Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 21

1 พระทัยของกษัตริย์อยู่ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเหมือนธารน้ำไหล

ซึ่งพระเจ้าทรงนำไปสู่คนทั้งปวงที่พระองค์พอพระทัย

2 ทางทั้งสิ้นของมนุษย์ก็ดูถูกต้องในสายตาของเขา

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประเมินจิตใจ

3 การทำสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรม

เป็นที่ปรารถนาขององค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งกว่าเครื่องบูชา

4 ตาเย่อหยิ่งและใจผยองคือทุ่งนาที่ไม่ได้หว่านไถของคนชั่ว

ทั้งสองสิ่งนี้ล้วนเป็นบาป

5 แผนงานของคนขยันนำมาซึ่งผลกำไร

เช่นเดียวกับที่ความรีบร้อนนำมาซึ่งความขัดสน

6 ทรัพย์สินที่ได้มาจากลิ้นโป้ปด

คือหมอกควันที่จางหาย และกับดักมรณะ

7 ความอำมหิตของคนชั่วจะลากพวกเขาไปสู่หายนะ

เพราะเขาไม่ยอมทำสิ่งที่ถูกต้อง

8 วิถีทางของผู้ทำผิดนั้นคดเคี้ยว

ส่วนความประพฤติของผู้บริสุทธิ์นั้นเที่ยงตรง

9 อยู่ที่มุมดาดฟ้า

ดีกว่าอยู่ร่วมชายคากับภรรยาที่ชอบหาเรื่อง

10 คนชั่วปรารถนาชั่ว

เพื่อนบ้านไม่เคยได้รับความเมตตาจากเขา

11 เมื่อคนชอบเยาะเย้ยถูกลงโทษ คนอ่อนต่อโลกก็เกิดปัญญา

เมื่อฟังคนฉลาด เขาก็ได้ความรู้

12 องค์ผู้ทรงธรรมจับตาดูบ้านของคนชั่ว

และฉุดคนชั่วลงสู่หายนะ

13 คนที่ปิดหูจากเสียงร่ำร้องของคนจน

ก็จะร่ำร้องและไม่ได้รับคำตอบเช่นกัน

14 ของกำนัลที่แอบให้ก็ช่วยบรรเทาความโกรธ

สินบนซึ่งซุกอยู่ในกระเป๋าก็ช่วยลดหย่อนผ่อนโทษร้ายแรง

15 การผดุงความยุติธรรมทำให้ผู้ชอบธรรมชื่นชมยินดี

แต่ทำให้ผู้ทำชั่วขวัญหนีดีฝ่อ

16 คนที่เตลิดไปจากทางแห่งความเข้าใจ

จะจบลงในหมู่คนตาย

17 ผู้ที่รักความสนุกสนานจะยากจน

ผู้ที่รักเหล้าองุ่นและน้ำมันมะกอกจะไม่มีวันร่ำรวย

18 คนชั่วจะกลายเป็นค่าไถ่ให้คนชอบธรรม

คนไม่ซื่อสัตย์เป็นค่าไถ่ให้คนเที่ยงธรรม

19 อาศัยอยู่ในถิ่นกันดาร

ดีกว่าอยู่กับภรรยาอารมณ์ร้ายชอบทะเลาะ

20 คนฉลาดเก็บข้าวปลาอาหารชั้นเลิศไว้ในคลัง

แต่คนโง่กินล้างกินผลาญสิ่งที่มีจนหมด

21 ผู้ที่ติดตามความชอบธรรมและความรัก

ย่อมพบชีวิต ความเจริญรุ่งเรืองและเกียรติ

22 คนฉลาดสามารถโจมตีเมืองของคนที่มีกำลัง

และทลายที่มั่นซึ่งเขาไว้วางใจ

23 ผู้ที่ระวังปากและลิ้นของตน

ก็ปกป้องตนให้พ้นจากหายนะ

24 คนเย่อหยิ่ง คนจองหอง มีชื่อว่า “นักเยาะเย้ย”

เขาทำตัวยโสโอหัง

25 ความอยากของคนเกียจคร้านฆ่าตัวเขาเอง

เพราะเขาไม่ยอมลงมือทำงาน

26 เขาอยากได้โน่นอยากได้นี่อยู่วันยังค่ำ

แต่คนชอบธรรมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

27 เครื่องบูชาของคนชั่วนั้นน่าชิงชัง

โดยเฉพาะเมื่อเขานำมาด้วยเจตนาชั่ว!

28 ผู้ให้คำพยานเท็จจะพินาศ

แต่คนที่ตั้งใจฟังจะเป็นพยานที่เชื่อถือได้เสมอ

29 คนชั่วดื้อดึงถือดี

ส่วนคนเที่ยงธรรมไตร่ตรองถึงวิถีทางของตน

30 ไม่มีสติปัญญา หรือวิจารณญาณ หรือแผนการใดๆ

ที่ต่อต้านพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้

31 ม้าเตรียมพร้อมไว้สำหรับศึกสงคราม

แต่ชัยชนะอยู่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/21-4b9e021f84a037e44aedef9309377ae9.mp3?version_id=179—

Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 22

1 ชื่อเสียงดีน่าปรารถนายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติมหาศาล

เป็นที่ยกย่องก็ดีกว่าได้เงินหรือทอง

2 คนรวยคนจนก็เหมือนกันอย่างหนึ่ง

คือองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างพวกเขาทั้งหมด

3 คนมีวิจารณญาณเห็นภัยอันตรายและหลบเข้าที่กำบัง

ส่วนคนโง่เดินลุยต่อไปและต้องทุกข์ทนกับผลที่ตามมา

4 ความถ่อมสุภาพคือการยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

รางวัลของมันคือ ความมั่งคั่ง เกียรติ และชีวิต

5 เส้นทางของคนชั่วมีกับดักและตาข่าย

ส่วนผู้ที่ปกป้องชีวิตของตนก็หลีกห่างจากทางนั้น

6 จงอบรมเด็กในทางที่เขาควรจะไป

และเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะไม่หันเหไปจากทางนั้น

7 คนรวยปกครองคนจน

ลูกหนี้ก็เป็นทาสของเจ้าหนี้

8 ผู้หว่านความอยุติธรรมก็เก็บเกี่ยวความทุกข์ร้อน

อำนาจอันน่าสะพรึงกลัวของเขาจะถูกทำลายลง

9 ความสุขมีแก่คนใจกว้าง

เพราะเขาแบ่งปันอาหารแก่ผู้ยากไร้

10 จงขับไล่คนชอบเยาะเย้ยออกไป การต่อสู้ชิงดีจะได้จบสิ้น

การสบประมาทและการทะเลาะวิวาทจะได้ยุติ

11 ผู้ที่รักจิตใจอันบริสุทธิ์และมีวาจาอ่อนโยน

จะได้เป็นมิตรกับกษัตริย์

12 พระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปกป้องความรู้

แต่ทรงลบล้างถ้อยคำของคนไม่ซื่อสัตย์

13 คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตอยู่ข้างนอก!”

