Categories
สดุดี

สดุดี 41

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

1 ความสุขมีแก่ผู้ที่ใส่ใจคนอ่อนแอ

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยกู้เขาในยามเดือดร้อน

2 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงปกปักรักษาและสงวนชีวิตของเขา

พระองค์จะทรงอวยพรเขาในแผ่นดิน

และจะไม่ทรงปล่อยให้ศัตรูทำกับเขาตามใจชอบ

3 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงประคับประคองเขาในยามเจ็บป่วย

และจะทรงช่วยให้เขาหายเป็นปกติ

4 ข้าพระองค์ทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงเมตตาข้าพระองค์

โปรดรักษาข้าพระองค์ให้หาย เพราะข้าพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์”

5 ศัตรูของข้าพระองค์พูดด้วยความมุ่งร้ายว่า

“เมื่อไหร่เขาจะตายและสิ้นชื่อไป?”

6 เมื่อใดก็ตามที่มีคนมาดูข้าพระองค์

เขาก็ทำเป็นพูดดีทั้งๆ ที่ใจคิดร้าย

แล้วก็ออกไปเที่ยวกระพือข่าว

7 ศัตรูทั้งหมดของข้าพระองค์รวมหัวกันนินทาว่าร้ายข้าพระองค์

และแช่งชักข้าพระองค์ว่า

8 “โรคร้ายกัดกินเขา

เขาไม่มีวันลุกจากเตียงนั่นได้หรอก”

9 แม้แต่เพื่อนสนิทที่ข้าพระองค์ไว้วางใจ

ผู้ที่รับประทานอาหารร่วมกับข้าพระองค์

ยังได้ทรยศหักหลังข้าพระองค์

10 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าแต่ขอพระองค์โปรดเมตตาข้าพระองค์ด้วย

ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ลุกขึ้นมาได้อีกเพื่อจะได้แก้แค้นพวกเขา

11 ข้าพระองค์ทราบว่าพระองค์ทรงพอพระทัยข้าพระองค์

เพราะศัตรูเอาชนะข้าพระองค์ไม่ได้

12 พระองค์ทรงเชิดชูข้าพระองค์ไว้เพราะข้าพระองค์ซื่อสัตย์สุจริต

ทรงตั้งข้าพระองค์ไว้ต่อหน้าพระองค์เป็นนิตย์

13 ขอถวายสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล

ตั้งแต่นิรันดรจวบจนนิรันดร

อาเมนและอาเมน

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/41-b78e3844259499e6b2a6e709d210e0de.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 42

(ถึงหัวหน้านักร้อง มัสคิล

ของบุตรโคราห์)

1 ข้าแต่พระเจ้า กวางกระหายหาธารน้ำฉันใด

จิตวิญญาณของข้าพระองค์ก็โหยหาพระองค์ฉันนั้น

2 จิตวิญญาณของข้าพระองค์กระหายหาพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่

เมื่อไหร่หนอ ข้าพระองค์จะได้ไปเข้าเฝ้าต่อหน้าพระองค์?

3 ข้าพระองค์กินน้ำตาต่างอาหารทั้งวันทั้งคืน

ขณะที่ผู้คนพูดกับข้าพระองค์วันยังค่ำว่า

“พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?”

4 ข้าพระองค์ยังจำสิ่งเหล่านี้ได้

เมื่อข้าพระองค์ระบายความในใจออกมา

จำได้ถึงครั้งที่ข้าพระองค์เคยไปร่วมกับฝูงชน

นำขบวนสู่พระนิเวศของพระเจ้า

ด้วยเสียงโห่ร้องยินดีและขอบพระคุณพระเจ้า

ในเทศกาลฉลอง

5 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงท้อแท้?

เหตุใดจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายในข้าพเจ้า?

จงหวังในพระเจ้า

เพราะข้าพเจ้าจะยังคงสรรเสริญพระองค์

พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า

6 จิตวิญญาณของข้าพระองค์ท้อแท้อยู่ภายในข้าพระองค์

ฉะนั้นข้าพระองค์จะระลึกถึงพระองค์

จากดินแดนแห่งแม่น้ำจอร์แดน

จากยอดภูเขาเฮอร์โมน จากภูเขามิซาร์

7 ที่ลึกกู่เรียกที่ลึก

ด้วยเสียงน้ำตกกึกก้องของพระองค์

กระแสคลื่นและน้ำหลากของพระองค์

ท่วมท้นข้าพระองค์

8 ยามกลางวันองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาความรักมั่นคงของพระองค์

ยามกลางคืน บทเพลงของพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า

เป็นคำอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งชีวิตของข้าพเจ้า

9 ข้าพเจ้าทูลพระเจ้าพระศิลาของข้าพเจ้าว่า

“เหตุใดทรงลืมข้าพระองค์แล้ว?

