Categories
สดุดี

สดุดี 31

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ลี้ภัยในพระองค์

ขออย่าให้ข้าพระองค์อับอายเลย

ขอทรงกอบกู้ข้าพระองค์ในความชอบธรรมของพระองค์

2 ขอทรงเอียงพระกรรณสดับฟัง

และเสด็จมาช่วยข้าพระองค์โดยเร็ว

ขอทรงเป็นศิลาให้ข้าพระองค์เข้าลี้ภัย

และเป็นป้อมปราการมั่นคงเพื่อช่วยข้าพระองค์ให้ปลอดภัย

3 เพราะพระองค์ทรงเป็นศิลาและเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์

ฉะนั้นขอทรงนำและชี้ทางแก่ข้าพระองค์ โดยเห็นแก่พระนามของพระองค์

4 ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากกับดักที่ดักข้าพระองค์ไว้

เพราะพระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์

5 ข้าพระองค์มอบจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์

ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงซื่อสัตย์ ขอทรงไถ่ข้าพระองค์เถิด

6 ข้าพระองค์เกลียดชังผู้ที่ยึดมั่นในรูปเคารพอันไร้ค่า

ข้าพระองค์วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

7 ข้าพระองค์จะเปรมปรีดิ์และชื่นชมยินดีในความรักมั่นคงของพระองค์

เพราะพระองค์ทรงเห็นความทุกข์ลำเค็ญของข้าพระองค์

และทรงทราบความเจ็บปวดรวดร้าวในจิตใจของข้าพระองค์แล้ว

8 พระองค์ไม่ได้ทรงมอบข้าพระองค์ไว้ในมือศัตรู

แต่ทรงวางย่างเท้าของข้าพระองค์ไว้ในที่กว้างขวาง

9 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงเมตตาข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์กำลังทุกข์ใจ

ดวงตาของข้าพระองค์หม่นหมองเพราะความทุกข์โศก

ทั้งกายและวิญญาณบอบช้ำเพราะความทุกข์ระทม

10 ชีวิตของข้าพระองค์สูญไปกับความปวดร้าว

และปีเดือนของข้าพระองค์สูญไปกับการคร่ำครวญ

กำลังวังชาของข้าพระองค์อ่อนลงเพราะความทุกข์ลำเค็ญของข้าพระองค์

กระดูกของข้าพระองค์ก็เสื่อมไป

11 เนื่องจากศัตรูทั้งปวงของข้าพระองค์

ข้าพระองค์ตกเป็นขี้ปากให้เพื่อนบ้านเย้ยหยัน

ข้าพระองค์เป็นที่น่าขยาดสำหรับเพื่อนฝูง

คนที่พบเห็นข้าพระองค์บนถนนก็รีบหนีไป

12 ข้าพระองค์ถูกลืมประหนึ่งคนที่ตายแล้ว

ข้าพระองค์กลายเป็นเหมือนภาชนะที่แตก

13 ข้าพระองค์ได้ยินคำนินทาว่าร้ายจากหลายฝ่าย

มีความหวาดผวาอยู่รอบด้าน

พวกเขาคบคิดกันเล่นงานข้าพระองค์

หมายเอาชีวิตของข้าพระองค์

14 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่ข้าพระองค์วางใจในพระองค์

ข้าพระองค์กล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์”

15 วันเวลาของข้าพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์

ขอทรงปลดปล่อยข้าพระองค์จากมือของเหล่าศัตรู

จากบรรดาผู้ที่ตามล่าเอาชีวิตของข้าพระองค์

16 ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือ ผู้รับใช้ของพระองค์

โปรดช่วยข้าพระองค์ให้รอดโดยความรักมั่นคงของพระองค์

17 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขออย่าให้ข้าพระองค์ได้อาย

เพราะข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์

แต่ขอให้คนชั่วได้รับความอดสู

ขอให้เขานอนนิ่งเงียบในหลุมฝังศพ

18 ขอให้ริมฝีปากโป้ปดของเขาต้องนิ่งเงียบ

เพราะด้วยความเย่อหยิ่งและการดูหมิ่นดูแคลน

เขาพูดว่าร้ายคนชอบธรรมอย่างยโสโอหัง

19 ความประเสริฐของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่สักเท่าใด

ที่พระองค์ทรงสะสมไว้เพื่อเหล่าผู้ยำเกรงพระองค์

ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าคนทั้งหลาย

เพื่อผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์

20 ในร่มเงาที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ พระองค์ทรงซ่อนเขาไว้

ให้พ้นจากการปองร้ายของมนุษย์

ในที่ประทับของพระองค์ พระองค์ทรงรักษาเขาไว้

ให้พ้นจากคำกล่าวหาทั้งปวง

21 ขอถวายสรรเสริญแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

เพราะพระองค์ทรงแสดงความรักอันอัศจรรย์ต่อข้าพระองค์

เมื่อข้าพระองค์อยู่ในเมืองที่ถูกล้อมไว้

22 ในยามตกใจ ข้าพระองค์กล่าวว่า

“ข้าพระองค์ถูกตัดออกจากสายพระเนตรของพระองค์!”