“ฉันจะถูกมันฆ่ากลางถนน!”

14 ปากของหญิงแพศยาเหมือนหลุมลึก

ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสาปแช่งจะตกลงไปในนั้น

15 ความเขลาฝังแน่นอยู่ในใจของเด็ก

แต่ไม้เรียวที่ตีสั่งสอนจะช่วยไล่มันออกไป

16 ผู้ที่ขูดรีดคนยากจนเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้ตนเอง

และผู้ที่ให้ของกำนัลแก่คนร่ำรวย ทั้งสองจะมาถึงความขัดสน

คำสอน

คำสอนที่

17 จงเอียงหูฟังคำสอนของปราชญ์

และจงใส่ใจในความรู้ของเรา

18 เพราะน่าชื่นใจ เมื่อเจ้ารักษาถ้อยคำเหล่านั้นไว้ในใจ

และเมื่อทุกถ้อยคำนั้นติดปากของเจ้า

19 เพื่อเจ้าจะไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

เราสอนเจ้าในวันนี้ ใช่ แม้กระทั่งเจ้า

20 เราได้เขียนคำสอนสามสิบประการไว้ให้เจ้าไม่ใช่หรือ?

เป็นคำแนะนำและความรู้

21 สอนเจ้าให้เป็นคนซื่อสัตย์และพูดจาน่าเชื่อถือ

เพื่อเจ้าจะกลับไปรายงานผู้ที่เจ้ารับใช้ได้อย่างถูกต้อง

คำสอนที่

22 อย่าขูดรีดคนจน เพราะเขาจนอยู่แล้ว

และอย่าบีบคั้นคนขัดสนในศาล

23 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงว่าความให้เขา

และจะเล่นงานผู้ที่เล่นงานเขา

คำสอนที่

24 อย่าผูกมิตรกับคนใจร้อน

อย่าคบหากับคนที่ฉุนเฉียวง่าย

25 มิฉะนั้นเจ้าจะเอาอย่างเขา

แล้วพาตัวเองไปติดกับ

คำสอนที่

26 อย่าริอ่านจับมือวางมัดจำ

หรือเป็นผู้ค้ำประกันในการกู้หนี้ยืมสิน

27 หากเจ้าไม่มีจะจ่ายให้

แม้ที่นอนก็ยังจะถูกกระชากไปจากหลังของเจ้า

คำสอนที่

28 อย่าเคลื่อนย้ายหลักเขตเก่าแก่

ซึ่งบรรพบุรุษของเจ้าได้ปักไว้

คำสอนที่

29 เจ้าเห็นคนที่เชี่ยวชาญในงานของตนไหม?

เขาจะได้รับใช้กษัตริย์

เขาจะไม่ต้องทำงานให้กับคนสามัญ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/22-815902c2119b3b06637b15881ce3bb03.mp3?version_id=179—

Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 23

คำสอนที่

1 เมื่อเจ้ารับประทานอาหารร่วมกับเจ้าบ้านผ่านเมือง

จงระมัดระวังสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้าให้ดี

2 หากเจ้าตะกละเห็นแก่กิน

ก็จงเอามีดจ่อคอหอยตนเองไว้

3 อย่าปรารถนาสิ่งโอชะของเขา

เพราะอาหารนั้นเป็นสิ่งลวงตา

คำสอนที่

4 อย่าตรากตรำจนอ่อนล้าเพียงเพื่อหวังร่ำรวย

อย่าวางใจในความเฉลียวฉลาดของเจ้า

5 แค่พริบตาเดียวทรัพย์สมบัติก็จะลับหายไป

เพราะมันจะติดปีกบิน

หนีไปในท้องฟ้าเหมือนนกอินทรี

คำสอนที่

6 อย่ากินอาหารของคนตระหนี่ถี่เหนียว

อย่าปรารถนาสิ่งโอชะของเขา

7 เพราะเขาเป็นคนชนิดที่คอยคิดคำนวณอยู่ในใจ

ปากก็พูดว่า “เชิญกินดื่มเถิด”

แต่ใจไม่ได้อยู่กับเจ้าเลย

8 เจ้าจะต้องสำรอกสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่กินเข้าไป

และต้องสิ้นเปลืองคำขอบคุณ

คำสอนที่

9 อย่าเปลืองลมปากกับคนโง่

เพราะเขาจะเหยียดหยามคำแนะนำที่ฉลาดของเจ้า

คำสอนที่

10 อย่าโยกย้ายหลักเขตเก่าแก่

หรือรุกล้ำที่ดินของลูกกำพร้าพ่อ

11 เพราะองค์ผู้ปกป้องของเขาทรงเข้มแข็ง

พระองค์จะทรงว่าความให้เขา

คำสอนที่

12 จงเปิดใจรับคำสั่งสอน

และเงี่ยหูฟังถ้อยคำแห่งความรู้

คำสอนที่

13 อย่าละเลยการตีสั่งสอนลูก

หากเจ้าตีสอนลูกด้วยไม้เรียว เขาจะไม่ตาย

14 เจ้าต้องตีสอนเขาด้วยไม้เรียว

แล้วจะช่วยเขาให้พ้นจากความตาย

คำสอนที่

15 ลูกเอ๋ย หากเจ้ามีใจฉลาด

เราก็ปลื้มใจ

16 เมื่อเจ้าเอ่ยปากกล่าวสิ่งที่ถูกต้อง

จิตวิญญาณของเราก็แช่มชื่น

คำสอนที่

17 อย่าให้ใจของเจ้าอิจฉาคนบาป

แต่จงกระตือรือร้นในการยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดเวลา

18 เพราะมีอนาคตรอเจ้าอยู่แน่นอน

และความหวังของเจ้าจะไม่สูญสิ้น

คำสอนที่

19 ลูกเอ๋ย จงฟังและเฉลียวฉลาด

จงรักษาใจให้อยู่ในทางที่ถูกต้อง

20 อย่าร่วมวงสำมะเลเทเมากับคนขี้เหล้าเมายา

และคนเห็นแก่กิน

21 เพราะคนขี้เมาและคนตะกละจะยากจน

และความสะลึมสะลือทำให้เขาเหลือแต่ผ้าขี้ริ้วพันกาย

คำสอนที่

22 จงฟังคำของพ่อผู้ให้ชีวิตแก่เจ้า

และอย่าดูหมิ่นแม่ของเจ้าเมื่อนางแก่ตัวลง

23 จงซื้อความจริงและอย่าขายสิ่งเหล่านี้

คือ สติปัญญา คำสั่งสอนและความเข้าใจ

24 พ่อของคนชอบธรรมก็สุขใจมาก

คนที่มีลูกฉลาดก็ชื่นชมในตัวลูก

25 จงทำให้พ่อแม่ยินดี

ให้แม่ผู้ที่คลอดเจ้าได้ปลื้มใจ!