เหตุใดข้าพระองค์ต้องระทมทุกข์

ต้องทนการข่มเหงรังแกของศัตรู?”

10 ข้าพระองค์ร้าวรานเข้าไปถึงกระดูก

ยามเมื่อถูกศัตรูเหยียดหยาม

ตลอดวันเขาเยาะเย้ยว่า

“พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?”

11 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงท้อแท้?

เหตุใดจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายในข้าพเจ้า?

จงหวังในพระเจ้า

เพราะข้าพเจ้าจะยังคงสรรเสริญพระองค์

พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/42-78e969b575cabf88f2556a4191789569.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 43

1 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงว่าความ

และสู้คดีแทนข้าพระองค์ต่อประชาชาติอธรรม

ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ให้พ้นจากคนชั่วร้ายและคนหลอกลวง

2 พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า เป็นที่มั่นของข้าพระองค์

เหตุใดทรงทอดทิ้งข้าพระองค์?

เหตุใดข้าพระองค์ต้องระทมทุกข์

ต้องทนการข่มเหงรังแกของศัตรู?

3 ขอทรงโปรดส่งความสว่างและความจริงของพระองค์

มานำข้าพระองค์ไป

ให้สิ่งเหล่านั้นนำข้าพระองค์ไปสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

สู่ที่ประทับของพระองค์

4 แล้วข้าพระองค์จะไปยังแท่นบูชาของพระเจ้า

ไปยังพระเจ้าผู้ทรงเป็นความชื่นชมยินดี และความปลื้มปีติของข้าพระองค์

ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงพิณ

ข้าแต่พระเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์

5 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงท้อแท้?

เหตุใดจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายในข้าพเจ้า?

จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าพเจ้าจะยังคงสรรเสริญพระองค์

พระผู้ช่วยให้รอดและพระเจ้าของข้าพเจ้า

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/43-d6583a4395cd2cf667d5452ab26b29ae.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 44

(ถึงหัวหน้านักร้อง มัสคิล

ของบุตรโคราห์)

1 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยินมากับหู

บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายได้เล่าให้ฟัง

ถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำในสมัยของพวกเขา

เมื่อนานมาแล้ว

2 ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ออกไป

และทรงฝังรากบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย

พระองค์ทรงบดขยี้ชนเผ่าต่างๆ

และทรงทำให้เหล่าบรรพบุรุษของข้าพระองค์เจริญรุ่งเรือง

3 ไม่ใช่ด้วยดาบที่ทำให้พวกเขาพิชิตดินแดนได้

ไม่ใช่ด้วยแขนของพวกเขาที่นำชัยชนะมา

แต่ด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์ ด้วยพระกรของพระองค์

และด้วยความสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรักพวกเขา

4 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของข้าพระองค์และเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์

ผู้ทรงกำหนดชัยชนะแก่ยาโคบ

5 โดยพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายจึงขับไล่เหล่าศัตรูให้ล่าถอย

โดยพระนามของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายจึงบดขยี้ข้าศึก

6 ข้าพระองค์ไม่ได้วางใจในคันธนูของตน

ดาบไม่ได้นำชัยชนะมาให้ข้าพระองค์

7 แต่พระองค์ต่างหากทรงให้เราชนะศัตรู

พระองค์ทรงทำให้ปฏิปักษ์อับอายขายหน้า

8 ข้าพระองค์ทั้งหลายจะอวดพระเจ้าเรื่อยไป

จะสรรเสริญพระนามของพระองค์เป็นนิตย์

เสลาห์

9 แต่บัดนี้พระองค์ทรงทอดทิ้งและปล่อยให้ข้าพระองค์ทั้งหลายตกต่ำ

พระองค์ไม่ได้ร่วมทัพไปกับข้าพระองค์ทั้งหลายอีกแล้ว

10 พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายล่าถอยต่อหน้าศัตรู

เหล่าปฏิปักษ์ได้ปล้นข้าพระองค์ทั้งหลาย

11 พระองค์ทรงปล่อยให้ข้าพระองค์ทั้งหลายถูกขย้ำกินเหมือนแกะ

และทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกระจัดกระจายไปในหมู่ชนชาติต่างๆ

