ขอทรงกระทำตามที่ทรงสัญญาไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์

เพื่อพระองค์จะเป็นที่ยำเกรง

39 ขอทรงเอาความอับอายที่ข้าพระองค์หวาดกลัวออกไป

เพราะบทบัญญัติของพระองค์นั้นดี

40 ข้าพระองค์ฝักใฝ่ในข้อบังคับของพระองค์ยิ่งนัก!

ขอทรงสงวนชีวิตของข้าพระองค์ด้วยความชอบธรรมของพระองค์

41 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์มาถึงข้าพระองค์

ขอให้การช่วยกู้มาถึงตามพระสัญญาของพระองค์

42 แล้วข้าพระองค์จะมีคำตอบสำหรับคนที่เย้ยหยันข้าพระองค์

เพราะข้าพระองค์วางใจในพระวจนะของพระองค์

43 ขออย่าทรงพรากถ้อยคำแห่งความจริงไปจาก

ปากของข้าพระองค์

เพราะข้าพระองค์ฝากความหวังไว้กับบท

บัญญัติของพระองค์

44 ข้าพระองค์จะเชื่อฟังบทบัญญัติของพระองค์เสมอ

สืบๆ ไปเป็นนิตย์

45 ข้าพระองค์จะดำเนินไปอย่างเสรี

เพราะข้าพระองค์ได้แสวงหาข้อบังคับของพระองค์

46 ข้าพระองค์จะพูดถึงกฎเกณฑ์ของพระองค์ต่อหน้าบรรดากษัตริย์

และจะไม่อับอายขายหน้า

47 เพราะข้าพระองค์ปีติยินดีในพระบัญชาของพระองค์

ข้าพระองค์รักพระบัญชาเหล่านั้น

48 ข้าพระองค์เทิดทูนพระบัญชาซึ่งข้าพระองค์รัก

และใคร่ครวญกฎหมายของพระองค์

49 ขอทรงระลึกถึงพระวจนะที่ทรงให้ไว้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์

เพราะพระองค์ทรงให้ความหวังแก่ข้าพระองค์

50 สิ่งที่ปลอบโยนข้าพระองค์ในยามทุกข์ยากก็คือ

พระสัญญาของพระองค์รักษาชีวิตข้าพระองค์ไว้

51 คนยโสเย้ยหยันข้าพระองค์อย่างไม่ปรานี

แต่ข้าพระองค์ไม่หันไปจากบทบัญญัติของพระองค์

52 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ระลึกถึงบทบัญญัติแต่เก่าก่อนของพระองค์

และข้าพระองค์ก็ได้รับการปลอบประโลมใจ

53 ข้าพระองค์โกรธยิ่งนักเพราะคนชั่ว

ผู้ละทิ้งบทบัญญัติของพระองค์

54 กฎหมายของพระองค์เป็นบทเพลงของข้าพระองค์

ไม่ว่าข้าพระองค์จะพำนักอยู่ที่ใด

55 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าในยามค่ำคืนข้าพระองค์ระลึกถึงพระนามของพระองค์

และข้าพระองค์จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์

56 ที่ข้าพระองค์ปฏิบัติเสมอมา

ก็คือเชื่อฟังข้อบังคับของพระองค์

57 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์

ข้าพระองค์สัญญาว่าจะเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์

58 ข้าพระองค์แสวงหาพระพักตร์ของพระองค์หมดทั้งใจ

ขอทรงโปรดเมตตาข้าพระองค์ตามที่ทรงสัญญาไว้

59 ข้าพระองค์พิจารณาวิถีทางของตน

และหันย่างก้าวมาสู่กฎเกณฑ์ของพระองค์

60 ข้าพระองค์จะรีบและจะไม่ล่าช้า

ที่จะเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์

61 แม้คนชั่วใช้เชือกผูกข้าพระองค์

ข้าพระองค์ก็จะไม่ลืมบทบัญญัติของพระองค์

62 ยามเที่ยงคืนข้าพระองค์ลุกขึ้นมาขอบพระคุณพระองค์

สำหรับบทบัญญัติอันชอบธรรมของพระองค์

63 ข้าพระองค์เป็นมิตรกับทุกคนที่ยำเกรงพระองค์

กับผู้ที่ทำตามข้อบังคับของพระองค์

64 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโลกเปี่ยมด้วยความรักเมตตาของพระองค์