คำสอนที่

26 ลูกเอ๋ย ขอใจของเจ้าให้เราเถิด

จงให้ตาของเจ้าปีติยินดีในทางของเรา

27 เพราะหญิงโสเภณีเป็นหลุมลึก

และหญิงเสเพลก็เป็นบ่อแคบ

28 นางซุ่มรอเหยื่อเหมือนโจร

พาให้ชายคนแล้วคนเล่าไม่ซื่อสัตย์ต่อภรรยาของตน

คำสอนที่

29 ใครหนอที่ทุกข์ระทม? ใครหนอที่โศกเศร้า?

ใครหนอที่วิวาท? ใครหนอที่เพ้อพล่าม?

ใครหนอเจ็บตัวโดยไม่จำเป็น? ใครหนอที่มีตาแดงก่ำ?

30 ก็คือคนที่จมอยู่กับเหล้า

คนที่ทดลองชิมเหล้าผสมหลากชนิด

31 อย่าจ้องดูเหล้าองุ่นเมื่อมันสีแดงสวย

เมื่อมันส่องประกายอยู่ในถ้วย

เมื่อมันดื่มลื่นคอ!

32 ในบั้นปลาย มันฉกกัดเหมือนงู

ปล่อยพิษเหมือนงูพิษ

33 ตาของเจ้าจะเห็นภาพหลอนแปลกๆ

ความคิดเลอะเลือนสับสน

34 เจ้าจะเป็นเหมือนคนที่นอนลอยอยู่กลางทะเล

และเหมือนคนที่นอนอยู่บนเสากระโดงเรือ

35 เจ้าจะพูดว่า “เขาฟาดแต่เราไม่เจ็บ! เขาทุบตีแต่เราไม่รู้สึก!

เมื่อไรเราจะตื่นนะ จะได้ไปดื่มอีก”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/23-dfc4a5e72cc61c8a3dac50cc9da9a607.mp3?version_id=179—

Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 24

คำสอนที่

1 อย่าอิจฉาคนชั่ว

อย่าปรารถนาจะเป็นเพื่อนเขา

2 เพราะใจของเขาคิดวางแผนทารุณ

และเอ่ยปากถึงการก่อความเดือดร้อน

คำสอนที่

3 บ้านนั้นสร้างขึ้นโดยสติปัญญา

และสถาปนาขึ้นด้วยความเข้าใจ

4 โดยความรู้ ห้องต่างๆ ก็เต็มไปด้วย

ทรัพย์สมบัติล้ำค่าที่งดงามและหายาก

คำสอนที่

5 คนฉลาดทรงอำนาจยิ่งนัก

และผู้มีความรู้ก็มีกำลัง

6 แน่นอน เจ้าต้องการคำแนะนำเมื่อทำสงคราม

มีที่ปรึกษามากย่อมได้รับชัยชนะ

คำสอนที่

7 สติปัญญาอยู่สูงเกินเอื้อมสำหรับคนโง่

เขาไม่ควรเปิดปากพูดในที่ประชุมที่ประตูเมือง

คำสอนที่

8 ผู้ที่คิดการชั่ว

จะถูกเรียกว่าคนเจ้าอุบาย

9 อุบายของความโง่เขลาเป็นบาป

และผู้คนชิงชังนักเยาะเย้ย

คำสอนที่

10 หากเจ้าท้อแท้ในยามทุกข์ร้อน

ก็แสดงว่ากำลังของเจ้าน้อยนัก!

11 จงช่วยผู้ที่ถูกนำไปสู่ความตาย

และช่วยรั้งผู้ที่โซซัดโซเซไม่ให้ถูกเข่นฆ่า

12 หากเจ้าว่า “เราไม่รู้เรื่องนี้เลย”

พระองค์ผู้ทรงชั่งใจของเจ้าจะไม่เห็นหรือ?

พระองค์ผู้ทรงดูแลชีวิตของเจ้าอยู่จะไม่รู้หรือ?

พระองค์จะไม่ทรงตอบแทนแก่แต่ละคนตามการกระทำของเขาหรือ?

คำสอนที่

13 ลูกเอ๋ย จงกินน้ำผึ้งเพราะเป็นสิ่งดี

น้ำผึ้งที่หยดจากรวงนั้นหวานชื่นใจ

14 จงรู้เถิดว่าสติปัญญาก็หวานเหมือนน้ำผึ้งสำหรับชีวิตเจ้า

หากเจ้าพบปัญญา ก็จะมีอนาคตที่สดใสรอเจ้าอยู่

และความหวังของเจ้าจะไม่สูญสิ้น

คำสอนที่

15 อย่าเป็นเหมือนโจรที่ซุ่มดักเล่นงานบ้านของคนชอบธรรม

อย่าคิดปล้นที่อาศัยของเขา

16 เพราะถึงแม้คนชอบธรรมล้มลงเจ็ดครั้ง เขาก็ลุกขึ้นอีก

แต่คนชั่วถูกความหายนะคว่ำลง

คำสอนที่

17 อย่าดีใจเมื่อศัตรูของเจ้าล้ม

อย่าลิงโลดเมื่อเขาสะดุด

18 เกรงว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเห็นและไม่พอพระทัย

แล้วทรงหันเหพระพิโรธไปจากเขา

คำสอนที่

19 อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะคนชั่ว

หรืออย่าอิจฉาริษยาคนเลว

20 เพราะคนชั่วไม่มีอนาคตให้หวัง

ประทีปของคนชั่วจะถูกดับไป

คำสอนที่

21 ลูกเอ๋ย จงยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและกษัตริย์

อย่าเข้าร่วมกับเจ้าขุนมูลนายที่ก่อกบฏ

22 เพราะทั้งสองพระองค์จะทรงส่งความหายนะมาถึงพวกเขาอย่างฉับพลัน

ใครเล่าจะรู้ถึงความย่อยยับที่จะเกิดขึ้น?