12 พระองค์ทรงขายประชากรของพระองค์ไปในราคาน้อยนิด

ไม่ได้อะไรจากการขายนั้นเลย

13 พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายตกเป็นขี้ปากของเพื่อนบ้าน

ผู้คนรอบข้างเหยียดหยามและเยาะเย้ย

14 พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกลายเป็นคำเปรียบเปรยในหมู่ประชาชาติ

ชนชาติต่างๆ ส่ายหน้าใส่ข้าพระองค์ทั้งหลาย

15 ข้าพระองค์อยู่อย่างอัปยศอดสูวันยังค่ำ

และหน้าของข้าพระองค์ปกคลุมด้วยความอับอาย

16 จากคำสบประมาทของคนที่ประณามและแช่งด่าข้าพระองค์

เพราะศัตรูที่ต้องการแก้แค้น

17 ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลาย

ทั้งที่ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ลืมพระองค์

หรือผิดต่อพันธสัญญาของพระองค์

18 หัวใจของข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ออกห่างจากพระองค์

เท้าของข้าพระองค์ทั้งหลายก็ไม่ได้คลาดจากทางของพระองค์

19 แต่พระองค์ทรงบดขยี้ข้าพระองค์ทั้งหลาย และทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกลายเป็นที่อาศัยของหมาป่า

พระองค์ทรงคลุมข้าพระองค์ทั้งหลายด้วยความมืดทึบ

20 หากเราได้ลืมพระนามพระเจ้าของเรา

หรือยกมือกราบไหว้พระต่างด้าว

21 พระเจ้าจะไม่ทรงทราบหรือ?

ในเมื่อพระองค์ทรงทราบความลี้ลับในใจ

22 แต่เพราะเห็นแก่พระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายก็เผชิญความตายวันยังค่ำ

ข้าพระองค์ทั้งหลายถูกนับว่าเป็นแกะที่จะเอาไปฆ่า

23 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงตื่นเถิด เหตุใดยังทรงหลับอยู่? ขอทรงลุกขึ้น!

ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดไป

24 เหตุใดพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์?

และทรงลืมที่ข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์ยากและถูกกดขี่ข่มเหง

25 ข้าพระองค์ทั้งหลายถูกเหยียบจมดิน

ร่างกายต้องนอนคลุกฝุ่น

26 ขอทรงลุกขึ้นและทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายด้วยเถิด

ขอทรงไถ่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะเห็นแก่ความรักมั่นคงของพระองค์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/44-e92e3e9d6ca8a96fa51b02ea9aa9fc62.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 45

(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนอง “ลิลลี่” มัสคิล

ของบุตรโคราห์ เพลงแต่งงาน)

1 จิตใจของข้าพเจ้าเปี่ยมด้วยเรื่องราวอันสูงส่ง

ขณะร่ายบทร้อยกรองถวายองค์ราชา

ลิ้นของข้าพเจ้าคือปากกาของกวีเอก

2 พระองค์ทรงเลิศล้ำที่สุดในหมู่มนุษย์

ริมฝีปากของพระองค์ได้รับการเจิมด้วยพระเมตตาคุณ

เพราะพระเจ้าทรงอวยพรพระองค์นิรันดร์

3 ขอทรงคาดพระแสงดาบเถิด ราชาผู้เกรียงไกร

ขอทรงคลุมพระองค์ด้วยพระบารมีและสง่าราศี

4 ทรงรุดหน้าไปอย่างมีชัยด้วยพระบารมี

รุดหน้าไปในนามแห่งความจริง ความอ่อนสุภาพ และความชอบธรรม

ขอพระหัตถ์ขวาสำแดงพระราชกิจอันน่าครั่นคร้าม

5 ขอให้ลูกศรคมกริบของพระราชาแทงทะลุหัวใจศัตรูของพระองค์

ขอให้ประชาชาติทั้งหลายล้มลงแทบพระบาทของพระองค์

6 ข้าแต่พระเจ้า ราชบัลลังก์ของพระองค์จะยืนยงเป็นนิจ

พระองค์จะทรงปกครองราชอาณาจักรด้วยคทาแห่งความยุติธรรม

7 พระองค์ทรงรักความชอบธรรม และทรงเกลียดชังความชั่ว

ฉะนั้นพระเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าของพระองค์จึงทรงตั้งพระองค์ไว้เหนือพระสหายทั้งปวง