แต่พระองค์ทรงสดับฟังคำทูลขอพระเมตตาของข้าพระองค์

เมื่อข้าพระองค์ร้องทูลให้ทรงช่วย

23 ประชากรทั้งสิ้นของพระเจ้าเอ๋ย จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปกป้องรักษาผู้ที่ซื่อสัตย์

แต่ผู้ที่เย่อหยิ่งอวดดี พระองค์ทรงลงโทษอย่างเต็มที่

24 จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด

ท่านทั้งหลายที่ฝากความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/31-c7742f0f6f7bc62f4d3f84b12c307bdb.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 32

(มัสคิล

บทหนึ่งของดาวิด)

1 ความสุขมีแก่ผู้ที่

การล่วงละเมิดของเขาได้รับการอภัย

ผู้ที่บาปของเขาได้รับการกลบเกลื่อน

2 ความสุขมีแก่ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงถือโทษบาปของเขา

ผู้ซึ่งจิตวิญญาณไม่มีเล่ห์เพทุบาย

3 เมื่อข้าพระองค์นิ่งเงียบอยู่

กระดูกของข้าพระองค์ก็สึกกร่อนไป

โดยการคร่ำครวญวันยังค่ำ

4 เพราะทั้งวันทั้งคืน

พระหัตถ์ของพระองค์วางอยู่เหนือข้าพระองค์อย่างหนักหน่วง

พละกำลังของข้าพระองค์เหือดแห้งไป

เหมือนอยู่ในฤดูร้อนที่แผดเผา

เสลาห์

5 แล้วข้าพระองค์สารภาพบาปต่อพระองค์

และไม่ปิดซ่อนความชั่วช้าไว้

ข้าพระองค์กล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะสารภาพ

การล่วงละเมิดทั้งปวงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า”

และพระองค์ก็ทรงอภัย

ความผิดบาปของข้าพระองค์

เสลาห์

6 ฉะนั้นผู้ที่ซื่อสัตย์ทุกคนจงอธิษฐานต่อพระองค์

ในขณะที่ยังมีโอกาสพบพระองค์ได้

และเมื่อกระแสน้ำหลากโถมซัดเข้ามา

น้ำนั้นก็จะไม่แผ้วพานเขาเลย

7 พระองค์ทรงเป็นที่หลบภัยของข้าพระองค์

พระองค์ทรงคุ้มครองข้าพระองค์จากความยากลำบาก

และทรงโอบล้อมข้าพระองค์ด้วยบทเพลงแห่งการช่วยกู้

เสลาห์

8 เราจะสอนและชี้แนะทางที่เจ้าควรเดินไป

เราจะให้คำปรึกษาและเฝ้าดูเจ้า

9 อย่าเป็นเหมือนม้าหรือล่อ

ที่ปราศจากความเข้าใจ

ซึ่งจะต้องใช้สายรั้งบังเหียนบังคับควบคุม

มิฉะนั้นจะไม่ยอมมาด้วย

10 คนชั่วร้ายนั้นเผชิญกับวิบัติมากมาย

แต่ความรักมั่นคงขององค์พระผู้เป็นเจ้า

โอบล้อมบรรดาผู้ที่วางใจในพระองค์

11 ท่านผู้ชอบธรรมเอ๋ย จงชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ในองค์พระผู้เป็นเจ้า

ท่านทั้งปวงผู้มีจิตใจเที่ยงตรง จงร้องเพลงเถิด

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/32-cc6b971669231a426b448c33c8fa55d3.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 33

1 บรรดาผู้ชอบธรรมเอ๋ย จงร้องเพลงชื่นบานถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

ควรแล้วที่ผู้ชอบธรรมจะสรรเสริญพระองค์

2 จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเสียงพิณ

จงบรรเลงเพลงถวายพระองค์ด้วยพิณสิบสาย

3 จงขับร้องเพลงบทใหม่ถวายพระองค์

เล่นดนตรีอย่างชำนิชำนาญ และโห่ร้องอย่างชื่นชมยินดี

4 เพราะพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าถูกต้องและเป็นจริง

พระองค์ทรงซื่อสัตย์ในทุกสิ่งที่ทรงกระทำ

5 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักความชอบธรรมและความยุติธรรม

แผ่นดินโลกเต็มไปด้วยความรักมั่นคงของพระองค์

6 โดยพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าฟ้าสวรรค์ก็อุบัติขึ้น

ดวงดาวทั้งปวงมีขึ้นโดยลมพระโอษฐ์ของพระองค์

7 พระองค์ทรงรวบรวมห้วงสมุทรทั้งหลายไว้ด้วยกัน

ทรงเก็บห้วงน้ำลึกไว้ในคลัง

8 ให้ทั้งโลกเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้า

ให้คนทั้งโลกยำเกรงพระองค์

9 เพราะพระองค์ตรัส โลกก็อุบัติขึ้น

พระองค์ทรงบัญชา มันก็คงอยู่

10 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้แผนการของประชาชาติทั้งหลายล้มเหลวไป

พระองค์ทรงทำให้เป้าหมายของพวกเขาสูญเปล่า

11 แต่แผนการขององค์พระผู้เป็นเจ้ายั่งยืนนิรันดร์

พระประสงค์ในพระทัยของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วอายุ

12 ความสุขมีแก่ประชาชาติที่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้า

คือประชากรซึ่งพระองค์ทรงเลือกเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์