คำสอนอื่นๆ ของปราชญ์

23 ต่อไปนี้เป็นคำสอนของปราชญ์เช่นกัน

การตัดสินอย่างลำเอียงเป็นสิ่งไม่ดี

24 ผู้ที่พูดกับคนผิดว่า “ท่านไม่ผิด”

จะถูกคนแช่งด่า และประชาชาติต่างๆ จะประณาม

25 ส่วนผู้ที่ตัดสินลงโทษคนทำผิดจะได้ดี

พระพรเหลือล้นจะมาถึงเขา

26 คำตอบซื่อตรง

เป็นดั่งจุมพิตบนริมฝีปาก

27 จงทำงานไถหว่านให้เสร็จ

เตรียมที่นาให้พร้อม

จากนั้นจึงค่อยสร้างบ้าน

28 อย่าเป็นพยานปรักปรำเพื่อนบ้านโดยไม่มีเหตุ

หรือใช้ปากของเจ้าพูดหลอกลวง

29 อย่าพูดว่า “ตอนนี้เป็นทีของเราแล้ว

จะได้แก้แค้นสิ่งที่เขาทำกับเราไว้”

30 เราผ่านไปที่ไร่นาของคนเกียจคร้าน

ผ่านสวนองุ่นของคนที่ไร้สามัญสำนึก

31 เราเห็นหนามงอกอยู่ทั่วทุกแห่ง

ผืนดินถูกปกคลุมด้วยวัชพืช

รั้วกำแพงหินก็ปรักหักพัง

32 เราพินิจพิเคราะห์สิ่งที่เราสังเกตเห็น

และบทเรียนที่เราได้รับก็คือ

33 หลับอีกนิด เคลิ้มอีกหน่อย

กอดอกงีบต่อสักประเดี๋ยว

34 แล้วความยากจนก็จะจู่โจมเจ้าดั่งขโมย

ความขัดสนจู่โจมดั่งคนถืออาวุธ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/24-a4faefd649af3849574a0cf4f639c361.mp3?version_id=179—

Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 25

สุภาษิตเพิ่มเติมของโซโลมอน

1 ต่อไปนี้เป็นสุภาษิตของโซโลมอน

ซึ่งคนของกษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์คัดลอกและรวบรวมไว้

2 พระเจ้าทรงได้รับเกียรติจากการที่ทรงปิดบังสิ่งต่างๆ

และเหล่ากษัตริย์ได้รับเกียรติจากการพินิจพิเคราะห์สิ่งต่างๆ

3 ฟ้าสูงแผ่นดินลึกฉันใด

พระทัยของเหล่ากษัตริย์ก็สุดจะพินิจพิเคราะห์ฉันนั้น

4 เมื่อไล่ขี้แร่ออกจากเงิน

ช่างเงินก็จะสร้างสรรค์ภาชนะได้

5 เช่นเดียวกัน เมื่อไล่คนชั่วให้พ้นจากกษัตริย์แล้ว

ราชบัลลังก์ก็จะยั่งยืนโดยความชอบธรรม

6 อย่ายกยอตนเองต่อหน้ากษัตริย์

หรืออวดอ้างตนเป็นคนสำคัญ

7 จงรอให้กษัตริย์เชื้อเชิญว่า “มาที่นี่เถิด”

ดีกว่าพระองค์ทำให้เจ้าอับอายต่อหน้าขุนนาง

สิ่งที่เจ้าได้เห็นกับตา

8 อย่ารีบร้อนนำไปฟ้องร้องที่ศาล

เพราะในบั้นปลายเจ้าจะทำอย่างไร

หากเพื่อนบ้านของเจ้าทำให้เจ้าอับอายขายหน้า?

9 หากเจ้ามีเรื่องฟ้องร้องกับเพื่อนบ้าน

อย่าใส่ร้ายเขาให้คนอื่นไม่ไว้ใจ

10 เกรงว่าผู้ที่ได้ยินจะฉีกหน้าเจ้า

และเจ้าต้องเสียชื่อเสียงไม่จบสิ้น

11 คำพูดที่เหมาะกับกาลเทศะ

ก็เหมือนแอปเปิ้ลทองคำล้อมเงิน

12 คำตักเตือนของตุลาการผู้ชาญฉลาดสำหรับหูที่รับฟัง

ก็เหมือนต่างหูทองหรือเครื่องประดับทองเนื้อดี

13 ผู้สื่อสารที่ไว้ใจได้

ก็เหมือนน้ำเย็นจากหิมะในฤดูเก็บเกี่ยว

ทำให้นายที่ส่งเขาไปชื่นใจ

14 ผู้ที่อวดเรื่องของกำนัลซึ่งตนไม่ได้ให้

ก็เหมือนเมฆและลมที่ไม่ให้ฝน

15 จงอดทน แล้วจะชนะใจเจ้านายได้

ลิ้นที่อ่อนโยนสามารถบดขยี้กระดูกได้

16 เมื่อพบน้ำผึ้ง จงกินแต่พอประมาณ

หากกินมากเกินไป จะสำรอกออกมา

17 เช่นเดียวกัน จงไปเยือนเพื่อนบ้านนานๆ ครั้ง

หากบ่อยเกินไป เขาจะเกลียดชังเจ้า

18 ผู้ที่เป็นพยานเท็จกล่าวหาเพื่อนบ้าน

ก็เหมือนกระบอง หรือดาบ หรือลูกศรคมกริบ

19 การพึ่งคนไม่ซื่อในยามทุกข์ร้อน

ก็เหมือนฟันผุหรือเท้าพิการ

20 ผู้ที่ร้องเพลงให้คนทุกข์ใจฟัง

ก็เหมือนผู้ที่ถอดเสื้อในวันที่อากาศหนาว

หรือเอาเกลือถูลงบนแผล

21 หากศัตรูของเจ้าหิว จงให้อาหารเขารับประทาน

เมื่อเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม

22 เพราะการทำเช่นนี้ เท่ากับว่าเจ้าสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา

และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานบำเหน็จแก่เจ้า

23 ลมเหนือพัดพาฝนนอกฤดูมาฉันใด

คำติฉินนินทาก็ทำให้หน้าบึ้งตึงฉันนั้น

24 อยู่ที่มุมดาดฟ้า

ดีกว่าอยู่ร่วมชายคากับภรรยาที่ชอบหาเรื่อง

25 ข่าวดีจากแดนไกล

ก็เหมือนน้ำเย็นชื่นใจสำหรับคนที่อ่อนล้า

26 หากคนชอบธรรมออมชอมกับคนชั่ว

ก็เหมือนน้ำพุมีโคลนหรือบ่อที่น้ำเสีย

27 การกินน้ำผึ้งมากไปไม่ดีฉันใด

การพินิจพิเคราะห์สิ่งที่ล้ำลึกเกินไปก็ทำให้เสียเกียรติฉันนั้น

28 ผู้ที่ขาดการควบคุมตนเอง

ก็เหมือนเมืองที่กำแพงถูกทำลาย

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/25-19a9212a52dd079fab56eec1aa978b95.mp3?version_id=179—

Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 26

1 เกียรติยศไม่คู่ควรกับคนโง่

ก็เหมือนหิมะในฤดูร้อนหรือฝนในฤดูเก็บเกี่ยว

2 คำแช่งด่าที่ไร้เหตุก็ไม่ส่งผล

ก็เหมือนนกกระจอกหรือนกนางแอ่นบินร่อนไปมาไร้จุดหมาย

3 แส้สำหรับม้า บังเหียนสำหรับลา

และไม้เรียวสำหรับหลังของคนโง่!

4 อย่าตอบคนโง่ด้วยความโง่ของเขา

มิฉะนั้นเจ้าเองจะเป็นเหมือนเขา

5 จงตอบคนโง่ด้วยความโง่ของเขา

มิฉะนั้นเขาจะคิดว่าตนเองฉลาด

6 วางใจคนโง่ให้เป็นทูตส่งสาร

ก็เหมือนตัดเท้าออกหรือดื่มยาพิษ

7 ภาษิตในปากของคนโง่

ก็เหมือนขาพิการที่ใช้การไม่ได้

8 การให้เกียรติคนโง่

ก็เหมือนผูกหินติดกับสลิง

9 ภาษิตในปากของคนโง่

ก็เหมือนพุ่มหนามในมือของคนขี้เมา

10 ผู้ที่จ้างคนโง่หรือใครก็ได้ที่ผ่านไปมา

ก็เหมือนนักธนูที่ยิงกราดไปมา

11 สุนัขหวนกลับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมาฉันใด

คนโง่ก็กลับไปทำสิ่งโง่เขลาซ้ำซากฉันนั้น

12 เจ้าเห็นพวกคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดไหม

ยังมีความหวังในคนโง่มากกว่าพวกเขาเสียอีก

13 คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตอยู่ที่ถนน

มีสิงห์ร้ายเดินไปมาตามท้องถนน!”

14 ประตูเปิดปิดไปมาที่บานพับฉันใด

คนเกียจคร้านก็พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงฉันนั้น

15 คนเกียจคร้านแช่มือคาอยู่ในชาม

ขี้เกียจเกินกว่าจะหยิบอาหารใส่ปากตนเอง

16 คนเกียจคร้านคิดว่าตัวเองฉลาด

กว่าคนเจ็ดคนที่ตอบอย่างมีเหตุมีผล

17 การแส่เข้าไปกลางวงวิวาทที่ไม่ใช่ธุระของตน

เปรียบเหมือนคนที่กระชากหูสุนัขจรจัด

18 เหมือนคนบ้าที่กราดยิงลูกศรเพลิง

หรือลูกศรอาบยาพิษ

19 คนที่โกหกหลอกลวงเพื่อนบ้าน

แล้วแก้ตัวว่า “ฉันล้อเล่นน่ะ!” ก็เป็นเช่นนั้น

20 เมื่อไม่มีฟืน ไฟก็ดับฉันใด

เมื่อไม่มีการซุบซิบนินทา การทะเลาะวิวาทก็สงบลงฉันนั้น

21 คนชอบทะเลาะก่อเรื่องวิวาทได้ง่ายดาย

เหมือนถ่านแดงพร้อมลุกเป็นเพลิง และฟืนพร้อมลุกเป็นไฟ

22 ถ้อยคำซุบซิบนินทาเหมือนอาหารโอชะ

เข้าไปยังส่วนลึกที่สุดของคนเรา

23 ริมฝีปากที่พูดจารื่นหูจากจิตใจชั่วร้าย

ก็เหมือนขี้แร่เงินเคลือบเครื่องปั้นดินเผา

24 ศัตรูผู้เกลียดชังอำพรางตนเองด้วยริมฝีปากของเขา

แต่ใจของเขาเต็มไปด้วยความหลอกลวง

25 ถึงจะพูดจาน่าฟัง ก็อย่าไปไว้ใจเขา

เพราะในใจของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายที่น่าชิงชัง

26 เขาเสแสร้งปกปิดความเกลียดชังของตน

แต่ในที่สุดความชั่วของเขาจะถูกเปิดโปงในที่ประชุม

27 ผู้ใดขุดหลุมพราง ผู้นั้นจะตกลงไปเอง

ผู้ใดกลิ้งหินออกมา มันจะกลิ้งกลับไปทับผู้นั้นเอง

28 ลิ้นที่มุสาก็เกลียดชังผู้ที่มันทำร้าย

และปากที่พูดจารื่นหูก็สร้างความพินาศ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/26-ca5991d10f2e451833591742b006fc4f.mp3?version_id=179—

Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 27

1 อย่าโอ้อวดเรื่องของวันพรุ่งนี้

เพราะเจ้าไม่รู้ว่าในวันหนึ่งจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

2 อย่ายกย่องตัวเองด้วยปากของเจ้าเอง

ให้คนอื่นเป็นผู้ยกย่อง ไม่ใช่ด้วยริมฝีปากของเจ้าเอง

3 หินก็หนัก ทรายก็หนัก

แต่การยั่วโมโหของคนโง่หนักยิ่งกว่าทั้งสองอย่างนั้น

4 ความโกรธนั้นโหดร้าย และโทสะนั้นท่วมท้น

แต่ใครเล่าจะทนเผชิญความอิจฉาริษยาได้?