โดยทรงเจิมพระองค์ด้วยน้ำมันแห่งความชื่นชมยินดี

8 ฉลองพระองค์หอมกรุ่นด้วยมดยอบ กฤษณา และการบูร

เสียงดนตรีเครื่องสายจากพระราชวังที่ตกแต่งด้วยงาช้าง

ทำให้พระองค์เกษมเปรมปรีดิ์

9 พระราชธิดาของบรรดากษัตริย์อยู่ท่ามกลางเหล่าสตรีสูงศักดิ์ของพระองค์

เบื้องขวาของพระองค์คือคู่อภิเษกผู้ทรงเครื่องประดับทองคำจากเมืองโอฟีร์

10 พระราชธิดาเอ๋ย ขอทรงสดับฟังและพิเคราะห์ดู

ขอทรงลืมชนชาติและลืมบ้านบิดาของพระนาง

11 พระราชาพึงพระทัยในความงามของพระนาง

ขอทรงถวายเกียรติแด่พระองค์เพราะทรงเป็นเจ้านายของพระนาง

12 ธิดาแห่งเมืองไทระจะนำเครื่องบรรณาการมาถวาย

คนมั่งมีจะแสวงหาความโปรดปรานจากพระนาง

13 เจ้าหญิงคู่อภิเษกทรงสง่าราศีภายในห้องประทับ

ทรงพัสตราภรณ์งดงามถักทอจากทองคำ

14 ทรงฉลองพระองค์งามตระการเข้าเฝ้ากษัตริยพร้อมด้วยขบวนของสาวพรหมจารี

15 เป็นขบวนพิธีที่เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี และเปรมปรีดิ์

เคลื่อนเข้าสู่พระราชวังของกษัตริย์

16 บรรดาพระโอรสจะขึ้นครองราชย์แทนที่บรรพบุรุษของพระองค์

และพระองค์จะทรงแต่งตั้งพระโอรสให้เป็นเจ้านายทั่วทั้งแผ่นดิน

17 ข้าพเจ้าจะทำให้พระนามของพระองค์เลื่องลือตลอดทุกชั่วอายุ

ฉะนั้นประชาชาติทั้งหลายจะสรรเสริญพระองค์เป็นนิตย์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/45-2d43f8acd165b893501242e15c1ee9d2.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 46

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทเพลงของบุตรโคราห์ ตามทำนองอาลาโมธ)

1 พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา

เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมเสมอในยามทุกข์ร้อน

2 ฉะนั้นเราจะไม่กลัว ถึงแม้โลกจะสั่นสะเทือน

และภูเขาทลายราบลงสู่ใจกลางทะเล

3 ถึงแม้มหาสมุทรคำรามก้องและซัดคลื่นเป็นฟองฟูฟ่อง

และภูเขาสะเทือนเลื่อนลั่น

เสลาห์

4 มีแม่น้ำสายหนึ่งที่ให้ความยินดีแก่นครของพระเจ้า

ซึ่งเป็นที่ประทับบริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุด

5 พระเจ้าสถิตในนคร นครนั้นจะไม่ล่มสลาย

พระเจ้าจะทรงช่วยในยามรุ่งอรุณ

6 ประชาชาติทั้งหลายโกลาหลอลหม่าน อาณาจักรต่างๆ ล่มสลาย

พระเจ้าทรงเปล่งพระสุรเสียง แผ่นดินโลกก็หลอมละลายไป

7 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์สถิตกับเรา

พระเจ้าของยาโคบทรงเป็นป้อมปราการของเรา

เสลาห์

8 มาเถิด มาดูพระราชกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ดูความเริศร้างที่พระองค์ทรงนำมาสู่โลก