ขอทรงสอนกฎหมายของพระองค์แก่ข้าพระองค์

65 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงดีต่อผู้รับใช้ของพระองค์

ตามพระวจนะของพระองค์

66 ขอทรงสอนข้าพระองค์ให้มีความรู้และมีดุลยพินิจที่ดี

เพราะข้าพระองค์เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์

67 ก่อนตกทุกข์ได้ยากข้าพระองค์หลงเตลิดไป

แต่บัดนี้ข้าพระองค์เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์

68 พระองค์ทรงแสนดี และสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำนั้นดีเลิศ

ขอทรงสอนกฎหมายของพระองค์แก่ข้าพระองค์

69 แม้คนเย่อหยิ่งใส่ร้ายป้ายสีข้าพระองค์

ข้าพระองค์ก็รักษาข้อบังคับของพระองค์ด้วยสุดใจ

70 จิตใจของพวกเขาดื้อด้านและไม่รู้จักสำนึก

ส่วนข้าพระองค์ปีติยินดีในบทบัญญัติของพระองค์

71 ดีแล้วที่ข้าพระองค์ทุกข์ยาก

ข้าพระองค์จะได้เรียนรู้กฎหมายของพระองค์

72 บทบัญญัติจากพระโอษฐ์ของพระองค์ล้ำค่าสำหรับข้าพระองค์

ยิ่งกว่าเงินและทองนับพันนับหมื่น

73 พระหัตถ์ของพระองค์ได้สร้างและปั้นแต่งข้าพระองค์ขึ้น

โปรดให้ข้าพระองค์มีความเข้าใจ เพื่อจะเรียนรู้พระบัญชาของพระองค์

74 ขอให้ผู้ที่ยำเกรงพระองค์ชื่นชมยินดีเมื่อเห็นข้าพระองค์

เพราะข้าพระองค์ฝากความหวังไว้ที่พระวจนะของพระองค์

75 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์รู้ว่าบทบัญญัติของพระองค์นั้นชอบธรรม

และรู้ว่าที่พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์เป็นทุกข์นั้นก็เพราะพระองค์ทรงซื่อสัตย์

76 ขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์ปลอบประโลมข้าพระองค์

ตามที่ทรงสัญญาไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์

77 ขอทรงเอ็นดูสงสาร เพื่อข้าพระองค์จะมีชีวิตอยู่

เพราะข้าพระองค์ปีติยินดีในบทบัญญัติของพระองค์

78 ขอให้คนหยิ่งยโสอับอาย เพราะพวกเขาทำผิดต่อข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ

ส่วนข้าพระองค์จะใคร่ครวญข้อบังคับของพระองค์

79 ขอให้ผู้ที่ยำเกรงพระองค์ ผู้ที่เข้าใจกฎเกณฑ์ของพระองค์

หันมาหาข้าพระองค์

80 ขอให้จิตใจของข้าพระองค์ปราศจากที่ติต่อกฎหมายของพระองค์

เพื่อข้าพระองค์จะไม่ต้องอับอาย

81 จิตวิญญาณของข้าพระองค์อ่อนล้าเพราะโหยหา

ความรอดของพระองค์

แต่ข้าพระองค์ฝากความหวังไว้ที่พระวจนะของพระองค์

82 ดวงตาของข้าพระองค์อ่อนล้า เพราะรอคอยพระสัญญาของพระองค์

ข้าพระองค์กล่าวว่า “เมื่อใดหนอพระองค์จะทรงปลอบประโลมข้าพระองค์?”

83 แม้ข้าพระองค์แห้งเหี่ยวเหมือนถุงหนังเหล้าองุ่นที่ถูกรมควัน

ข้าพระองค์ก็ไม่ลืมกฎหมายของพระองค์

84 ผู้รับใช้ของพระองค์จะต้องรอคอยไปนานสักเท่าใด?

เมื่อใดพระองค์จะทรงลงโทษบรรดาผู้ที่ข่มเหงข้าพระองค์?