5 ตักเตือนอย่างเปิดเผย

ยังดีกว่าซ่อนคำเตือนไว้ด้วยความรัก

6 บาดแผลที่เพื่อนทำก็ยังน่าเชื่อถือ

แต่จูบของศัตรูก็พร่ำเพรื่อไม่จริงใจ

7 คนที่อิ่มแล้วเหยียบย่ำน้ำผึ้งจากรวง

ส่วนผู้ที่หิวโหย ทุกสิ่งที่ขมก็มีรสหวาน

8 คนที่เตลิดหนีออกจากบ้าน

ก็เหมือนนกเตลิดหนีออกจากรัง

9 น้ำอบน้ำหอมทำให้ชื่นใจ

คำแนะนำจากใจของเพื่อนทำให้ชื่นจิต

10 อย่าละทิ้งมิตรสหายของเจ้าหรือของครอบครัวเจ้า

และอย่าไปบ้านพี่น้องเมื่อเจ้าทุกข์ยากลำบาก

เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ก็ดีกว่าพี่น้องที่อยู่ไกล

11 ลูกเอ๋ย จงฉลาดและทำให้เราปลาบปลื้มใจ

เราจะได้ตอบคนที่สบประมาทเรา

12 คนมีวิจารณญาณเห็นภัยอันตรายและหลบเข้าที่กำบัง

ส่วนคนโง่เดินลุยต่อไปและต้องทุกข์ทนกับผลที่ตามมา

13 จงยึดเสื้อผ้าของผู้ที่ค้ำประกันให้แก่คนแปลกหน้า

ยึดไว้เป็นมัดจำ เมื่อเขาประกันให้หญิงเสเพล

14 ผู้ที่มาแผดเสียงอวยพรเพื่อนบ้านแต่เช้ามืด

เขาจะถือว่าเป็นคำสาปแช่ง

15 ภรรยาที่ชอบหาเรื่อง

ก็เหมือนหลังคารั่วภายใต้พายุฝน

16 ห้ามนางก็เหมือนห้ามลม

หรือเอามือคว้าน้ำมัน

17 เหล็กลับเหล็กได้ฉันใด

คนเราก็ลับกันได้ฉันนั้น

18 ผู้ที่ดูแลต้นมะเดื่อจะได้กินผลของมัน

ผู้ที่ปกป้องดูแลเจ้านายจะได้รับเกียรติ

19 น้ำสะท้อนให้เห็นใบหน้าฉันใด

พฤติกรรมก็สะท้อนให้เห็นจิตใจของคนฉันนั้น

20 แดนมรณาและแดนพินาศไม่เคยเต็มอิ่ม

ตาของคนเราก็ไม่รู้จักอิ่มหนำ

21 เบ้าหลอมมีไว้สำหรับเงิน เตาถลุงมีไว้สำหรับทองคำ

ส่วนคนเราพิสูจน์ได้ด้วยคำยกย่องชมเชยของเขา

22 ถึงแม้จะเอาคนโง่ใส่ครกตำเหมือนใช้สากตำข้าว

ก็ยังไม่อาจขจัดความโง่ออกจากตัวเขา

23 จงดูแลความเป็นอยู่ของแพะแกะของเจ้าให้ดี

จงเอาใจใส่ฝูงสัตว์ของเจ้า

24 เพราะทรัพย์สมบัติไม่ยั่งยืนชั่วนิรันดร์

และมงกุฎก็ไม่ได้มั่นคงตลอดทุกชั่วอายุ

25 เมื่อฟางถูกเก็บไปและหญ้าใหม่งอกขึ้นมา และเมื่อพืชผักถูกเก็บเกี่ยวจากเนินเขา

26 เมื่อนั้นเจ้าจะได้เสื้อผ้าจากแกะ

และเจ้าจะได้ค่านาจากแพะ

27 เจ้าจะมีนมแพะพอเลี้ยงตนเองและครอบครัวของเจ้า

และบรรดาสาวใช้ของเจ้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/27-c57fca5e8c60189d6b132d98833fd4ee.mp3?version_id=179—

Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 28

1 คนชั่วเตลิดหนีแม้ไม่มีใครไล่ตาม

แต่คนชอบธรรมอาจหาญดั่งราชสีห์

2 เมื่อประเทศชาติเกิดกบฏก็มีเจ้าขุนมูลนายหลายคน

แต่ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจจะรักษาความสงบเรียบร้อยไว้

3 ผู้ครอบครองที่กดขี่คนยากจน

ก็เหมือนฝนตกหนักที่ทำลายพืชผล

4 ผู้ละทิ้งบทบัญญัติก็เชิดชูคนชั่ว

แต่ผู้ที่รักษาบทบัญญัติก็ต่อต้านคนชั่ว

5 คนชั่วไม่เข้าใจสิ่งที่ถูกต้อง

แต่ผู้ที่แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าใจถ่องแท้

6 เป็นคนยากจนแต่ดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์สุจริต

ดีกว่าเป็นคนรวยแต่อยู่บนทางคดโกง

7 ลูกที่มีความรู้ความเข้าใจก็ปฏิบัติตามคำสั่งสอน

แต่ผู้ที่คบกับคนตะกละก็ทำให้พ่ออับอายขายหน้า

8 ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นเพราะดอกเบี้ยจากคนจน

จะตกมาอยู่ในมือของผู้ที่เมตตาคนจน

9 คนที่ปิดหูไม่ยอมฟังคำสั่งสอน

แม้แต่คำอธิษฐานของเขาก็น่าชิงชัง

10 ผู้ที่พาคนเที่ยงธรรมไปในทางชั่ว

จะตกลงในกับดักของตัวเอง

แต่ผู้ที่ไร้ตำหนิจะได้รับสิ่งดีเป็นมรดก

11 คนรวยมักคิดว่าตนฉลาด

แต่คนจนที่มีความรู้ความเข้าใจก็จะมองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

12 เมื่อคนชอบธรรมมีชัย ผู้คนมากมายพากันออกมารื่นเริงยินดี

แต่เมื่อคนชั่วเรืองอำนาจ ต้องออกไปเสาะหาผู้คน

13 ผู้ที่ปกปิดบาปของตนจะไม่เจริญ

แต่ผู้ที่สารภาพผิดและละทิ้งบาปจะพบความเมตตากรุณา

14 ความสุขมีแก่ผู้ที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ

แต่ผู้ที่ทำใจแข็งกระด้างจะตกที่นั่งลำบาก

15 คนชั่วซึ่งปกครองคนยากจน

ก็เหมือนสิงห์ที่คำรามหรือหมีที่รี่เข้าใส่

16 ผู้ปกครองที่ขาดสำนึกที่ดีก็รังแกประชาชน

แต่ผู้ที่ชิงชังผลประโยชน์ที่ได้มาโดยทุจริตจะมีชีวิตยืนยาว

17 ผู้ที่ทุกข์ทรมานเพราะความผิดจากการฆ่าคนอื่น

จะต้องหลบหนีไปจนตาย

อย่าให้ผู้ใดช่วยเขาเลย

18 คนที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ตำหนิจะได้รับการอุ้มชู