13 องค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรลงมาจากฟ้าสวรรค์

และทรงเห็นมวลมนุษยชาติ

14 จากที่ประทับ พระองค์ทรงจับตาดู

ทุกชีวิตในโลก

15 พระองค์ผู้ทรงสร้างจิตใจของทุกคน

ผู้ทรงพิจารณาทุกสิ่งที่เขาทำ

16 กษัตริย์ไม่ได้รอดชีวิตเพราะขนาดของกองทัพ

นักรบไม่ได้รอดชีวิตเพราะพละกำลังมากมายของตน

17 หวังให้ม้าศึกช่วยกอบกู้ก็เปล่าประโยชน์

แม้มันแข็งแรงก็ไม่ได้ช่วยให้รอดปลอดภัย

18 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเฝ้าดูบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์

ผู้ที่หวังในความรักมั่นคงของพระองค์

19 เพื่อจะทรงช่วยกู้พวกเขาให้พ้นจากความตาย

และรักษาพวกเขาให้มีชีวิตอยู่ในคราวกันดารอาหาร

20 เรารอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความหวัง

พระองค์ทรงเป็นความช่วยเหลือและเป็นโล่ของเรา

21 จิตใจของเราชื่นชมยินดีในพระองค์

เพราะเราวางใจในพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์

22 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย

ในเมื่อข้าพระองค์ทั้งหลายฝากความหวังไว้ในพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/33-87419ede795f041cd5c12fba703999a3.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 34

(บทประพันธ์ของดาวิด เมื่อพระองค์แสร้งทำเป็นบ้าต่อหน้าอาบีเมเลคซึ่งขับไล่ดาวิดไป)

1 ข้าพเจ้าจะยกย่องเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดเวลา

ริมฝีปากของข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์เสมอ

2 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าจะอวดอ้างองค์พระผู้เป็นเจ้า

ให้ผู้ทุกข์ลำเค็ญได้ยินแล้วยินดี

3 เชิญมาถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าร่วมกับข้าพเจ้า

ให้เราเทิดทูนพระนามของพระองค์กันเถิด

4 ข้าพเจ้าได้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ทรงตอบ

พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากความหวาดกลัวทั้งปวง

5 บรรดาผู้ที่หวังพึ่งพระองค์ก็ผ่องใส

ใบหน้าของพวกเขาไม่เคยมีความอดสู

6 คนทุกข์ยากคนนี้ได้ร้องทูล และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงฟังเขา

พระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นจากความทุกข์ร้อนทั้งปวง

7 ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าตั้งค่ายรายล้อมบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์

และพระองค์ช่วยพวกเขาให้รอด

8 เชิญชิมดูแล้วจะรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสนดี

ความสุขมีแก่ผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์

9 ท่านวิสุทธิชนขององค์พระผู้เป็นเจ้าจงยำเกรงพระองค์

เพราะผู้ที่ยำเกรงพระองค์ไม่ขาดสิ่งใด

10 ราชสีห์อาจจะอ่อนแรงและหิวโหย

แต่บรรดาผู้ที่แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยขาดสิ่งที่ดีเลย

11 บุตรทั้งหลายเอ๋ย มาฟังเถิด

เราจะสอนเจ้าให้รู้ถึงความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

12 ใครก็ตามในพวกเจ้าที่รักชีวิต

และปรารถนาวันคืนอันผาสุกยืนยาว

13 ก็จงรักษาลิ้นให้พ้นจากความชั่ว

รักษาริมฝีปากให้พ้นจากการพูดโกหก

14 จงหันจากความชั่วร้ายและทำความดี

จงใฝ่หาสันติภาพและมุ่งมั่นเพื่อให้ได้มา

15 พระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเฝ้าดูคนชอบธรรม

และพระกรรณของพระองค์ฟังคำร้องทูลของพวกเขา

16 พระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าหันเข้าต่อต้านคนทำชั่ว

เพื่อทำลายอนุสรณ์ของพวกเขาจากแผ่นดินโลก

17 คนชอบธรรมร้องทูล และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงฟังพวกเขา

พระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์ร้อนทั้งปวง

18 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้ผู้ที่หัวใจแตกสลาย

และทรงช่วยผู้ที่ท้อแท้สิ้นหวัง

19 คนชอบธรรมอาจเจอความทุกข์ร้อนหลายอย่าง

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยให้เขาผ่านพ้นทุกอย่างไปได้

20 พระองค์ทรงปกป้องกระดูกของเขาทุกชิ้น

ไม่ให้ถูกหักสักชิ้นเดียว

21 ความชั่วจะประหัตประหารคนอธรรม

ศัตรูของคนชอบธรรมจะถูกลงโทษ

22 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงไถ่ผู้รับใช้ของพระองค์

ไม่มีสักคนที่ลี้ภัยในพระองค์จะถูกปรับโทษ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/34-5b2afbf2762e2f10915519327ee6a29c.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 35

(บทประพันธ์ของดาวิด)

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงต่อสู้กับบรรดาผู้ที่ต่อสู้กับข้าพระองค์