85 คนหยิ่งจองหองขุดหลุมพรางดักข้าพระองค์

ซึ่งขัดกับบทบัญญัติของพระองค์

86 พระบัญชาของพระองค์ล้วนแต่เชื่อถือได้

ขอทรงช่วยข้าพระองค์ เพราะผู้คนกดขี่ข่มเหงข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ

87 พวกเขาเกือบจะกำจัดข้าพระองค์ไปจากแผ่นดินโลกแล้ว

แต่ข้าพระองค์ไม่ยอมละทิ้งข้อบังคับของพระองค์

88 ขอทรงรักษาชีวิตของข้าพระองค์ตามความรักมั่นคงของพระองค์

แล้วข้าพระองค์จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์จากพระโอษฐ์ของพระองค์

89 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระวจนะของพระองค์คงอยู่ตลอดไป

มั่นคงนิรันดร์ในสวรรค์

90 ความซื่อสัตย์ของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วอายุ

พระองค์ทรงสถาปนาโลก โลกก็ตั้งมั่นอยู่

91 บทบัญญัติของพระองค์ยั่งยืนตราบเท่าทุกวันนี้

เพราะทุกสิ่งทุกอย่างปรนนิบัติพระองค์

92 หากบทบัญญัติของพระองค์ไม่ได้เป็นความปีติยินดีของข้าพระองค์

ข้าพระองค์คงมอดม้วยในความทุกข์ยากไปแล้ว

93 ข้าพระองค์จะไม่ลืมข้อบังคับของพระองค์

เพราะพระองค์ทรงรักษาชีวิตของข้าพระองค์ไว้ด้วยข้อบังคับเหล่านั้น

94 ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์เป็นของพระองค์

ข้าพระองค์แสวงหาข้อบังคับของพระองค์

95 คนชั่วรอทำลายข้าพระองค์

แต่ข้าพระองค์จะใคร่ครวญกฎเกณฑ์ของพระองค์

96 ข้าพระองค์เห็นว่าทุกสิ่งที่ดีพร้อมก็ยังมีขีดจำกัด

แต่พระบัญชาของพระองค์ไร้ขอบเขต

97 ข้าพระองค์รักบทบัญญัติของพระองค์ยิ่งนัก!

ข้าพระองค์ใคร่ครวญบทบัญญัตินั้นตลอดวัน

98 พระบัญชาของพระองค์ทำให้ข้าพระองค์เฉลียวฉลาดกว่าศัตรู

เพราะพระบัญชาอยู่กับข้าพระองค์เสมอ

99 ข้าพระองค์มีความเข้าใจยิ่งกว่าบรรดาครูของข้าพระองค์

เพราะข้าพระองค์ใคร่ครวญกฎเกณฑ์ของพระองค์

100 ข้าพระองค์เข้าใจมากกว่าผู้อาวุโส

เพราะข้าพระองค์เชื่อฟังข้อบังคับของพระองค์

101 ข้าพระองค์รักษาทุกย่างก้าวให้พ้นจากวิถีทางอันชั่วร้าย

เพื่อข้าพระองค์จะเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์

102 ข้าพระองค์ไม่ได้ห่างจากบทบัญญัติของพระองค์

เพราะพระองค์เองทรงสอนข้าพระองค์

103 พระวจนะของพระองค์นั้น ข้าพระองค์ลิ้มลองแล้วหวานยิ่งนัก

หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเมื่อถึงปากของข้าพระองค์!

104 ข้าพระองค์ได้ความเข้าใจจากข้อบังคับของพระองค์

ข้าพระองค์จึงเกลียดทางที่ผิดทุกทาง

105 พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับย่างก้าวของข้าพระองค์

เป็นแสงสว่างส่องทางของข้าพระองค์

106 ข้าพระองค์ได้ปฏิญาณและยืนยันไว้

ว่าข้าพระองค์จะปฏิบัติตามบทบัญญัติอันชอบธรรมของพระองค์

107 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทุกข์ทรมานยิ่งนัก

ขอทรงรักษาชีวิตของข้าพระองค์ตามพระวจนะของพระองค์

108 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงรับคำสรรเสริญด้วยใจจากปากของข้าพระองค์

และทรงสอนบทบัญญัติของพระองค์แก่ข้าพระองค์

109 แม้ข้าพระองค์ต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยงภัยอยู่เสมอ

ข้าพระองค์ก็จะไม่ลืมบทบัญญัติของพระองค์

110 คนชั่วร้ายวางกับดักล่อข้าพระองค์

แต่ข้าพระองค์ไม่ได้หลงเตลิดจากข้อบังคับของพระองค์

111 กฎเกณฑ์ของพระองค์เป็นมรดกนิรันดร์ของข้าพระองค์

และเป็นความชื่นชมยินดีในใจของข้าพระองค์

112 ข้าพระองค์ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำตามกฎหมายของพระองค์

จนถึงที่สุด

113 ข้าพระองค์เกลียดชังคนสองจิตสองใจ

แต่ข้าพระองค์รักบทบัญญัติของพระองค์

114 พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นโล่ของข้าพระองค์

ข้าพระองค์ฝากความหวังไว้ที่พระวจนะของพระองค์

115 เจ้าผู้ทำการชั่วทั้งหลาย จงไปให้พ้น

เพื่อเราจะได้ทำตามพระบัญชาพระเจ้าของเรา!

116 ขอทรงค้ำจุนข้าพระองค์ตามที่ทรงสัญญาไว้ และข้าพระองค์จะมีชีวิตอยู่

ขออย่าให้ความหวังของข้าพระองค์สิ้นสลาย

117 ขอทรงค้ำชูข้าพระองค์ไว้และข้าพระองค์จะปลอดภัย

ข้าพระองค์จะเคารพกฎหมายของพระองค์เสมอไป

118 พระองค์ทรงปฏิเสธทุกคนที่หลงเตลิดจากกฎหมายของพระองค์

เพราะการหลอกลวงของพวกเขาก็สูญเปล่า

119 พระองค์ทรงทิ้งบรรดาคนชั่วของโลกเหมือนเศษขยะ

ฉะนั้นข้าพระองค์จึงรักกฎเกณฑ์ของพระองค์

120 เลือดเนื้อของข้าพระองค์สั่นสะท้านด้วยความเกรงกลัวพระองค์

ข้าพระองค์ยำเกรงบทบัญญัติของพระองค์

121 ข้าพระองค์ทำสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรม

ขออย่าทรงทิ้งข้าพระองค์ไว้กับผู้กดขี่ข่มเหง

122 ขอทรงค้ำประกันความผาสุกร่มเย็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยเถิด

อย่าให้คนเย่อหยิ่งข่มเหงข้าพระองค์ได้

123 ดวงตาของข้าพระองค์อ่อนล้าเพราะรอคอยความรอดจากพระองค์

ใฝ่หาคำมั่นสัญญาอันชอบธรรมของพระองค์

124 ขอทรงปฏิบัติต่อผู้รับใช้ตามความรักมั่นคงของพระองค์

และสอนกฎหมายของพระองค์แก่ข้าพระองค์

125 ข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ขอโปรดประทานความฉลาดหลักแหลม

เพื่อข้าพระองค์จะได้เข้าใจกฎเกณฑ์ของพระองค์

126 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะทรงจัดการ

เพราะบทบัญญัติของพระองค์ถูกละเมิดฝ่าฝืน

127 เพราะว่าข้าพระองค์รักพระบัญชาของพระองค์

ยิ่งกว่าทองคำ ยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์

128 และเพราะข้าพระองค์เห็นว่าข้อบังคับของพระองค์ล้วนแต่ถูกต้อง

ข้าพระองค์จึงเกลียดทางที่ผิดทุกทาง

129 กฎเกณฑ์ของพระองค์ล้ำเลิศ

ฉะนั้นข้าพระองค์จึงเชื่อฟัง

130 การเปิดเผยพระวจนะของพระองค์ให้ความสว่าง

ทำให้คนรู้น้อยมีความเข้าใจ

131 ข้าพระองค์อ้าปากหอบ

โหยหาพระบัญชาของพระองค์

132 ขอทรงหันมาเมตตาข้าพระองค์

ดังที่ทรงกระทำเสมอมาต่อบรรดาผู้ที่รักพระนามของพระองค์

133 ขอทรงนำย่างก้าวของข้าพระองค์ไปตามพระวจนะของพระองค์

ขออย่าให้บาปใดๆ ครอบงำข้าพระองค์

134 ขอทรงไถ่ข้าพระองค์จากการกดขี่ข่มเหงของมนุษย์

เพื่อข้าพระองค์จะได้เชื่อฟังข้อบังคับของพระองค์

135 ขอทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ทอแสงอยู่เหนือผู้รับใช้ของพระองค์