9 พระองค์ทรงกระทำให้สงครามยุติทั่วโลก

ทรงหักคันธนู และทำให้หอกหักสะบั้น

พระองค์ทรงเผาโล่

10 “จงนิ่งสงบและรู้ว่าเราเป็นพระเจ้า

เราจะได้รับการยกย่องท่ามกลางประชาชาติ

เราจะได้รับการยกย่องในโลก”

11 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์สถิตกับเรา

พระเจ้าของยาโคบทรงเป็นป้อมปราการของเรา

เสลาห์

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/46-074209074308900d0c89d8ce8f9a5757.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 47

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของบุตรโคราห์)

1 ประชาชาติทั้งปวงเอ๋ย จงปรบมือ

จงโห่ร้องยินดีถวายแด่พระเจ้า

2 เพราะพระยาห์เวห์ผู้สูงสุดนั้นน่าครั่นคร้ามยิ่งนัก

ทรงเป็นจอมกษัตริย์แห่งสากลโลก!

3 พระองค์ทรงปราบบรรดาประชาชาติให้อยู่ใต้อำนาจของเรา

ทรงปราบชนชาติทั้งหลายให้อยู่ใต้เท้าของเรา

4 พระองค์ทรงเลือกสรรมรดกให้แก่เรา

ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของยาโคบผู้ที่พระองค์ทรงรัก

เสลาห์

5 พระเจ้าเสด็จขึ้นท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดี

องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จขึ้นท่ามกลางเสียงแตร

6 จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า จงร้องสรรเสริญ

จงร้องเพลงสรรเสริญองค์กษัตริย์ของเรา จงร้องสรรเสริญ

7 เพราะพระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์แห่งสากลโลก

จงร้องเพลงสดุดีสรรเสริญพระองค์เถิด

8 พระเจ้าทรงครอบครองเหนือนานาประชาชาติ

พระเจ้าประทับบนพระที่นั่งบริสุทธิ์ของพระองค์

9 บรรดาเจ้านายของชนชาติทั้งหลายร่วมชุมนุมกัน

เป็นประชากรของพระเจ้าของอับราฮัม

เพราะว่ากษัตริย์ทั้งหลายของแผ่นดินโลกเป็นของพระเจ้า

พระองค์ทรงเป็นที่เทิดทูนสูงสุด

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/47-430f7fcbdbe8335973da6cfd24576a07.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 48

(เพลงบทหนึ่ง บทสดุดีของบุตรโคราห์)

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยิ่งใหญ่ และควรแก่การสรรเสริญเป็นที่สุด

ในนครแห่งพระเจ้าของเราภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

2 ศิโยนนั้นสูงเด่นงามตายิ่งนัก

เป็นความปีติยินดีของคนทั่วโลก

ดั่งยอดสูงสุดของซาโฟน

ศิโยนนครแห่งองค์จอมราชัน

3 พระเจ้าทรงประทับในป้อมของนครนั้น

พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เองเป็นปราการของนคร

4 เมื่อบรรดากษัตริย์รวมกำลังกัน

เมื่อพวกเขารุดหน้าไปด้วยกัน

5 พวกเขาอัศจรรย์ใจเมื่อเห็นนครนั้น

พวกเขาพากันหนีไปด้วยความกลัว

6 พวกเขาหวาดหวั่นขวัญผวา

เจ็บปวดดั่งผู้หญิงที่กำลังคลอดบุตร

7 พระองค์ทรงทำลายพวกเขาให้เป็นเหมือนเรือแห่งทารชิช

ซึ่งแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยลมตะวันออก

8 เราได้ยินมาอย่างไร

เราก็ได้เห็นอย่างนั้นว่า

ในนครของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

ในนครของพระเจ้าของเรา

พระเจ้าทรงทำให้นครนั้นมั่นคง

นิรันดร์

เสลาห์

9 ข้าแต่พระเจ้า ภายในพระวิหารของพระองค์

ข้าพระองค์ทั้งหลายใคร่ครวญถึงความรักมั่นคงของพระองค์

10 ข้าแต่พระเจ้า เช่นเดียวกับพระนามของพระองค์

คำสรรเสริญของพระองค์ก็ไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลก

พระหัตถ์ขวาของพระองค์บริบูรณ์ด้วยความชอบธรรม

11 ภูเขาศิโยนชื่นชมยินดี ชาวยูดาห์ปลื้มปีติ

เนื่องด้วยการพิพากษาของพระองค์

12 จงเดินรอบศิโยน ไปให้ทั่ว

นับจำนวนหอคอยในเมืองนั้น

13 สังเกตดูเชิงเทิน

เที่ยวดูป้อมปราการ

เพื่อท่านจะได้เล่าให้คนรุ่นต่อไปฟัง

14 เพราะว่าพระเจ้าองค์นี้ทรงเป็นพระเจ้าของเราตลอดนิรันดร์

พระองค์จะทรงเป็นผู้นำทางของเราจนถึงที่สุด

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/48-30b1889a3bcbcbba297c0aab9c336153.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 49