ขอทรงสู้รบกับบรรดาผู้ที่สู้รบกับข้าพระองค์

2 ขอทรงถือโล่และเขน

ขอทรงลุกขึ้นและมาช่วยข้าพระองค์

3 ขอทรงชูหอกและขวานศึก

ต่อสู้ผู้รุกไล่ข้าพระองค์

โปรดตรัสกับจิตใจของข้าพระองค์ว่า

“เราคือความรอดของเจ้า”

4 ขอให้ผู้ที่มุ่งเอาชีวิตของข้าพระองค์นั้น

อัปยศอดสู

ขอให้ผู้ที่วางแผนทำลายข้าพระองค์

ล่าถอยไปด้วยความตกใจกลัว

5 ให้เขาเป็นเหมือนแกลบที่ถูกลมพัด

มีทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าขับไล่เขา

6 ขอให้ทางของเขาลื่นและมืดมน

มีทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าไล่ล่าเขาไป

7 เพราะเขาวางข่ายดักข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ

และขุดหลุมพรางดักข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ

8 ขอให้ความพินาศจู่โจมเขาโดยไม่คาดคิด

ขอให้เขาติดข่ายที่เขาวางไว้เอง

ขอให้เขาตกหลุมพรางของตัวเองพินาศไป

9 แล้วจิตวิญญาณของข้าพระองค์จะปีติยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า

และชื่นชมในการกอบกู้ของพระองค์

10 ทั้งชีวิตจิตใจของข้าพระองค์จะประกาศว่า

“องค์พระผู้เป็นเจ้าเจ้าข้า ใครเล่าเสมอเหมือนพระองค์?

พระองค์ทรงช่วยผู้ยากไร้จากผู้ที่แข็งแกร่งเกินกำลังของเขา

ทรงช่วยผู้ยากไร้และแร้นแค้นจากผู้ที่ปล้นเขา”

11 พยานผู้มุ่งร้ายขึ้นมาปรักปรำข้าพระองค์

เขาสอบสวนข้าพระองค์ในข้อหาที่ข้าพระองค์ไม่รู้เรื่อง

12 เขาตอบแทนการดีของข้าพระองค์ด้วยการชั่ว

และละทิ้งจิตวิญญาณของข้าพระองค์ให้เปล่าเปลี่ยว

13 แต่เมื่อพวกเขาป่วย ข้าพระองค์สวมชุดผ้ากระสอบ

และถ่อมใจลงด้วยการอดอาหาร

เมื่อคำอธิษฐานของข้าพระองค์ไม่ได้รับคำตอบ

14 ข้าพระองค์ทุกข์โศก

ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพื่อนหรือพี่น้องของข้าพระองค์

ข้าพระองค์ก้มศีรษะลงด้วยความโศกเศร้า

ราวกับว่าร้องไห้ให้กับมารดาของข้าพระองค์

15 แต่เมื่อข้าพระองค์สะดุด พวกเขากลับพากันดีใจ

รวมหัวกันเล่นงานโดยที่ข้าพระองค์ไม่รู้ตัว

รุมนินทาว่าร้ายข้าพระองค์ไม่หยุดหย่อน

16 พวกเขาเยาะเย้ยถากถางอย่างคนอธรรม

พวกเขากัดฟันใส่ข้าพระองค์

17 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงนิ่งดูอยู่นานเท่าใดหนอ?

ขอทรงช่วยกู้ชีวิตของข้าพระองค์ให้พ้นจากความร้ายกาจของเขา

ช่วยกู้ชีวิตอันมีค่าของข้าพระองค์จากสิงโตเหล่านี้

18 ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์ในที่ชุมนุมใหญ่

ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางมหาชน

19 ขออย่าให้คนเหล่านั้นที่มาเป็นศัตรูโดยไม่มีสาเหตุ

ยิ้มเยาะข้าพระองค์ได้

ขออย่าให้คนที่เกลียดชังข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุ

ขยิบตาให้กัน

20 คนเหล่านี้ไม่พูดกันอย่างสงบ

มีแต่คบคิดกันใส่ร้าย

คนที่อยู่อย่างสงบในแผ่นดิน

21 พวกเขาโพนทะนากล่าวหาข้าพระองค์

เขาว่า “นั่นไง! นั่นไง! เราเห็นกับตาเลย”

22 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเห็นโดยตลอด ขออย่าทรงนิ่งเฉย

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขออย่าทรงอยู่ห่างไกลจากข้าพระองค์

23 ขอทรงตื่นและลุกขึ้นปกป้องข้าพระองค์!

พระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงต่อสู้เพื่อข้าพระองค์ด้วยเถิด

24 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงพิสูจน์ว่าข้าพระองค์ไร้ความผิดตามความชอบธรรมของพระองค์

ขออย่าให้พวกเขายิ้มเยาะข้าพระองค์

25 อย่าให้พวกเขาคิดว่า “นั่นไง ในที่สุดก็สมใจเรา!”