และสอนกฎหมายของพระองค์แก่ข้าพระองค์

136 น้ำตาของข้าพระองค์ไหลรินเป็นสาย

เพราะผู้คนไม่เชื่อฟังบทบัญญัติของพระองค์

137 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงชอบธรรม

และบทบัญญัติของพระองค์ถูกต้อง

138 กฎเกณฑ์ที่ทรงวางไว้นั้นชอบธรรม

น่าเชื่อถือยิ่งนัก

139 จิตใจของข้าพระองค์ร้อนรุ่มนัก

เพราะศัตรูไม่แยแสพระวจนะของพระองค์

140 พระสัญญาของพระองค์ผ่านการพิสูจน์มาอย่างถี่ถ้วน

และผู้รับใช้ของพระองค์รักพระสัญญานั้น

141 แม้ข้าพระองค์ต่ำต้อยและถูกดูแคลน

ข้าพระองค์ก็ไม่ลืมข้อบังคับของพระองค์

142 ความชอบธรรมของพระองค์ดำรงนิรันดร์

และบทบัญญัติของพระองค์เป็นความจริง

143 แม้ความทุกข์และความโศกเศร้าถาโถมเข้าใส่ข้าพระองค์

แต่พระบัญชาของพระองค์ทำให้ข้าพระองค์ปีติยินดี

144 กฎเกณฑ์ของพระองค์ถูกต้องเสมอ

ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์เข้าใจเพื่อข้าพระองค์จะมีชีวิตอยู่

145 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ร้องทูลหมดทั้งใจ ขอทรงตอบข้าพระองค์

และข้าพระองค์จะเชื่อฟังกฎหมายของพระองค์

146 ข้าพระองค์ทูลวิงวอน ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด

เพื่อข้าพระองค์จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระองค์

147 ข้าพระองค์ตื่นขึ้นก่อนรุ่งสาง ทูลขอความช่วยเหลือ

ข้าพระองค์ฝากความหวังไว้ที่พระวจนะของพระองค์

148 ข้าพระองค์ลืมตาตื่นอยู่ตลอดคืน

เพื่อข้าพระองค์จะได้ใคร่ครวญพระสัญญาของพระองค์

149 ขอทรงฟังคำร้องทูลของข้าพระองค์ตามความรักมั่นคงของพระองค์

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงรักษาชีวิตของข้าพระองค์ตามบทบัญญัติของพระองค์

150 ผู้ที่คบคิดกันมุ่งร้ายข้าพระองค์ใกล้เข้ามาแล้ว

พวกเขาห่างไกลจากบทบัญญัติของพระองค์

151 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่พระองค์ทรงอยู่ใกล้

พระบัญชาของพระองค์ล้วนเป็นความจริง

152 ข้าพระองค์เรียนจากกฎเกณฑ์ของพระองค์มานาน

พระองค์ทรงตั้งกฎเกณฑ์นั้นไว้เป็นนิตย์

153 ขอโปรดทอดพระเนตรความทุกข์ทรมานของข้าพระองค์และทรงกอบกู้

เพราะข้าพระองค์ไม่ได้ลืมบทบัญญัติของพระองค์

154 ขอทรงสู้คดีให้และไถ่ข้าพระองค์

ขอทรงรักษาชีวิตของข้าพระองค์ตามที่ทรงสัญญาไว้

155 ความรอดอยู่ห่างไกลจากคนชั่วร้าย

เพราะเขาไม่แสวงหากฎหมายของพระองค์

156 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระกรุณาธิคุณของพระองค์ใหญ่หลวงนัก

ขอทรงรักษาชีวิตของข้าพระองค์ตามบทบัญญัติของพระองค์

157 ศัตรูผู้กดขี่ข่มเหงข้าพระองค์มีมากมาย

แต่ข้าพระองค์ไม่ได้หันไปจากกฎเกณฑ์ของพระองค์

158 ข้าพระองค์มองดูผู้ทรยศด้วยความชิงชัง

เพราะเขาไม่เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์

159 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงพิเคราะห์ดูว่า

ข้าพระองค์รักข้อบังคับของพระองค์ เพียงใด

ขอทรงสงวนชีวิตของข้าพระองค์ไว้ตามความรักมั่นคงของพระองค์

160 พระวจนะของพระองค์ทุกคำเป็นความจริง

บทบัญญัติอันชอบธรรมทั้งสิ้นของพระองค์ดำรงอยู่นิรันดร์

161 บรรดาผู้ครอบครองประทุษร้ายข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ

แต่จิตใจข้าพระองค์เกรงกลัวพระวจนะของพระองค์

162 ข้าพระองค์ชื่นชมยินดีในพระสัญญาของพระองค์

เหมือนคนที่พบขุมทรัพย์มหาศาล

163 ข้าพระองค์ชิงชังรังเกียจความเท็จ

แต่ข้าพระองค์รักบทบัญญัติของพระองค์

164 ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์วันละเจ็ดครั้ง

เพราะบทบัญญัติอันชอบธรรมของพระองค์

165 บรรดาผู้ที่รักบทบัญญัติของพระองค์มีสันติสุขยิ่งใหญ่

ไม่มีสิ่งใดทำให้พวกเขาสะดุดล้ม

166 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์รอคอยความรอดของพระองค์

และข้าพระองค์ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์

167 ข้าพระองค์เชื่อฟังกฎเกณฑ์ของพระองค์

เพราะข้าพระองค์รักกฎเกณฑ์เหล่านั้นยิ่งนัก

168 ข้าพระองค์เชื่อฟังข้อบังคับและกฎเกณฑ์ของพระองค์

เพราะวิถีทั้งปวงของข้าพระองค์ก็ประจักษ์แจ้งแก่พระองค์

169 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอให้เสียงร่ำร้องของข้าพระองค์ขึ้นไปถึงต่อหน้าพระองค์

โปรดประทานความเข้าใจแก่ข้าพระองค์ตามพระวจนะของพระองค์

170 ขอให้คำทูลวิงวอนของข้าพระองค์ขึ้นไปถึงต่อหน้าพระองค์

ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ตามพระสัญญาของพระองค์

171 ขอให้ปากของข้าพระองค์พรั่งพรูคำสรรเสริญพระองค์

เพราะพระองค์ทรงสอนกฎหมายของพระองค์แก่ข้าพระองค์

172 ขอให้ลิ้นของข้าพระองค์แซ่ซ้องพระวจนะของพระองค์

เพราะพระบัญชาทั้งสิ้นของพระองค์ชอบธรรม

173 ขอให้พระหัตถ์ของพระองค์พร้อมที่จะช่วยเหลือข้าพระองค์

เพราะข้าพระองค์เลือกข้อบังคับของพระองค์

174 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ใฝ่หาความรอดของพระองค์

และบทบัญญัติของพระองค์เป็นความปีติยินดีของข้าพระองค์

175 ขอให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่เพื่อที่จะสรรเสริญพระองค์

ขอให้บทบัญญัติของพระองค์ค้ำชูข้าพระองค์ไว้

176 ข้าพระองค์หลงเตลิดไปเหมือนลูกแกะที่หลงทาง

ขอทรงตามหาผู้รับใช้ของพระองค์

เพราะข้าพระองค์ไม่ลืมพระบัญชาของพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/119-94c2fb4587e9bbc257e768eabeff3514.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 120

(บทเพลงใช้แห่ขึ้นไปยังเยรูซาเล็ม)

1 ยามทุกข์ใจ ข้าพเจ้าทูลวิงวอนองค์พระผู้เป็นเจ้า

และพระองค์ทรงตอบข้าพเจ้า

2 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์

จากริมฝีปากที่โกหกและจากลิ้นที่หลอกลวง

3 นี่แน่ะลิ้นโป้ปด

พระองค์จะทรงจัดการกับเจ้าอย่างไร?

และพระองค์จะทรงทำอะไรมากยิ่งกว่านั้น?

4 พระองค์จะทรงลงโทษเจ้าด้วยลูกศรคมกริบของนักรบ

ด้วยถ่านไม้ซากอันลุกโชน

5 วิบัติแก่ข้าพเจ้าที่มาอาศัยในเมเชค

มาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเต็นท์ของเคดาร์!

6 ข้าพเจ้ามาพำนักอยู่ท่ามกลางผู้คน

ที่เกลียดชังสันติภาพนานเกินไปแล้ว

7 ข้าพเจ้าเป็นคนใฝ่สันติ

แต่พอข้าพเจ้าเอ่ยปาก พวกเขาก็มุ่งทำศึกสงคราม

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/120-1894f002525688497f3f9329f7dca999.mp3?version_id=179—