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของบุตรโคราห์)

1 ชนชาติทั้งปวงเอ๋ย จงฟังทางนี้

ทุกคนทั่วโลกจงฟัง

2 ทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย

คนจนและคนรวย

3 ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวถ้อยคำแห่งสติปัญญา

เนื้อความจากใจของข้าพเจ้านี้จะให้ความเข้าใจ

4 ข้าพเจ้าจะเอียงหูฟังภาษิต

ข้าพเจ้าจะใช้พิณขานไขปริศนา

5 ทำไมข้าพเจ้าต้องกลัวยามตกที่นั่งลำบาก

เมื่อคนเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายรุมล้อมข้าพเจ้า?

6 คนพวกนั้นพึ่งพิงทรัพย์สมบัติ

และอวดอ้างความร่ำรวยเหลือล้นของตน

7 ไม่มีสักคนไถ่ชีวิตให้ใครได้

หรือถวายค่าไถ่ชีวิตของเขาแด่พระเจ้า

8 ค่าไถ่สำหรับชีวิตหนึ่งนั้นแพงนัก

ชดใช้แค่ไหนก็ไม่พอ

9 เพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์

และไม่ต้องพบกับความเน่าเปื่อย

10 เพราะทุกคนก็เห็นว่าคนมีปัญญาก็ตาย

คนโง่และคนสิ้นคิดก็ย่อยยับเหมือนกัน

และเขาทิ้งทรัพย์สมบัติของตนไว้ให้คนอื่น

11 หลุมศพของเขาจะเป็นบ้านของเขาตลอดกาล

เป็นที่อาศัยตลอดทุกชั่วอายุ

แม้พวกเขาได้ตั้งชื่อดินแดนตามชื่อของตัว

12 แต่มนุษย์ไม่ว่าจะร่ำรวยสักปานใดก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป

เขาเหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่ต้องจบชีวิตลง

13 นี่แหละคือชะตากรรมของคนที่วางใจตัวเอง

และของสาวกที่เห็นชอบกับคำสอนของเขา

เสลาห์

14 เขาเป็นเหมือนแกะที่ถูกกำหนดไว้สำหรับหลุมฝังศพ

และความตายจะมากัดกินเขา

ผู้เที่ยงธรรมจะปกครองเหนือพวกเขาในยามรุ่งอรุณ

ร่างของเขาจะเน่าเปื่อยในหลุมศพ

ห่างไกลจากคฤหาสน์อันโอ่อ่าของตน

15 แต่พระเจ้าจะทรงไถ่ชีวิตของข้าพเจ้าให้พ้นจากอำนาจของหลุมฝังศพ

พระองค์จะทรงรับข้าพเจ้าไว้แน่นอน

เสลาห์

16 ไม่ต้องหวั่นวิตกเมื่อใครคนหนึ่งร่ำรวยขึ้น

เมื่อบ้านของเขาโอ่อ่าตระการขึ้น

17 เพราะเมื่อเขาตาย เขาเอาอะไรไปด้วยไม่ได้

ความเลิศหรูของเขาจะไม่ตามเขาลงไป

18 แม้ขณะมีชีวิตอยู่เขาเรียกตัวเองว่าผู้เป็นสุข

และผู้คนยกย่องในยามที่เขารุ่งโรจน์

19 เขาจะไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา

ผู้ซึ่งไม่เคยเห็นแสงแห่งชีวิต

20 ผู้ที่มีทรัพย์สมบัติแต่ปราศจากความเข้าใจ

ก็เหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่ต้องจบชีวิตลง

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/49-03041c9cbccf9af02897ca1a7c588efb.mp3?version_id=179—

Categories
สดุดี

สดุดี 50

(บทสดุดีของอาสาฟ)