หรือพูดว่า “เราได้กลืนกินเขาแล้ว”

26 ขอให้ผู้ที่ยิ้มเยาะความทุกข์ของข้าพระองค์

อับอายและสับสนวุ่นวาย

ขอให้ผู้ที่ยกตัวข่มข้าพระองค์อัปยศอดสู

27 ขอให้ผู้ที่ชื่นชมเมื่อข้าพระองค์พ้นข้อหา

โห่ร้องอย่างยินดีปรีดา

ขอให้เขากล่าวเสมอๆ ว่า “ขอเทิดทูนสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้พอพระทัยในความผาสุกร่มเย็นของผู้รับใช้ของพระองค์”

28 ลิ้นของข้าพระองค์จะกล่าวถึงความชอบธรรมของพระองค์

และสรรเสริญพระองค์วันยังค่ำ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/35-a124aa53df0dcb7ebdf1fb89efcf6a10.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 36

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทประพันธ์ของดาวิดผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า)

1 คำทำนายบทหนึ่งดังก้องอยู่ในใจของข้าพเจ้า

เกี่ยวกับบาปของคนชั่วว่า

ไม่มีความยำเกรงพระเจ้า

ในสายตาของเขา

2 เพราะว่าในสายตาของเขา

เขาป้อยอตนเองเกินกว่าที่จะมองเห็นหรือเกลียดชังบาปของตน

3 วาจาของเขาชั่วร้ายและมีเล่ห์เหลี่ยม

เขาเลิกใช้สติปัญญาและเลิกทำความดี

4 แม้ยังนอนอยู่บนเตียง เขาก็ยังวางแผนชั่ว

เขาอุทิศตนให้กับทางบาป

และไม่ยอมปฏิเสธสิ่งผิดใดๆ

5 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าความรักมั่นคงของพระองค์ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าสวรรค์

ความซื่อสัตย์ของพระองค์สูงถึงท้องฟ้า

6 ความชอบธรรมของพระองค์ดั่งขุนเขา

ความยุติธรรมของพระองค์ประดุจห้วงลึก

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงปกป้องดูแลทั้งมนุษย์และสัตว์

7 ความรักมั่นคงของพระองค์ประเมินค่าไม่ได้!

มวลมนุษยชาติ

ต่างก็ลี้ภัยอยู่ใต้ร่มปีกพระองค์

8 พระองค์ทรงบำรุงเลี้ยงเขาด้วยความอุดมสมบูรณ์จากพระนิเวศของพระองค์

และพระองค์ทรงให้เขาดื่มจากธารน้ำแห่งความปีติยินดีของพระองค์

9 เพราะพระองค์ทรงเป็นน้ำพุแห่งชีวิต

เราเห็นแสงสว่างในความสว่างของพระองค์

10 โปรดสำแดงความรักมั่นคงของพระองค์แก่บรรดาผู้ที่รู้จักพระองค์

และสำแดงความชอบธรรมของพระองค์แก่บรรดาผู้มีใจเที่ยงธรรมต่อไป

11 ขออย่าให้เท้าของคนหยิ่งผยองมาเหยียบย่ำข้าพระองค์

หรืออย่าให้มือของคนชั่วขับไล่ข้าพระองค์ไป!

12 ดูเถิด บรรดาคนทำชั่วล้มลงแล้ว

เขาถูกเหวี่ยงลงและไม่อาจลุกขึ้นได้อีก

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/36-4b520e1e948cb0af1eb36b941fe902bd.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 37

(บทประพันธ์ของดาวิด)

1 อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะคนชั่ว

หรืออย่าอิจฉาคนที่ทำผิด

2 เพราะว่าในไม่ช้าเขาก็จะเหี่ยวแห้งไปเหมือนต้นหญ้า

และเขาจะเฉาตายไปเหมือนพืชผัก

3 จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำความดี

จงอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นและรื่นรมย์อยู่ในทุ่งหญ้าอันปลอดภัย

4 จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า

และพระองค์จะประทานสิ่งที่ใจของท่านปรารถนา

5 จงมอบทางของท่านไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า

จงวางใจในพระองค์ และพระองค์จะทรงทำสิ่งเหล่านี้ คือ

6 พระองค์จะทำให้ความชอบธรรมของท่านฉายแสงดั่งรุ่งอรุณ

ให้ความยุติธรรมในคดีของท่านเจิดจ้าดั่งแสงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน

7 จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพียรรอคอยพระองค์

อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จในทางของเขา

เมื่อแผนชั่วของเขาลุล่วงไปด้วยดี

8 จงระงับโทสะ เลิกโมโหโกรธาเสีย

อย่าเดือดเนื้อร้อนใจ ซึ่งมีแต่จะนำไปสู่ความเลวร้าย

9 เพราะคนชั่วร้ายจะถูกกำจัด

แต่บรรดาผู้ที่หวังในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก

10 เพียงชั่วประเดี๋ยว คนชั่วก็จะสูญสิ้นไป

แม้ท่านจะมองหาเขาแต่จะไม่พบ

11 ส่วนคนที่ถ่อมสุภาพจะได้รับแผ่นดินนั้นเป็นมรดก

และชื่นชมกับสันติสุขอันยิ่งใหญ่

12 คนชั่ววางแผนปองร้ายผู้ชอบธรรม

และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่พวกเขา

13 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหัวเราะเยาะคนชั่ว

เพราะพระองค์ทรงทราบว่าวันเวลาของเขาใกล้จะมาถึงแล้ว

14 คนชั่วชักดาบและโก่งคันธนู

เพื่อโค่นล้มคนยากไร้และขัดสน

เพื่อเข่นฆ่าคนที่ดำเนินในทางเที่ยงธรรม

15 แต่ดาบของเขาเองจะเสียบทะลุหัวใจของเขาเอง

และธนูของเขาจะถูกหักทำลาย

16 สิ่งเล็กน้อยที่คนชอบธรรมมีอยู่

ก็ดีกว่าความมั่งคั่งของคนชั่วร้าย

17 เพราะอำนาจของคนชั่วจะถูกขจัดไป

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเชิดชูผู้ชอบธรรม

18 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบวันเวลาของคนไร้ตำหนิ

มรดกของพวกเขาจะยั่งยืนนิรันดร์

19 ในยามเกิดภัยพิบัติ พวกเขาจะไม่อับเฉา

ในยามกันดารอาหาร พวกเขาก็จะเริงร่าในความอุดมสมบูรณ์

20 ส่วนคนชั่วจะพินาศ

แม้ว่าศัตรูขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นเหมือนดอกไม้ในทุ่งหญ้า

พวกเขาก็จะสูญสิ้นไปเหมือนควัน

21 คนชั่วขอยืมแล้วไม่ใช้คืน

ส่วนคนชอบธรรมให้ด้วยใจกว้างขวาง

22 บรรดาผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าอวยพรจะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก

แต่บรรดาผู้ที่พระองค์ทรงสาปแช่งจะต้องถูกตัดออก

23 ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยทางของคนใด

ก็ทรงให้ย่างก้าวของคนนั้นมั่นคง

24 แม้เขาสะดุด เขาจะไม่ล้มลง

เพราะพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าค้ำชูเขาไว้

25 ข้าพเจ้าเคยเป็นหนุ่มฉกรรจ์ และเดี๋ยวนี้ชราแล้ว

แต่ยังไม่เคยเห็นคนชอบธรรมถูกทอดทิ้ง

หรือลูกหลานของพวกเขาต้องขอทานเลี้ยงชีพ

26 พวกเขาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เสมอและให้ยืมอย่างไม่ตระหนี่

ลูกหลานของพวกเขาก็ได้รับพร

27 จงละทิ้งความชั่วและทำความดี

แล้วท่านจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นสืบไปเป็นนิตย์

28 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักคนเที่ยงธรรม

และจะไม่ทอดทิ้งคนซื่อสัตย์ของพระองค์

พระองค์จะทรงปกป้องเขาตลอดไป

แต่พงศ์พันธุ์ของคนชั่วจะถูกตัดออก

29 คนชอบธรรมจะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก

และจะอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไป

30 ปากของผู้ชอบธรรมเปี่ยมด้วยสติปัญญา

และลิ้นของเขาพูดสิ่งที่ยุติธรรม

31 บทบัญญัติของพระเจ้าอยู่ในใจของเขา

ย่างเท้าของเขาจะไม่พลาดพลั้ง

32 คนชั่วหมอบคอยคนชอบธรรม

ซุ่มดักเอาชีวิตของเขา

33 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงปล่อยพวกเขาให้อยู่ในกำมือของคนชั่ว

หรือให้คนชอบธรรมถูกตัดสินลงโทษเมื่อขึ้นศาล

34 จงรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าและดำเนินตามทางของพระองค์

พระองค์จะทรงเชิดชูท่านให้ได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก

ท่านจะเห็นคนชั่วร้ายถูกทำลาย

35 ข้าพเจ้าเห็นคนชั่วร้ายอำมหิตเจริญรุ่งเรือง

ดั่งต้นไม้เขียวขจีในถิ่นฐานของมัน

36 แต่ไม่ช้าก็จากไปและดับสูญ

แม้ข้าพเจ้ามองหา ก็ไม่พบเขาอีกเลย

37 จงพิจารณาคนที่ไร้ที่ติ สังเกตดูคนเที่ยงธรรม

ผู้ใฝ่สันติจะมีอนาคต

38 แต่บรรดาคนบาปทุกคนจะถูกทำลายไป

คนชั่วจะไม่มีอนาคต

39 ความรอดของคนชอบธรรมมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

พระองค์ทรงเป็นป้อมปราการของพวกเขาในยามทุกข์ยาก

40 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเขาและทรงกอบกู้เขา

พระองค์จะทรงกอบกู้เขาจากคนชั่วและช่วยให้เขาปลอดภัย

เพราะพวกเขาลี้ภัยในพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/37-d12d7d0175b656f0608cd38b98c38c87.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 38

(บทสดุดีของดาวิด คำทูลวิงวอน)

1 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขออย่าทรงลงโทษข้าพระองค์ขณะที่ทรงกริ้ว

หรือตีสั่งสอนข้าพระองค์ขณะที่ทรงพระพิโรธ

2 เพราะลูกศรของพระองค์ปักลึกในตัวข้าพระองค์

พระหัตถ์ของพระองค์วางเหนือข้าพระองค์อย่างหนักหน่วง

3 ร่างกายของข้าพระองค์ทรุดโทรมเพราะพระพิโรธของพระองค์

กระดูกของข้าพระองค์เสื่อมโทรมเพราะบาปของข้าพระองค์

4 ความผิดของข้าพระองค์ท่วมท้นข้าพระองค์

เหมือนภาระอันหนักหน่วงเกินจะแบกไว้

5 บาดแผลของข้าพระองค์ร้าวระบม

และกลัดหนองเพราะบาปอันโง่เขลาของข้าพระองค์

6 ข้าพระองค์ถูกทำให้ทรุดลงและตกต่ำอย่างมาก

ข้าพระองค์คร่ำครวญอยู่วันยังค่ำ

7 หลังของข้าพระองค์ปวดร้าว

ร่างกายของข้าพระองค์ทรุดโทรม

8 ข้าพระองค์อ่อนระโหยและบอบช้ำ

ข้าพระองค์ครวญครางด้วยความร้าวรานใจ

9 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความปรารถนาทั้งสิ้นของข้าพระองค์เปิดเผยอยู่ต่อหน้าพระองค์