แต่คนที่เดินอยู่ในทางคดโกงจะตกลงไปในหลุมลึก

19 ผู้ซึ่งไถพรวนที่ดินของตนจะมีอาหารอุดม

แต่ผู้ที่เอาแต่ฝันลมๆ แล้งๆ จะยากจนข้นแค้น

20 คนซื่อสัตย์จะได้รับพรล้นหลาม

แต่คนที่อยากรวยทางลัดไม่แคล้วถูกลงโทษ

21 การลำเอียงเป็นสิ่งไม่ดี

ถึงกระนั้นก็ยังมีคนยอมทำผิดเพื่อแลกกับเศษอาหาร

22 คนเห็นแก่ได้อยากรวยเร็ว

เขาไม่รู้ว่าความยากจนกำลังจะมาเยือน

23 ในบั้นปลาย ผู้ที่ท้วงติงอย่างตรงไปตรงมา

จะได้รับการชื่นชมยิ่งกว่าผู้ที่เลียแข้งเลียขา

24 คนที่ปล้นพ่อปล้นแม่

แล้วพูดว่า “ไม่ผิดอะไร”

ก็เป็นเพื่อนกับพวกล้างผลาญ

25 คนละโมบยั่วยุให้เกิดการวิวาท

ส่วนผู้ที่วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเจริญรุ่งเรือง

26 ผู้ที่วางใจในตัวเองเป็นคนโง่เขลา

แต่ผู้ที่ดำเนินในสติปัญญาจะได้รับการปกป้องให้พ้นภัย

27 ผู้ที่หยิบยื่นให้แก่คนยากจนจะไม่ขัดสน

แต่ผู้ที่ปิดตาเมินคนยากจนจะถูกสาปแช่งไม่รู้จบ

28 เมื่อคนชั่วเรืองอำนาจ ผู้คนก็หนีหาย

เมื่อคนชั่วพินาศ คนชอบธรรมก็เจริญ

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/28-6c84b6a745cac85822bb2cb8b2806916.mp3?version_id=179—

Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 29

1 ผู้ที่ถูกตักเตือนบ่อยๆ แต่ยังทำคอแข็งไม่ฟัง

จะแหลกสลายเกินเยียวยาในชั่วพริบตา

2 เมื่อคนชอบธรรมเจริญ ผู้คนก็ชื่นชมยินดี

เมื่อคนชั่วขึ้นปกครอง ผู้คนก็โอดครวญ

3 ชายที่รักสติปัญญาทำให้พ่อสุขใจ

แต่คนที่คบหาสมาคมกับหญิงโสเภณีก็จะหมดเนื้อหมดตัว

4 กษัตริย์สร้างความมั่นคงให้ชาติด้วยความยุติธรรม

แต่กษัตริย์ที่รับสินบนก็ทำลายชาติ

5 ผู้ที่ประจบสอพลอเพื่อนบ้านของตน

ก็กางข่ายไว้ดักเท้าของตน

6 คนเลวติดกับเพราะบาปของตน

แต่คนชอบธรรมโห่ร้องยินดี

7 คนชอบธรรมใส่ใจในความยุติธรรมเพื่อผู้ยากไร้

แต่คนชั่วไม่แยแส

8 คนชอบเยาะเย้ยทำให้บ้านเมืองโกลาหล

แต่คนฉลาดทำให้ความโกลาหลสงบลง

9 หากคนฉลาดต้องเผชิญหน้ากับคนโง่ในศาล

คนโง่ก็จะโกรธจนตัวสั่น หัวเราะเย้ยหยัน และไม่มีความสงบสุข

10 คนกระหายเลือดเกลียดชังคนสุจริต

และหาทางกำจัดผู้ที่เที่ยงธรรม

11 คนโง่เขลาระบายความโกรธเต็มที่

แต่คนฉลาดจะสงบนิ่งได้ในที่สุด

12 ถ้าผู้ครอบครองฟังความเท็จ

ข้าราชการทุกคนของเขาจะกลายเป็นคนชั่วไปด้วย

13 ผู้ยากไร้และผู้กดขี่ข่มเหงก็เหมือนกันอย่างหนึ่ง

คือองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานตาที่แลเห็นให้พวกเขาทั้งคู่

14 หากกษัตริย์ให้ความเที่ยงธรรมแก่ผู้ยากไร้

ราชบัลลังก์ก็จะยืนยงเสมอ

15 ไม้เรียวและการลงโทษจะให้ปัญญา

แต่เด็กที่ถูกปล่อยปละละเลยจะทำให้แม่อับอายขายหน้า

16 เมื่อคนชั่วเจริญ บาปก็ทวีขึ้น

แต่คนชอบธรรมจะเห็นความล่มจมของเหล่าคนชั่ว

17 จงอบรมสั่งสอนลูกของเจ้า แล้วเขาจะทำให้เจ้ามีสันติสุข

เขาจะทำให้เจ้าชื่นอกชื่นใจ

18 ในที่ซึ่งไม่มีการเผยพระวจนะ สังคมก็โกลาหลวุ่นวาย

แต่ความสุขมีแก่ผู้ที่รักษาบทบัญญัติ

19 จะอบรมสั่งสอนคนรับใช้ด้วยคำพูดอย่างเดียวไม่ได้

แม้เขาเข้าใจ เขาก็ไม่ยอมทำตาม

20 เจ้าเห็นคนที่พูดพล่อยๆ หรือไม่?