1 องค์ทรงฤทธิ์ พระเจ้า พระยาห์เวห์ตรัสเรียกคนทั้งโลก

จากที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงที่ดวงอาทิตย์ตกให้มาชุมนุมกัน

2 พระเจ้าทรงเปล่งรัศมี

จากศิโยนอันงามพร้อม

3 พระเจ้าของเราเสด็จมาและจะไม่ทรงนิ่งเงียบ

เปลวไฟเผาผลาญอยู่ต่อหน้าพระองค์

พายุโหมกระหน่ำอยู่รอบพระองค์

4 พระองค์ตรัสเรียกชุมนุมฟ้าสวรรค์เบื้องบนและแผ่นดินโลก

เพื่อจะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์

5 “บรรดาผู้ที่เราได้ชำระไว้แล้ว จงรวมกันมาหาเรา

ผู้ซึ่งเข้าร่วมพันธสัญญากับเราทางเครื่องบูชา”

6 ฟ้าสวรรค์ป่าวประกาศความชอบธรรมของพระองค์

เพราะพระเจ้าเองทรงเป็นองค์ตุลาการ

เสลาห์

7 “ประชากรของเราเอ๋ย จงฟังและเราจะพูด

อิสราเอลเอ๋ย เราจะแจ้งข้อหาของเจ้า

เราเป็นพระเจ้า พระเจ้าของเจ้า

8 เราไม่ได้ตำหนิเจ้าในเรื่องเครื่องบูชา

หรือเครื่องเผาบูชาที่เจ้านำมาถวายเราอย่างสม่ำเสมอ

9 เราไม่ได้ต้องการวัวหนุ่มจากโรงวัวของเจ้า

หรือแพะจากคอกของเจ้า

10 เพราะสัตว์ทุกชนิดในป่าเป็นของเรา

รวมทั้งสัตว์เลี้ยงบนเนินเขานับพัน

11 เรารู้จักนกทุกตัวบนภูเขาทั้งหลาย

บรรดาสัตว์ในท้องทุ่งเป็นของเรา

12 หากเราหิว เราจะไม่บอกเจ้า

เพราะโลกนี้และสิ่งสารพัดในโลกล้วนเป็นของเรา

13 เรากินเนื้อวัวผู้หรือ?

เราดื่มเลือดแพะหรือ?

14 จงถวายเครื่องบูชาขอบพระคุณแด่พระเจ้า

ทำตามที่ได้ถวายปฏิญาณต่อองค์ผู้สูงสุด

15 และจงร้องทูลเราในยามทุกข์ร้อน

เราจะช่วยกู้เจ้าและเจ้าจะให้เกียรติเรา”

16 ส่วนคนชั่ว พระเจ้าตรัสกับเขาว่า

“เจ้าถือสิทธิ์อะไรท่องบทบัญญัติของเรา

หรืออ้างพันธสัญญาของเรา?

17 ในเมื่อเจ้าเกลียดคำสอนของเรา

และเหวี่ยงถ้อยคำของเราทิ้ง

18 เจ้าเห็นขโมยก็สมรู้ร่วมคิดกับเขา

เจ้าคบหากับคนล่วงประเวณี

19 เจ้าใช้ปากทำชั่ว

ตวัดลิ้นเพื่อล่อลวง

20 เจ้าพร่ำพูดให้ร้ายพี่น้อง

นินทาว่าร้ายกระทั่งพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน

21 เจ้าทำสิ่งเหล่านี้ เราก็นิ่งอยู่

เจ้าเลยพลอยคิดว่าเราก็เป็นเหมือนเจ้า

แต่เราจะกำราบเจ้า

และกล่าวโทษเจ้าซึ่งๆ หน้า

22 “เจ้าผู้ลืมพระเจ้า จงพิจารณาเรื่องนี้

มิฉะนั้นเราจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ โดยไม่มีใครช่วยได้

23 ผู้ที่ถวายเครื่องบูชาขอบพระคุณก็ให้เกียรติเรา

และผู้ที่เตรียมทางของตนไว้ดี

เราก็จะสำแดงความรอดของพระเจ้าแก่เขา”

—https://api-cdn.youversionapi.com/audio-bible-youversionapi/26/32k/PSA/50-da21e4f56becc0671cbac2a5999cc199.mp3?version_id=179—