เสียงทอดถอนใจของข้าพระองค์ไม่ได้ถูกปิดกั้นจากพระองค์

10 ใจของข้าพระองค์เต้นระรัว กำลังวังชาของข้าพระองค์ถดถอย

และตาของข้าพระองค์ก็มืดมัวไป

11 เพื่อนฝูงปลีกตัวออกห่างเพราะบาดแผลของข้าพระองค์

เพื่อนบ้านหลบลี้หนีหน้า

12 บรรดาผู้ที่หมายเอาชีวิตข้าพระองค์ก็วางกับดัก

บรรดาผู้ที่จะทำร้ายข้าพระองค์ก็พูดถึงแต่ความหายนะของข้าพระองค์

และคิดหาอุบายอยู่วันยังค่ำ

13 แต่ข้าพระองค์เป็นเหมือนคนหูหนวกที่ไม่ได้ยิน

และเป็นเหมือนคนใบ้ที่พูดไม่ได้

14 ข้าพระองค์กลายเป็นเหมือนคนที่ไม่ได้ยินอะไร

ผู้ซึ่งไม่สามารถปริปากโต้ตอบ

15 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์รอคอยพระองค์อยู่

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์จะทรงตอบ

16 เพราะข้าพระองค์ทูลว่า “ขออย่าให้พวกเขากระหยิ่มยิ้มย่อง

หรือจองหองพองขนเมื่อเท้าของข้าพระองค์พลาดไป”

17 เพราะข้าพระองค์กำลังจะล้มลงอยู่รอมร่อ

และความเจ็บปวดอยู่กับข้าพระองค์เสมอ

18 ข้าพระองค์สารภาพความชั่วช้าของข้าพระองค์

ข้าพระองค์ร้อนใจในความบาปของตน

19 ศัตรูตัวฉกาจของข้าพระองค์มีมากมาย

ผู้ที่เกลียดชังข้าพระองค์โดยไม่มีสาเหตุก็เหลือคณานับ

20 คนที่ตอบแทนความดีของข้าพระองค์ด้วยความชั่ว

ให้ร้ายข้าพระองค์

ขณะที่ข้าพระองค์ใฝ่หาความดี

21 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงห่างไกลข้าพระองค์

22 ขอทรงรีบรุดมาช่วยข้าพระองค์เถิด

องค์พระผู้เป็นเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/38-135305e7863066f72f54bd612b04e9a6.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 39

(ถึงหัวหน้านักร้อง ถึงเยดูธูน บทสดุดีของดาวิด)

1 ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะระแวดระวังทางของตน

และจะไม่ปล่อยให้ลิ้นทำบาป

ข้าพเจ้าจะไม่ปริปาก

ตราบใดที่คนอธรรมอยู่ตรงหน้า”

2 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงนิ่งและเงียบอยู่

ไม่ปริปากพูดแม้แต่จะเอ่ยถึงความดีใดๆ

แต่ความทุกข์ใจของข้าพเจ้าก็ทวีขึ้น

3 ความร้อนใจรุมเร้าอยู่ภายใน

ขณะที่ข้าพเจ้าใคร่ครวญ ไฟก็สุมอก

จนกระทั่งลิ้นของข้าพเจ้าได้เอ่ยออกมา

4 “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงให้ข้าพระองค์เห็นบั้นปลายของชีวิต

ขอให้รู้ว่าวันเวลาของข้าพระองค์มีจำนวนเท่าใด

ขอให้ข้าพระองค์รู้ตัวว่าชีวิตของข้าพระองค์นั้นผ่านไปเร็วเพียงใด

5 พระองค์ทรงทำให้วันคืนของข้าพระองค์สั้นแค่คืบ

ชั่วชีวิตของข้าพระองค์ไม่มีค่าอะไรสำหรับพระองค์

ชีวิตแต่ละคนอยู่แค่ชั่วลมหายใจ

เสลาห์

6 มนุษย์เป็นแค่เงาแวบไปแวบมา

วิ่งวุ่นทำโน่นทำนี่แต่ก็สูญเปล่า

ทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้ไม่รู้ว่าใครจะได้ไป

7 “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ขณะนี้ข้าพระองค์แสวงหาอะไรเล่า?