ยังมีความหวังสำหรับคนโง่มากกว่าเขา

21 การประคบประหงมคนรับใช้ตั้งแต่เด็ก

เขาจะนำความทุกข์โศกมาให้ในที่สุด

22 คนขี้โมโหก่อการวิวาท

และคนเลือดร้อนทำบาปมากมาย

23 ความหยิ่งผยองทำให้คนเราตกต่ำ

ส่วนผู้ที่จิตใจถ่อมสุภาพได้รับเกียรติ

24 ผู้ที่สมคบกับขโมยก็เป็นศัตรูกับตัวเอง

ต้องสาบานในศาลแต่ไม่กล้าเป็นพยาน

25 ความกลัวของคนเป็นเพียงกับดัก

แต่ผู้ที่วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ปลอดภัย

26 หลายคนวิ่งเต้นเข้าหาเจ้านาย

แต่คนเราได้รับความยุติธรรมจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

27 คนอยุติธรรมชิงชังคนชอบธรรม

แต่คนเที่ยงตรงชิงชังคนชั่ว

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/29-537acaf2ee5546023ed1dbc52b868179.mp3?version_id=179—

Categories
สุภาษิต

สุภาษิต 30

คำสอนของอากูร์

1 นี่คือคำสอนของอากูร์บุตรยาเคห์ เป็นถ้อยคำที่ได้รับการดลใจ

เขากล่าวกับอิธีเอลว่า

“ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อ่อนล้า

แต่ข้าพระองค์มีชัยได้

2 ข้าพเจ้าโง่เขลาเกินกว่าจะเป็นมนุษย์

ที่จริง ข้าพเจ้าไม่มีความเข้าใจอย่างมนุษย์ทั่วไป

3 ข้าพเจ้าไม่ได้เรียนรู้สติปัญญา

และไม่รู้จักองค์บริสุทธิ์

4 ใครเล่าได้ขึ้นสู่สวรรค์และลงมา?

ใครเล่าได้กำกระแสลมไว้ในอุ้งมือ?

ใครเล่าได้ห่อหุ้มห้วงน้ำไว้ในเสื้อคลุม?

ใครเล่าได้สถาปนาทั่วทุกมุมโลก?

ผู้นั้นมีนามว่าอะไร? และบุตรของผู้นั้นมีนามว่าอะไร?

แน่นอน เจ้ารู้!

5 “พระดำรัสทุกคำของพระเจ้าไม่มีข้อผิดพลาด

พระองค์ทรงเป็นโล่สำหรับบรรดาผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์

6 อย่าเพิ่มเติมพระวจนะของพระองค์

มิฉะนั้นพระองค์จะทรงตำหนิเจ้า และเจ้าจะถูกจับได้ว่าโกหก

7 “ข้าพระองค์ทูลขอสองสิ่งจากพระองค์

ขออย่าทรงปฏิเสธก่อนที่ข้าพระองค์จะตายไป

8 คือขอให้สิ่งเท็จเทียมและคำโกหกห่างไกลจากข้าพระองค์

ขออย่าให้ข้าพระองค์ยากจนหรือร่ำรวย

แต่ขอโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์

9 มิฉะนั้นข้าพระองค์อาจอิ่มหนำสำราญแล้วปฏิเสธพระเจ้า

และพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นใครกัน?’

หรือข้าพระองค์อาจยากจนแล้วลักขโมย

ก็ลบหลู่พระนามพระเจ้าของข้าพระองค์

10 “อย่ากล่าวร้ายคนรับใช้ให้นายเขาฟัง

เกรงว่าผู้นั้นจะแช่งด่าเจ้า และเจ้าต้องชดใช้

11 “มีบางคนแช่งด่าพ่อ

และไม่อวยพรแม่ของตน

12 บางคนคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์

ทั้งที่ยังไม่ได้รับการชำระมลทิน

13 บางคนยโสโอหังยิ่งนัก

บางคนปรายตาดูถูกผู้อื่น

14 บางคนฟันของเขาคือดาบ

บางคนกรามของเขาคือมีด

เขมือบผู้ยากไร้ไปจากแผ่นดิน

เขมือบคนขัดสนจากมวลมนุษยชาติ

15 “ปลิงมีปากสองปาก

มันร้องว่า ‘เอาอีก! เอาอีก!’

“มีสามสิ่งที่ไม่เคยอิ่มหนำ

ที่จริง มีสี่สิ่งที่ไม่เคยพูดว่า ‘พอแล้ว!’

16 คือแดนผู้ตายครรภ์ของหญิงหมัน

แผ่นดินที่ไม่เคยอิ่มน้ำ

และไฟที่ไม่เคยพูดว่า ‘พอแล้ว!’

17 “ตาที่เย้ยหยันพ่อ

ที่ดูหมิ่นไม่เชื่อฟังแม่ผู้ชรา

จะถูกกาแห่งหุบเขาจิกออกมา

จะถูกแร้งรุมกิน

18 “มีสามสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าประหลาดใจ

ที่จริง มีสี่สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ

19 คือการเคลื่อนไหวของนกอินทรีในท้องฟ้า

การเลื้อยของงูบนก้อนหิน

การแล่นของเรือในท้องทะเล

และความสัมพันธ์ของชายหนุ่มกับหญิงสาว

20 นี่คือการปรนเปรอตนเองของหญิงสำส่อน

นางกินแล้วเช็ดปาก

และพูดว่า ‘ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด’

21 “มีสามสิ่งที่ทำให้แผ่นดินโลกสั่นสะเทือน

ที่จริง มีสี่สิ่งซึ่งโลกทนไม่ได้

22 คือคนรับใช้ที่กลายเป็นกษัตริย์

คนโฉดเขลาที่มีอาหารเหลือเฟือ

23 หญิงที่ไม่มีใครรักได้แต่งงาน

สาวใช้ที่ครองตำแหน่งแทนนายหญิง

24 “มีสี่สิ่งในโลกซึ่งเล็กกระจิริด

แต่ฉลาดเหลือล้ำ ได้แก่

25 มด กำลังน้อยนิด

แต่ก็ยังรู้จักสะสมอาหารในฤดูร้อน

26 ตัวตุ่นผา แรงน้อย

แต่ก็ยังทำรังในซอกหิน

27 ตั๊กแตน ไม่มีราชา

แต่ก็ยังรวมตัวกันไปเป็นขบวน

28 จิ้งจก เอามือจับก็ได้

แต่ก็ยังพบมันในพระราชวัง

29 “มีสามสิ่งที่มีท่วงท่าสง่างาม

ที่จริง มีสี่สิ่งซึ่งเคลื่อนไหวอย่างองอาจ

30 คือราชสีห์ ผู้เป็นเจ้าป่า

มันไม่ถอยหนีสิ่งใด

31 พ่อไก่ที่เดินป้อ แพะตัวผู้

และกษัตริย์ที่ไม่มีใครต่อต้าน

32 “หากเจ้าได้ทำตัวโง่เขลาด้วยการยกย่องตัวเอง

หรือหากเจ้าได้วางแผนชั่ว

จงเอามืออุดปากของเจ้าเสีย!

33 เพราะเมื่อกวนนมก็ได้เนย

หรือเมื่อกระแทกจมูกก็ได้เลือดกำเดาฉันใด

เมื่อกวนโมโหก็ได้การวิวาทฉันนั้น”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PRO/30-3a7694d62220d70088ec33ef99a5f87c.mp3?version_id=179—