ความหวังของข้าพระองค์อยู่ในพระองค์

8 ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากการล่วงละเมิดทั้งสิ้นของข้าพระองค์

อย่าให้คนโง่เย้ยหยันข้าพระองค์ได้

9 ข้าพระองค์นิ่งเงียบอยู่ ไม่ยอมเปิดปาก

เพราะพระองค์เองคือผู้ที่กระทำให้ข้าพระองค์เป็นเช่นนี้

10 ขออย่าทรงโบยข้าพระองค์อีกเลย

ข้าพระองค์สิ้นแรงอยู่ในเงื้อมพระหัตถ์ของพระองค์แล้ว

11 เมื่อพระองค์ทรงกำราบและตีสั่งสอนมนุษย์เพราะบาปของเขา

พระองค์ก็ทรงผลาญทรัพย์สมบัติของเขาเหมือนแมลงกัดกิน

มนุษย์แต่ละคนอยู่แค่ชั่วลมหายใจ

เสลาห์

12 “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์

ขอทรงรับคำทูลขอความช่วยเหลือของข้าพระองค์

ขออย่าทรงเฉยเมยต่อการคร่ำครวญของข้าพระองค์

เพราะข้าพระองค์ก็อาศัยอยู่กับพระองค์ เหมือนคนต่างถิ่น

เหมือนคนแปลกหน้าเช่นเดียวกับบรรพบุรุษของข้าพระองค์

13 ขอทรงเบือนพระพักตร์ไปจากข้าพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีอีกครั้งหนึ่ง

ก่อนที่ข้าพระองค์จะจากไปและไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/39-37980f87d766ac85b6ab3cda01874bb3.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 40

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

1 ข้าพเจ้าอดทนรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า

พระองค์ทรงหันมาและรับฟังคำทูลวิงวอนของข้าพเจ้า

2 พระองค์ทรงยกข้าพเจ้าออกจากหลุมแห่งความสิ้นหวัง

จากหุบเหวและแอ่งโคลน

พระองค์ทรงวางเท้าข้าพเจ้าบนศิลา

และประทานที่อันมั่นคงให้ยืน

3 พระองค์ทรงใส่เพลงบทใหม่ในปากข้าพเจ้า

เป็นเพลงสรรเสริญแด่พระเจ้าของเรา

คนทั้งหลายจะเห็นและยำเกรง

และไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

4 ความสุขมีแก่

ผู้ที่ไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ที่ไม่ได้หันไปหาคนหยิ่งทะนง

หรือไปหาคนที่หันไปพึ่งพระจอมปลอม

5 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์

พระองค์ทรงทำการอัศจรรย์มากมายยิ่งนัก

พระองค์ทรงวางแผนสิ่งต่างๆ เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลาย

ไม่มีใครเทียบกับพระองค์ได้

หากข้าพระองค์จะกล่าวและเล่าถึงพระราชกิจของพระองค์

ก็มากมายเกินกว่าจะทำไหว

6 พระองค์ไม่ได้ทรงประสงค์เครื่องบูชาและของถวาย

ไม่ได้ทรงเรียกร้องเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาไถ่บาป

แต่ทรงเปิดหูของข้าพระองค์

7 แล้วข้าพระองค์ทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ข้าพระองค์มาแล้ว

ในหนังสือม้วนได้เขียนถึงข้าพระองค์ไว้

8 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ปรารถนาจะทำตามพระประสงค์ของพระองค์

บทบัญญัติของพระองค์อยู่ในดวงใจของข้าพระองค์”

9 ข้าพระองค์ประกาศความชอบธรรมในที่ชุมนุมใหญ่

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตามที่พระองค์ทรงทราบ

ข้าพระองค์ไม่ได้ปิดปากเงียบ

10 ข้าพระองค์ไม่ได้เก็บงำความชอบธรรมของพระองค์ไว้ในใจ

ข้าพระองค์ได้ประกาศความซื่อสัตย์และความรอดของพระองค์

ข้าพระองค์ไม่ได้ปกปิดความรักมั่นคงและความจริงของพระองค์

จากที่ชุมนุมใหญ่

11 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขออย่าทรงยับยั้งพระเมตตาจากข้าพระองค์

ขอให้ความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ของพระองค์ปกป้องข้าพระองค์ไว้เสมอ

12 เพราะความเดือดร้อนนับไม่ถ้วนรุมล้อมข้าพระองค์

และบาปของข้าพระองค์ไล่ทันจนข้าพระองค์มองอะไรไม่เห็น

บาปนั้นมากยิ่งกว่าผมบนศีรษะของข้าพระองค์

จิตใจของข้าพระองค์ก็หดหู่ท้อแท้อยู่ภายในข้าพระองค์

13 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ด้วย

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดเสด็จมาช่วยข้าพระองค์โดยเร็วเถิด

14 ขอให้ผู้ที่มุ่งเอาชีวิตข้าพระองค์

ต้องอับอายและอลหม่าน

ขอให้บรรดาผู้ที่อยากให้ข้าพระองค์พินาศ

ต้องอัปยศอดสูกลับไป

15 ขอให้ผู้ที่พูดกับข้าพระองค์ว่า “นั่นไง! นั่นไง!”

ต้องตกตะลึงกับความอับอายขายหน้าของตน

16 แต่ขอให้คนทั้งปวงที่แสวงหาพระองค์

ชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ในพระองค์

ขอให้บรรดาผู้ที่รักความรอดของพระองค์กล่าวเสมอว่า

“ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นที่ยกย่องเทิดทูน!”

17 ส่วนข้าพระองค์ยากจนและแร้นแค้น

ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงระลึกถึงข้าพระองค์

พระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์และพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงล่าช้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/40-f889656846d6759058cd701c0e9ccef3.mp3?version_id=179—